หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องการเมือง
เว็บบอร์ด » ห้องการเมือง
รายละเอียดของห้อง : "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" ความคิดอันหลากหลาย สำหรับการเมืองในไทย
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
นายกปู ขึ้นฮ.ตรวจน้ำท่วม

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
นายกปู ขึ้นฮ.ตรวจน้ำท่วม
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 15 ส.ค. 54 เวลา 10:07:36 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 


นั่งแบล็กฮอว์ก- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ขึ้นฮ.แบล็กฮอว์กจาก จ.เชียงใหม่ มายังท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ภัยน้ำท่วม อ.โขงเจียม เมื่อ 14 ส.ค.

กทม.เตือน ชาวบ้าน 2 ฝั่งเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำเหนือไหลเข้ากรุง เตรียมเครื่องสูบน้ำรับมือ ชี้สถานการณ์ยังไม่น่าห่วง ′ยิ่งลักษณ์′นั่งแบล็กฮอว์ก ลุยตรวจน้ำท่วมโขงเจียม-พิจิตร ถกผู้ว่าฯ 9 จังหวัดอีสาน ช่วยเหลือ-เยียวยาเหยื่อน้ำท่วม สั่งผู้ว่าฯ รายงานสถานการณ์ทุกระยะ เล็งตั้ง คกก. ดูแลน้ำท่วมเพิ่มเติม เอ็นจีโอค้านสร้างเขื่อน′แก่งเสือเต้น′ ระบุเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ฝนยังถล่มไม่หยุด พิจิตรน้ำซัดพนังกั้นพัง เร่งใช้กระสอบทรายกั้นแทน สุโขทัยน้ำเซาะถนนขาดเป็นทางยาว 10 เมตร เชียงรายยังอ่วมเข้าท่วมหลายอำเภอ เร่งระบายน้ำลงโขง

′ปู′จี้ผวจ.รายงานน้ำท่วม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น หลังจากนี้คงต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์และประเมินดูว่า พื้นที่ใดที่รัฐบาลจะต้องเร่งเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น โดยได้สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว และยังขอให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่เพื่อดูแลประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะมีการทำรายงานจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดอยากขอให้ทำรายงานเข้ามาเป็นรายจังหวัด เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว ส่วนการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนบางส่วนที่ติดอยู่และไม่สามารถเดิน ทางออกมาได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกลไกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและจะมีการ บูรณาการของศูนย์ฮอตไลน์ หมายเลข 1111 ของสำนักนายกฯ เพื่อให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยหรือต้องการความช่วยเหลือแจ้งเข้ามา อีกทั้งตนได้พูดคุยกับหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยในการเตรียมป้องกันพื้นที่อาจ เกิดอุทกภัยจังหวัดอื่นๆ ด้วย

ตั้งคกก.ดูแลน้ำท่วมเพิ่ม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่เส้นทางถูกตัดขาดนั้น พล.อ.อ.สุกําพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ลงไปดูแลและกำกับอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เส้นทางคมนาคมที่เสียหายกลับคืนสภาพเดิมโดยเร็วที่สุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลเตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามสถานการณ์เพิ่มเติม ซึ่งตนจะเข้าไปร่วมทำงาน เพื่อให้งานมีความรวดเร็วในกรณีที่ต้องมีการตัดสินใจเร่งด่วน ขณะเดียวกันการทำงานต้องเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องการเตือนภัย เพื่อเตรียมตัวสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อาจประสบปัญหาอุทกภัยและประกาศ เป็นพื้นที่ภัยน้ำท่วม ก็จะเข้าไปดำเนินการป้องกันเป็นอย่างแรก ส่วนอื่นๆ ก็จะวางแผนในระยะยาว ทั้งเรื่องการปลูกป่า ไม้ยืนต้น และทำระบบเขื่อนป้องกันน้ำ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาการอนุมัติงบประมาณ หากเป็นการอนุมัติงบประมาณก้อนใหญ่คงต้องหารือกับสำนักงบประมาณ แต่ตอนนี้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดก็มีงบประมาณฉุกเฉินที่สามารถตัดสินใจได้ เลย นอกจากนี้จะประเมินภาพรวมว่า จำเป็นต้องใช้งบประมาณกลางอย่างไรในการขออนุมัติเพิ่มเติม ซึ่งทุกภาคส่วนขณะนี้ไม่ได้ติดเงื่อนไขในเรื่องงบประมาณในการช่วยเหลือ เพราะทั้งหมดสามารถอนุมัติและทำงานได้ ส่วนเรื่องการชดเชยคงต้องรอดูหลังน้ำลดถึงจะประเมินได้ โดยกติกาจะวางกรอบให้เสร็จเรียบร้อย

ปภ.สรุปยอดความเสียหาย

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประกาศประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 23 จังหวัด 222 อำเภอ 1,519 ตำบล 12,517 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.แพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ นครพนม อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มุกดา หาร บึงกาฬ สกลนคร เลย เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ และพระนครศรีอยุธยา ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 681,810 ครัวเรือน รวม 2,630,201 คน บ้านเรือนเสียหาย 323 หลัง ส่วนพื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 1,826,053 ไร่ ถนน 4,916 สาย ท่อระบายน้ำ 669 แห่ง ฝาย 602 แห่ง ทำนบ 123 แห่ง สะพาน 429 แห่ง บ่อปลาและกุ้ง 22,399 บ่อ ปศุสัตว์ 162,191 ตัว มีผู้เสียชีวิตรวม 24 ราย แยกเป็น จ.เชียงใหม่ 2 ราย จ.แพร่ 6 ราย จ.แม่ฮ่องสอน 7 ราย จ.สุโขทัย 4 ราย จ.ตาก 1 ราย จ.สกลนคร 1 ราย จ.นครพนม 2 ราย จ.อุดรธานี 1 ราย และสูญหาย 1 คน ใน จ.แม่ฮ่องสอน จากดินโคลนถล่ม

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและอยู่ระหว่างฟื้นฟูมี 14 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย นครพนม อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และประจวบคีรีขันธ์ ส่วนจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 9 จังหวัด 39 อำเภอ 286 ตำบล 1921 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 82,318 ครัวเรือน 285,654 คน ได้แก่ จ.สุโขทัย แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา มุกดาหาร และจังหวัดอุบลราชธานี

ทางขาด - สภาพดินภูเขาถล่มทับเส้นทางขึ้นดอยวาวีและดอยช้าง อ.แม่ สรวย จ.เชียงราย หลายจุด รวมระยะทางหลายกิโลเมตร ขณะเดียวกันพื้นที่ใกล้แม่น้ำยังมีปัญหาน้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 14 ส.ค.



กทม.เฝ้าระวังน้ำจากเหนือ

นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังอยู่ในภาวะปกติ เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือไหลลงมายังแม่น้ำเจ้าพระยา กทม. วัดจริงอยู่ที่ 1,400 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีระดับน้ำสูง 1.55 ซ.ม. จากน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง แต่ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา และในพื้นที่รุกล้ำออกไปนอกแนวป้องกันน้ำท่วม ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งทางสำนักการระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้เฝ้าระวังสถานการณ์ตามขอบแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการเตรียมเครื่องสูบน้ำที่วางอยู่ตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ช.ม. หากในวันนี้กทม. มีฝนตกหนักจนเกิดภาวะน้ำท่วมก็จะเร่งสูบน้ำลงในแม่น้ำเจ้าพระยาทันที อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงเวลา 20.50-21.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงสุด

เร่งระบายน้ำลงโขง

สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดต่างๆ จ.เชียงราย ระดับน้ำในแม่น้ำคำ อ.แม่จัน เริ่มลดระดับลง แต่ยังท่วมหนักใน ม.7 ต.จันจว้า และมีบ้านเรือนกว่า 50 หลัง ยังถูกน้ำท่วมขังประมาณ 30-50 ซ.ม. โดยหน่วยงานต่างๆ เร่งนำอาหารแห้งและน้ำดื่มใส่เรือเข้าไปมอบให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน ขณะที่นาข้าวและพื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมขังกว่า 20,000 ไร่ อีกทั้งน้ำในแม่น้ำคำยังไหลเข้าท่วม ต.ป่าสัก ต.โยนก ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้บ้านเรือนสองฝั่งแม่น้ำถูกน้ำท่วมอีกประมาณ 500 หลัง นอกจากนี้ยังคงมีฝนตกหนักในหลายอำเภอ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีก

นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ระดับน้ำใน 5 อำเภอยังคงทรงตัว ประกอบกับยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่ ต.บ้านแม่มอญ อ.เมือง ที่ 102.5 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำยังไม่ลดลง แม้หลายฝ่ายจะเร่งระบายน้ำในช่วงกลางน้ำและท้ายน้ำออกไปได้มากแล้ว สรุปความเสียหายล่าสุดมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 8,000 คน 2,000 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่ทำการเกษตรกำลังสำรวจรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ยังกำชับนายอำเภอทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังภัยจากน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะ อ.แม่สาย อ.แม่จัน และ อ.เชียง แสน ที่แม้จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง แต่ก็อาจมีผลกระทบต่อประชาชนริมแม่น้ำ ทั้งกลางน้ำและท้ายน้ำ

พิจิตรน้ำซัดพนังกั้นพัง

จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำน่านที่มีปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง จนพนังกั้นน้ำพังลงมาและน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขต บ้านปากทาง และพัดเอาร่างของนายเมียน จะจ่าง อายุ 80 ปี ขณะกำลังนั่งเรือเราะข่ายหาปลาลอยไปตามกระแสน้ำ แต่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือได้ทัน

จากนั้นชาวบ้านช่วยกันนำ กระสอบทรายมาทำเป็นพนังกั้นน้ำชั่วคราว เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและไร่นา นอกจากนี้น้ำในแม่น้ำน่านยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชนกว่า 50 หลัง บริเวณชุมชนฝั่งสถานีรถไฟพิจิตร ทำให้ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น และน้ำยังไหลเข้าท่วมถนนที่วิ่งผ่านสถานีรถไฟสูงกว่า 50-60 ซ.ม. รถจักรยานยนต์และรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน ต.ปากทาง อ.เมือง กว่า 50 คน เดินทางมาขอให้เปิดประตูระบายน้ำ เพราะไร่นาถูกน้ำท่วมขังกว่า 1,000 ไร่ แต่ชาวบ้าน ต.ท่าหลวง ไม่ยินยอม เพราะถ้าเปิดประตูระบายน้ำจะไหลเข้าท่วมนาข้าว จากนั้น 2 ฝ่ายมีปากเสียงกันจนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ทำให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ต้องมาเจรจาไกล่เกลี่ยและตกลงกันได้

เวลา 09.30 น. นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่และนั่งเรือมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ต.บ้านน้อย อ. โพทะเล และ ต.ทับหมัน อ.ตะพานหินที่ประสบน้ำท่วมกว่า 125 หลังคาเรือน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่อยากให้สร้างพนังกั้นน้ำฝั่งตะวันออก เพื่อป้องกันน้ำท่วม

น้ำทะลักสุโขทัยอีกระลอก

ที่ จ.สุโขทัย น้ำในแม่น้ำยมยังมีระดับสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรี สำโรง อ.เมือง และ อ.กงไกรลาศ ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ต้องถูกน้ำท่วมซ้ำซาก จากที่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาได้กลับสู่สภาวะปกติ และครั้งนี้ต้องถูกน้ำท่วมซ้ำอีกระลอกเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 2 เดือน ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมโดยรวมมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ 81 ตำบล 568 หมู่บ้าน 6 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 29,930 ครัวเรือน 88,256 คน นอกจากนี้บริเวณถนนสาย 101 สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย มีระดับน้ำท่วมเป็นช่วงๆ สูงกว่า 50 ซ.ม. และถนนสาย 1195 สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย ฝั่งตะวันตก ตลอดทั้งสายมีระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ถนนสายสุโขทัย-บางระกำ สายเก่า มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซ.ม. และน้ำซัดถนนสาย 1195 สุโขทัย-ศรี สัชนาลัย บริเวณหมู่ 6 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว ขาดเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร และยังกัดเซาะโรงเก็บยาสูงพังไหลไปกับกระแสน้ำ

ถนนขาด- ถนนสาย 1195 สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย ฝั่งตะวันตก บริเวณหมู่ 6 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ขาดเป็นทางยาวเกือบ 10 เมตร จากแรงกัดเซาะของแม่น้ำยมที่ไหลเชี่ยว เมื่อวันที่ 14 ส.ค.



พระราชทานถุงยังชีพ

ที่ จ.พิษณุโลก เวลา 09.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระ องค์เจ้าพัชรกิติยาภา โปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ดำรง เหรียญประยูร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก 1,100 ชุด มอบให้กับพระสงฆ์และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดกลางสุริยวงศ์ หมู่ 5 ต.วังอิทก อ.บางระกำ จากนั้นศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ดำรง เดินทางมายังศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โครงการพัฒนาพื้นที่ เพื่อความมั่นคงอันเนื่องมาจากพระราชดำริภูขัดภูเมี่ยง ภูสอยดาว ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ เพื่อถวายถุงยังชีพ พระราชทานกับพระภิกษุสงฆ์ 10 ชุด และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ต.บ่อภาค 500 ชุด

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากระดับแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และวันนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง เทศบาลนครพิษณุโลกจึงเตรียมแผนป้องกันน้ำล้นตลิ่งด้วยการตั้งเครื่องสูบน้ำ ไว้ในแต่ละจุดรวม 20 เครื่อง เพื่อสูบน้ำที่ไหลดันเข้าท่วมท่อระบายน้ำ นอกจากนี้ยังนำท่อคอนกรีตวางเป็นแนวยาวตลอดถนนเลียบ แม่น้ำน่าน พร้อมกับนำแผ่นพลาสติกมาปิดทับและนำกระสอบทรายมาวางทับอีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้กระแสน้ำไหลข้ามถนนเข้ามาในตัวเมือง

เอ็นจีโอค้านแก่งเสือเต้น

จ.แพร่ ปริมาณน้ำที่ท่วมขังเริ่มมีระดับลดลง แต่ก็ยังมีน้ำท่วมขังอีกบางส่วน โดยในพื้นที่ที่น้ำเริ่มลง ชาวบ้านก็เริ่มล้างโคลนที่ติดค้างภายในบ้านและทยอยขนสิ่งของลงจากที่สูง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังช่วยกันค้นหาร่างนายสมโภชน์ อุ่นอารมณ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 5 ต.ป่าแมต อ.เมือง ที่ถูกน้ำพัดจมน้ำในวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบศพ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังเร่งติดตามหานายธนัด แสงทอง อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 5 ต.สบสาย ที่พลัดตกจากเรือหาปลา และศพไปติดอยู่กับต้นไม้

ด้านนายชุม สะเอียบคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ กล่าวถึงการเสนอให้รัฐบาลสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางว่า เป็นเรื่องปกติที่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจะเรียกร้องให้สร้างเขื่อนแก่ง เสือเต้น แต่เรื่องนี้เป็นไปได้ยาก เพราะยังมีวิธีอื่นที่จะแก้ปัญหานี้ได้ และแม้จะสร้างเขื่อนขึ้นมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ ทางออกของปัญหาขณะนี้จึงยังไม่ใช่การสร้างเขื่อน แต่รัฐบาลควรจัดการแม่น้ำสาขาของลำน้ำยมทั้งหมด และนำข้อมูลที่ศึกษาไว้มาประกอบการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจผู้ที่ถูกน้ำท่วม แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า ปกติแล้วน้ำจะท่วมแค่ตอนหน้าฝน พอหน้าแล้งก็เป็นปกติ แต่คนที่อาศัยอยู่บริเวณสร้างเขื่อนจะได้รับผลกระทบตลอดชีวิต ชุมชนจะล่มสลาย ซึ่งรัฐบาลอาจยังไม่คิดถึงจุดนี้ ชาวสะเอียบต่อสู้คัดค้านการสร้างแก่งเสือเต้นมาตลอด แต่คนที่เสนอให้สร้างนอกจากชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ยังมีพวกที่ได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจสร้างเขื่อนด้วย

ชี้เขื่อนไม่ได้แก้น้ำท่วม

นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มักคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาน้ำท่วม คือการสร้างสิ่งก่อสร้างขวางลำน้ำ แต่น้ำท่วมครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากฝนอย่างเดียว แต่เกิดจากปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำ ปัญหาเรื่องป่าต้นน้ำ และการจัดการลุ่มน้ำสาขาด้วย ขณะนี้ป่าต้นน้ำยมและต้นน้ำน่าน เปลี่ยนสภาพจากป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ ซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้พื้นที่เปลี่ยนสภาพไป ส่วนการแก้ปัญหาต้องจัดการฟื้นฟูต้นน้ำ การสร้างเขื่อนถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ถ้าคิดว่าสร้างเขื่อนแล้วจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ให้มาดูที่ภาคเหนือ ตอนนี้แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน มีการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งหมด แต่น้ำก็ยังท่วมอยู่ดี เขื่อนจึงไม่น่าจะเป็นทางออกของปัญหา

ด้านนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาฯมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า เขื่อนแก่งเสือเต้นเป็นเขื่อนขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนพื้นที่รับน้ำด้านเหนือสุด ถึงสร้างไปก็จะมีผลป้องกันพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมประจำน้อยมาก ถ้าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมต้องจัดทำโซนนิ่ง กำหนดเขตภัยพิบัติ เช่น เขตเทศบาล อาจทำลำน้ำย่อยเบี่ยงไปไม่ให้น้ำท่วมตัวเมือง หรือทำแก้มลิงเพื่อป้องกันพื้นที่เกษตร แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ทุกปีน้ำต้องท่วมเป็นปกติอยู่แล้ว การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจะกระทบต่อป่าไม้ ไม่คุ้มกับผลที่คาดหวังจะได้ สร้างไปก็แก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ เพราะพื้นที่เก็บน้ำเล็ก เมื่อเทียบกับทั้งลุ่มน้ำ

′ปู′นั่งแบล็กฮอว์กลุยอีสาน

เวลา 11.50 น. ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อุบลราชธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดิน ทางจากจังหวัดเชียงใหม่มาถึงอุบลราชธานีด้วยเครื่องบินของกองทัพไทย เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมใน อ.โขงเจียม โดยมีนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 และนาวาอากาศโท ไพฑูรย์ เหลืองอ่อน รองผู้บังคับการกองบิน 21 อุบลราชธานี ให้การต้อนรับ พร้อมบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางด้วยรถยนต์มาที่กองบิน 21 ซึ่งมีมวลชนกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 100 คน มารอให้การต้อนรับและมอบดอกไม้เป็นที่ระลึก ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแวะทักทายและถ่ายรูปประมาณ 10 นาที และขึ้นเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์กมุ่งหน้าไปตรวจเยี่ยมน้ำท่วมใน อ.โขงเจียม

ถก 9 ผวจ.แก้น้ำท่วม

ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะได้เดินทางมาถึงโรงเรียนมัธยมโขงเจียมวิทยาคม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยมีชาวบ้านมีที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมารอพบจำนวนมาก จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบถุงยังชีพ 1,500 ชุด ให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วม 5 ตำบล ก่อนที่จะเข้าประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 9 จังหวัดภาคอีสาน ที่พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรม โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สภาพน้ำท่วมในภาคอีสานปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง และการเดินทางมาครั้งนี้จะมาดูว่า จะปรับสภาพให้การช่วยเหลืออย่างไร เพราะบางจังหวัดมีปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคม จึงต้องเร่งรัดซ่อมแซมเส้นทางให้เปิดใช้การได้ ส่วนพื้นที่ของประชา ชนที่เสียหายจากน้ำท่วม ต้องประเมินว่าจะให้การช่วยเหลือชดเชยอย่างไร ส่วนการบริหารจัดการน้ำจะนำไปหารือในการทำเวิร์กช็อป โดยไม่มองเฉพาะภาคอีสานเพียงภาคเดียว ขณะนี้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารจัดการในระดับจังหวัดให้เต็มที่ ส่วนรัฐบาลจะดูในส่วนที่ต้องเร่งรัดให้ การช่วยเหลือ

เมื่อถามว่า ขณะนี้จีนปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเข้าสู่แม่น้ำโขง จะสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของกรมชลประทานที่ต้องเข้ามาบริหารจัดการน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในแม่น้ำโขง

ชาวพิจิตรวอนสร้างแก่งเสือเต้น

เวลา 17.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข และคณะเดินทาง ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ มาลงพื้นที่ติดตามและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัด วังจิก ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร โดยมีประชาชนรอให้การต้อนรับกว่า 5,000 คน จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านรวม 1,800 ชุด จากนั้นนายสุวิทย์ วัชโรทยางกรู ผวจ.พิจิตร บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้ที่ จ.พิจิตร มีน้ำท่วม 7 อำเภอ คือ อ.โพธิ์ประทับช้าง สามง่าม โพทะเล บึงนาราง เมือง ตะพาน หิน และบางมูลนาก พื้นที่เสียหายรวม 102,000 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินพบปะกับประชาชนอยู่นั้น นางสายรุ่ง เกรียรติเมา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 9 ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง ได้ขอยื่นหนังสือ เพื่อขอให้ช่วยในเรื่องค่าชดเชยจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงคาบเกี่ยวเปลี่ยน รัฐบาล และเกรงว่า ผลผลิตจะเสียหายหากใช้โครงการจำนำข้าว ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับหนังสือไว้พิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ชาวบ้านใน จ.พิจิตรบางส่วนขอให้น.ส. ยิ่งลักษณ์เร่งพิจารณาการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เพราะบางพื้นที่อยู่ในที่ราบต่ำ ทำให้ประสบปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่องและซ้ำซากเป็นประจำทุกปี อีกทั้งช่วงฤดูแล้งก็จะประสบปัญหาน้ำแห้งขอด ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมหรือน้ำแล้ง ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับข้อเสนอนำกลับไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาผลดี และผลเสีย ก่อนพิจารณาสรุปและหาแนวทางแก้ปัญหา

 

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREUxTURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB4TlE9PQ==

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 2170

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 15 ส.ค. 54 เวลา 10:07:36
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี