วาทกรรมแพ้เพราะเงิน ประชาชนโง่ซื้อได้ ถูกผลิตซ้ำมานับแต่ยุคชวน จนยุคอภิสิทธิ์ ตอนนี้ก็คิวมาดามฮุ้ง ตราบที่พวกคุณไม่ได้รู้จักประชาชน ไม่ได้เข้าไปนั่งในใจเขา เขาลุกขึ้นเรียกร้องก็ฆ่า เขาไม่เลือกคุณก็ว่าโง่เห็นแก่เงินทักษิณ ตราบนั้นแมงสาปก็ยังแพ้ซ้ำซาก

โดย หรี่ฟุน
27 กรกฏาคม 2554

เห็นการให้สัมภาษณ์ของมาดามฮุ้ง แซ่ล้อ แห่งพรรคแมลงสาบ (คุณหญิง กัลยา โสภณพนิช) แล้วอยากจะอ้วกก

ขอนำคำสัมภาษณ์ลงในมติชนบางตอน ของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ อดีตรัฐมนตรี และสตรีที่มีคำนำหน้านามว่า คุณหญิง ที่ปัญญาอ่อนหรือแกล้งโง่ ไม่น่าเชื่อ ที่คนระดับเชี่ยวชาญทางการเมืองเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองที่มีอายุยาวนานถึง 65 ปี จะคิดแก้ไขปัญหาพรรคตัวเองและชาติบ้านเมืองด้วยความคิดที่ปัญญาอ่อนเช่นนี้

"คุณหญิงกัลยา-สะไภ้แบงก์บัวหลวง" ซัด "รากหญ้ามันบ้าไหม"

(ปชป. ) แพ้พรรคเพื่อไทย (พท. ) ในการเลือกตั้งที่ผ่านมามาจากการจุดประเด็นเรื่อง"ชนชั้น"ของคนเสื้อแดง ไม่ถูกใจคนใน ปชป. นัก หนึ่งในนั้นรวมถึงคนชื่อ "กัลยา โสภณพนิช" ที่พร้อมโต้แย้งว่าไม่ใช่

@ ยังมีจุดใดต้องปรับปรุง

ส่วนตัวมองว่า ปชป.ต้องเข้าหามวลชนให้มากขึ้น เพราะเราถือเป็นพรรคของมวลชน จึงต้องให้เขาเข้าใจเรา เราเข้าใจเขา ให้เข้าใจกันมากขึ้น ถ้ารวมพลังกันได้ และไปถูกทิศถูกทาง เราก็จะมีชุดนโยบายที่ไม่ซ้ำแบบใคร มีประโยชน์กับประชาชนและทำได้จริง แม้จะต้องใช้เวลาทำ 10-20 ปี เป็นนโยบายที่เรียกคำใหญ่ๆ ว่า นโยบายที่ใช้ในการสร้างชาติ

เราต้องฟังคนอื่นว่าเขาว่าอย่างไร ไม่จำเป็นต้องมาว่ากันเอง หากจะมีก็แค่รับทราบเป็นบทเรียน เวลานี้ไม่ควรไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะตอนนี้ ปชป.คงจะมองไปข้างหน้าว่าเราจะรวมพลังไปอย่างไร เพื่อนำพรรคและประเทศให้ก้าวข้ามวิกฤต

@ อะไรเป็นโจทย์ที่คณะกรรมการบริหาร ปชป.ชุดใหม่ต้องมาแก้ไข

คงตอบแทนไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการชุดใดทั้งสิ้น แต่สำคัญที่สุดคือเราต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทำโดยวิธีไหน อย่างไร ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ ไม่เหมือนกับโพล ต้องทำรอบคอบ รัดกุม ทำหลายอย่างหลายรอบ กระทั่งสมาชิก ปชป.เห็นว่า เออ! เขาพูดจริง

ถ้าเราได้ข้อมูลละเอียด แม่นยำ ถูกต้อง แล้วคนใน ปชป.เห็นพ้องต้องกัน ก็จะนำจุดเหล่านี้มากางดูว่า เขาว่าเราอย่างนั้น อย่างนี้ เพราะอะไร จริงไหม เพราะอะไรทั้งๆ ที่บางครั้งเราคิดเราทำดี๊ดี แต่คนไม่เคยรู้เลย เราตั้งใจดี เราทำดี เราคิดดี เราพูดดี..แต่มันไปไม่ถึง นี่คือตัวอย่าง ถึงได้บอกว่าเราต้องเข้าหามวลชนอย่างต่อเนื่อง

@ ที่ผ่านมา ปชป.มักถูกมองว่ามีปัญหาในการเข้าถึงมวลชนคนชั้นล่าง

นี่คือความเห็นของคุณ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราควรจะค้นหา เพราะ ปชป.บอกว่าตัวเองเป็นพรรคมวลชน ก็ต้องทำตัวให้เป็นพรรคมวลชนจริงๆ ทุกคนเป็นเจ้าของที่เข้ามาสะท้อนความเห็นได้

"เราอาจจะยังไม่ได้เปิดประตูทุกบานก็ได้ หรือสิ่งที่เราพูดไป เขาอาจฟังไม่รู้เรื่อง เขาไม่รับฟัง เขาไม่อยากฟัง สมมุตินะคะ แต่มันเพราะอะไร..ถูกไหม มันมีหลายแง่หลายมุม ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น และหวังว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะรับฟังข้อมูลที่กำลังรวบรวมกันอยู่ อย่างหลากหลายวิธี หลากหลายคณะ หลากหลายชนชั้น หลากหลายกลุ่ม เพราะเสียงสะท้อนดังกล่าวจะช่วยแนะนำว่า มันเป็นอย่างนี้ ควรจะทำอย่างไร เรื่องนี้อาจจะใช้เวลาสักนิด แต่คิดว่าคุ้ม"

@ อย่างพื้นที่ภาคอีสานที่เป็นจุดชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ ปชป.ยังมีจุดด้อยในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งที่ในอดีต ปชป.เคยมี ส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าวมาก เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

ในภาคอีสานก็มีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่การปรับเปลี่ยนนั้น อาจจะยังไม่พอ ได้ข้อมูลไม่ดีพอ หรือใช้วิธีการไม่ดีพอ..ซึ่งตรงนี้เรายังไม่รู้

"แต่ขณะนี้ มันเป็นโอกาสของ ปชป.มาก ที่ทุกคนว่าง ต้องเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เราต้องมาช่วยกันคิดว่าทำไม ย้อนไปดู ไม่ใช่ตำหนิ แต่คิดว่าทำไม เพราะ ส.ส.ปชป.มีขึ้นมีลงเป็นช่วงๆ ที่สำคัญคือต้องกระฉับกระเฉงกว่านี้ ทันสมัยกว่านี้ คนหนุ่มสาวที่เข้ามาก็ต้องดูว่าจะไปวางตรงไหน ให้ทำงานอะไรถึงจะเหมาะสม นี่คือแนวทางที่เราจะทำอะไรได้เยอะ"

@ ในฐานะผู้หญิงมีความเห็นต่อว่าที่นายกฯหญิงอย่างไร ในทางการเมืองการเป็นผู้หญิงถือเป็นข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบ

(เสียงแข็ง) ดิฉันพูดหลายครั้งว่า การเมืองไม่มีผู้หญิงหรือผู้ชาย ขอให้คุณทำหน้าที่ให้ดี ให้กับ ปชช.ก็แล้วกัน เมื่อไรที่คุณทำไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ว่าผู้หญิงกับผู้ชายก็เหมือนกัน เพราะเราแข่งขันกันทำความดี ใช้ความสามารถเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะอ่อนแอ น่าสงสาร ไม่มี!

@ หลายคนวิเคราะห์ว่า เหตุที่ ปชป.แพ้เลือกตั้งครั้งนี้เพราะถูกทำให้กลายเป็นตัวแทนชนชั้นกลาง ขณะที่ พท.เป็นตัวแทนชนชั้นล่าง เลือกตั้งครั้งไหนก็แพ้เพราะชนชั้นล่างมีมากกว่าชนชั้นกลาง

ดิฉันไม่เชื่อคำพูดนั้น มันเป็นการตอกย้ำจากฝ่ายตรงข้าม เราทำนโยบายเพื่อประชาชนตลอด เราไม่ได้ทำนโยบายเพื่อชนชั้นกลาง คุณไม่เคยสังเกตเลยหรือว่าเขาหยิบเรื่องนี้มาตอกย้ำ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ เป็นการกล่าวหามากกว่า

เราพยายามลงลึกไปถึงชาวบ้าน ทำนโยบายให้รากหญ้าได้ประโยชน์สูงสุด อย่างนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ทำให้คน 4 ล้านกว่าครอบครัว ทำให้เขาได้เงินโดยตรง ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ที่เขาจะมีเงินสดๆ บางคนร้องไห้เลย เอาเงินไปไถ่ถอนบ้านได้ ซื้อรถได้

แต่ทางโน้นหยิบคำว่าไพร่มาตี แล้วใช้การตลาดมากลบ ทั้งที่นโยบายจำนำสินค้าเกษตร มีชาวนาได้ประโยชน์แค่ 30% แล้วเขาก็ถูกโกดัง โดนโรงสีโกง ท้ายสุดข้าวก็เสียหาย แต่ทำไมคนรากหญ้าถึงไม่คิดถึงเรา อันนี้ต่างหากที่เราต้องค้นหา

@ ทำไมสิ่งดีๆ ที่ ปชป.ทำถึงมัดใจคนไม่ได้

พูดแล้วมันน่าเจ็บใจ พวกคุณเป็นสื่อ ทำไมคุณไม่เห็นรัฐบาล ปชป.ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วที่สุดในโลก ทำไมพวกคุณไม่เห็นทำให้คนว่างงานจาก 1 ล้านคนเหลือไม่ถึง 1 แสนคน ไม่มีใครพูดถึงเลย เราพูดก็ไม่มีใครได้ยิน มันเป็นข้อเท็จจริงท่ามกลางการประโคมข่าว

โอ๊ย! เชียร์กันใหญ่ มันสู้กระแสไม่ได้ เราคิดดี ทำดีให้กับทุกคน แล้วเป็นรูปธรรม เกษตรกรได้ประโยชน์ แต่พอเลือกตั้ง เขาเอาเงินมาให้หนึ่งพันก็ไปแล้ว มีคนมาเล่าให้ฟังว่า ต้องกลับบ้านเพราะมีคนเอาเงินมาให้สามพัน อยู่ กทม.ก็ต้องกลับ เพราะเขาให้ค่าน้ำมันมาหนึ่งพัน เพื่อไปเลือกเขา

"สิ่งที่เราทำแล้ว แต่ไม่ใกล้ชิด มันเป็นข้อบกพร่องของเรา อย่าว่าแต่ซาบซึ้ง ขอบคุณ หรือผูกพันเลย.. เขาอยู่มา 6 ปี เคยให้คนแก่สักบาทไหม แต่พอเลือกตั้งมาให้หนึ่งพันให้ไปเลือกเขา มันบ้าไหม"

@ ทำไมจึงฝ่ากระแสไพร่-อำมาตย์ไม่ได้?

(ตอบทันที) เขาทำมากี่ปี เขาอยากเป็นอำมาตย์ไม่ใช่หรือ เขามีแก้ว 3 ดวงคือ พรรค เสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธ แล้วสื่อก็ช่วย ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อช่วยเขา โหมกันใหญ่ ก็คอยดู พวกคุณต้องรับผิดชอบด้วยที่ไปเชียร์เขาเป็นบ้าเป็นหลัง โดยกฎหมายคุณไม่ผิด แต่โดยความรู้สึก อย่าปฏิเสธเลย เพราะมันเห็นอยู่กับตา ก็ไม่เป็นไร เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างนี้ เราก็ยอมรับ และย้อนกลับมาดูตัวเองว่าทำไม ก็ต้องค้นหาความจริง ว่าเราทำแล้ว ทุกคนก็ฮือฮาว่านโยบายนี้ดี แต่เสร็จแล้วเขาให้เงิน ก็ไปเลือกเขา มันเป็นธุรกิจการเมืองขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าเสียดาย

@ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะแก้ไขสิ่งเหล่านั้น

สื่อต้องช่วยเรา ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ถ้ายึดประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง

@ คุณอภิสิทธิ์ใช้คำว่าให้มาช่วยกัน′ถอนพิษ′

ถ้าเราพยายาม เรารวมกันได้ เราก็จะถอนพิษได้ แต่ทุกคนต้องเห็นว่าสิ่งนั้นคือพิษของประเทศ แม้วันนี้ถอนไม่ได้ สักวันมันก็ต้องถอนได้

@ คนส่วนใหญ่รู้สึกหรือยังว่ามันคือพิษ

เราถึงต้องใช้การเข้าหามวลชน ใกล้ชิดคนทุกระดับชั้น เราต้องปรับตัวเอง ต้องปรับความคิดของเขา แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทั้งเวลาและเงิน

@ คุณอภิสิทธิ์พูดไว้ว่าเมื่อไรมีการนิรโทษกรรมคุณทักษิณ เมื่อไรมีการล้างผิดให้คดีก่อการร้าย เมื่อไรมีการทุจริตคอร์รัปชั่น ปชป.ในฐานะฝ่ายค้านจะคัดค้านเต็มที่

ก็เป็นอย่างนั้น (ถ้าเขาแอบทำ?) เราก็แอบดู และประชาชนต้องเฝ้าจับตาด้วย ถ้าจะนิรโทษกรรมแปลว่าคนติดคุกทุกคนจะออกมาทั้งหมด นักโทษจะออกมาเดินเต็มถนน แล้วพวกเราเอาไหมล่ะ

ขอประทานโทษครับ ขณะอ่านตรวจทาน ผมอ๊วกแตกแล้วครับ อ๊วกอีตรงความเห็นของทั่งคุงหยิงมาดามฮุ้งนี่แหล่ะครับ.....

พูดก็พูดเถอะครับ ความคิดประเภทว่า ประชาธิปัตย์แพ้ทักษิณเพราะเงินสู้ไม่ได้ คนอีสานคนเหนือโง่เห็นแก่เงินไม่กี่บาทของทักษิณก็ไปเลือกนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ฝังลงไปในสันดานของพรรคการเมืองนี้ นายชวนก็พูดแบบนี้มา20กว่าปีแล้ว นายอภิสิทธิ์ก็มาพูดต่อ

ล่าสุดนี่ว่าที่เลขาพรรคหรือผู้นำพรรคคนใหม่อย่างมาดามฮุ้งก็มาผลิตซ้ำความคิดเดิมๆ คิดเก่าทำเก่า แพ้มาติดๆกัน20 ปี ก็คงจะแพ้เลือกตั้งไปอีกนาน

ตราบที่พวกคุณไม่ได้รู้จักประชาชน ไม่ได้เข้าไปนั่งในใจเขา เขาลุกขึ้นสู้ก็ฆ่า เขาไม่เลือกคุณก็ว่าโง่เห็นแก่เงินทักษิณ

ก็ขอให้มาดามฮุ้งกับชาวพรรคแมงสาปคิดแบบนี้ โดยไม่ต้องไปมองว่า"เอ๊ะ!พวกกูมันต้องผิดพลาดมากมายนะ ชาวบ้านเขาถึงไม่ยอมเอาด้วย เราจะแก้ไขข้อบกพร่องผิดพลาดอย่างไร ถึงจะชนะใจประชาชนได้สำเร็จ"

เกิดแมงสาปคิดได้เมื่อไหร่ ทักษิณหนาว