| • เกาเหลาโหด เลว โกง (ตอนที่1) |
|
โพสต์โดย พระอินทร์ , วันที่ 23 ม.ค. 53 เวลา 14:31:04 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
“แผนปฏิบัติการ (ใครเข้มแข็ง) ไทยเข้มแข็ง 2555”ซึ่งรัฐบาล “หล่อหลักลอย” คุยนักคุยหนาว่าเป็นโครงการลงทุนภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงานรวมถึงการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการลงทุนของภาครัฐ
อีกทั้งคุยโวว่าสามารถทำให้มีตำแหน่งงานใหม่ประมาณ 1.6 ล้านคน ภายใน 3 ปี และสามารถที่จะรองรับคนตกงานในปี 2552 ได้ประมาณร้อยละ 85 รวมถึงให้มีการกระจายการลงทุนทางด้านบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานไปสู่ต่างจังหวัดและชนบท
เป้าหมายของรัฐบาลใครเข้มแข็ง คือ จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ยกระดับคุณภาพการศึกษาที่ทันสมัย ปฏิรูประบบสาธรณสุข สร้างอาชีพสร้างรายได้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เร่งรัดการหารายได้จากการท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างรายได้จากเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
ทั้งหมดเป็นการลงทุนยกเครื่องประเทศครั้งใหญ่ ภายใต้ พ.ร.บ.และ พ.ร.ก. เงินกู้รวม 8 แสนล้านบาท แต่กลับกลายเป็นผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล จนเกิดคำถามว่าการสร้างหนี้เพื่อฟื้นประเทศไทยครั้งนี้ ทำให้ใครเข้มแข็งกันแน่ระหว่างประชาชนหรือนักการเมือง
ล่าสุด งบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็ง ปี 2552 ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวนกว่า 86,000 ล้านบาท ซึ่งมากเป็น 60 เท่าของงบฯ การจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ ปี 2541 ซึ่งมีมูลค่าเพียง 1,400 ล้านบาท ก็เกิดอาการโกงแซงโค้งขึ้นมาอีกราย
สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องเข้าใจร่วมกันคือ งบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็งนั้น รัฐบาลไทยต้องไปกู้เงินเขามาเพื่อพัฒนาศักยภาพประเทศ หากใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพสิ่งที่ตามมา คือ หนี้ในอนาคต และแน่นอนย่อมทำให้ฐานะการเงินการคลังของรัฐบาลอ่อนแอลง
โครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะเป็นประโยชน์กับพลเมืองในประเทศก็จะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะรัฐบาลต้องหาเงินมาใช้หนี้ และเมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่รู้ว่าประชาธิปัติย์ยังได้เป็นรัฐบาลอยู่หรือไม่เหมือนเช่นในอดีต คือ สร้างหนี้รอไว้ให้รัฐบาลไทยรักไทยมาใช้หนี้แทน
ความสง่างามของความเป็นนายกรัฐมนตรี “หล่อหลักลอย” ที่เคยกล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย” ครั้งหนึ่งว่า “...ความรับผิดชอบทางการเมืองของนักการเมือง ต้องสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย...” ไม่รู้ว่ายังจำได้อยู่หรือเปล่า
นายกรัฐมนตรีที่มีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอก และมักอ้างถึงความรับผิดชอบที่ต้องยอมรับต่อกระแสสังคมโดยการตัดสินใจตามกระแสสังคม ด้วยการอ้างมาตรฐาน หรือกฎเหล็กด้วยวาทกรรมว่า “เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องรักษามาตรฐานไว้”
หากพิจารณาจากปูมหลังและความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถลอกเลียนแบบได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะรู้ว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี “หล่อหลักลอย” ถึงต้องรักษามาตรฐานของการยอมรับกระแสสังคมมาจนถึงทุกวันนี้
ในอดีต เคยมีการไปตะโกนใส่ความกันในโรงภาพยนตร์ ก็เพื่อสร้างกระแสสังคมกดดัน นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งก็ทำได้สำเร็จในขณะนั้น หรืออย่างเมื่อเร็วๆนี้ กรณีหวยออนไลน์ เช้านายกฯ เปรยว่าอยากยกเลิก บ่ายๆ ก็มีโพลออกมารับลูกว่ากระแสสังคมเห็นด้วยกับนายกฯ อะไรจะรวดเร็วปานกามนิตหนุ่มซะขนาดนั้น!!!
ในขณะที่โครงการไทยเข้มแข็งมีความไม่โปร่งใสเกิดการทุจริตขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลต่างหากำไรเกินควรจากโครงการต่างๆ จึงเป็นหน้าที่ ที่พวกเราควรทำการตรวจสอบและเปิดเผยวิธีการทุจริตของรัฐบาลหล่อหลักลอยที่กำลังผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดมาให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ
ควบคู่ไปกับการชุมนุมกดดันให้รัฐบาลรับผิดชอบด้วยการประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และควบคู่ไปกับการเปิดโปงขบวนการทุจริตของกลุ่มอำมาตย์ในทุกๆเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองในอนาคต
การชุมนุมของคนเสื้อแดงเกิดขึ้นจากการรัฐประหารเมื่อ 19 กันยา 2549 ซึ่งถือเป็นความไม่ยุติธรรมขั้นต้น และได้เห็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดงในรูปแบบสองมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรมที่เลือกปฏิบัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นชนวนให้คนรากหญ้ารากแก้ว ลุกฮือกันทั่วประเทศ
ความยุติธรรมถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในสังคมไทยปัจจุบัน หากผู้มีอำนาจยังดำเนินการแบบสองมาตรฐานอยู่ เชื่อได้แน่ว่าความปั่นป่วนและความหายนะจะติดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อมันไม่สามารถยุติได้ด้วยธรรม
แต่...สิ่งที่เป็นจริงและน่าขยะแขยงที่สุดนั่นคือ ผู้มีอำนาจบารมีนอกรัฐธรรมนูญทั้งหลายกลับนั่งมองความหายนะของพลเมืองและความหายนะของประเทศได้อย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน เสมือนว่าความทุกข์ยากทั้งหลายเหล่านั้นมิได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาแม้แต่น้อยนิด
และนั่นคือสิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดให้ยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นในจิตใจอารมณ์และความรู้สึกของความโกรธแค้นที่สั่งสมเพิ่มมากยิ่งขึ้นทุกวัน จึงทำให้มวลชนคนเสื้อแดงยิ่งนับวันยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นหลังจากได้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น
ยิ่งมวลชนคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้นเท่าไร การรุกกลับจากฝ่ายอำมาตย์และนักการเมืองฝ่ายนรกส่งมาเกิดก็ยิ่งหนักหนามากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะจากนี้ไปการรุกกลับจากฝ่ายขุนศึกอำมาตย์และนักการเมืองนรกเหล่านี้ กำลังจะย้อนกลับไปใช้แผนสกปรกในอดีตเมื่อครั้ง 6 ตุลา 2519
พี่น้องเสื้อแดงที่รักยิ่ง โปรดใช้สติและความสุขุมรอบคอบในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงประชาธิปไตยที่ถูกปล้นไปกลับคืนมาด้วยความไม่ประมาท เพราะจากนี้ไปไม่นานขบวนการดาวสยามในอดีตกำลังจะกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งอย่างเต็มตัว โปรดติดตามเร็วๆนี้
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมา: http://www.sanamluang.tv/board/index.php?topic=961.0
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1111 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย พระอินทร์
IP: Hide ip
, วันที่ 23 ม.ค. 53
เวลา 14:31:04
|
