สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 5 ร่วมกับ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ จัดสัมมนาสื่อมวลชนและเชิดชูเกียรติบุคคล/องค์กรดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับภาค ปี 2550 ยอมรับปัญหากลับมาระบาดอีกรอบ รัฐบาลห่วงสั่งเข้มสร้างความเข้มแข็ง ดึงมวลชนต่านจริงจัง ตชด.33 ยันมีระบาดสูงและน่าห่วงมากขึ้น มีขนหัวเชื้อผลิตในเขตเมืองด้วย

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมานายกมล ไทยาภิรมย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ได้เปิดเผยว่า ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ได้ร่วมกับ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ จัดการสัมมนาสื่อมวลชนและเชิดชูเกียรติบุคคล/องค์กรดีเด่น ในการปฏิบัติงานด้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับภาค ปี 2550 เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ด้านยาเสพติด ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5

นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผ่านสื่อมวลชน ถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ/กลุ่มบุคคลในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและมอบรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรตติแก่บุคคล/องค์กรที่มีผลงานดีเด่น ที่ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับภาค ปี 2550 โดยกำหนดจัดการสัมมนาขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2550 ที่โรงแรมกัซซันเลคซิตี้ แอนด์รีสอร์ท อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยมี นายพิทยา จินาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. มาเป็นประธานในพิธี การจัดสัมมนา ครั้งนี้ มีสื่อมวลชนทั้งภาครัฐ สื่อเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประมาณ 170 คน

ทั้งนี้รัฐบาลให้ความห่วงใยกับปัญหานี้ที่ทาง สภาพัฒน์ฯ รายงานว่า มีการระบาดของยาเสพติดและเยาวชนเริ่มติดยาเพิ่มทำให้ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งที่แท้จริงของชุมชนให้เกิดขึ้น ป้องกันปัญหาที่จะกลับมาระบาดหนักอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่ปราบปรามก็ปรับทิศทางทำงานให้ทันกับขบวนการยาเสพติดที่ปรับตลอดเวลา ทั้งนี้มวลชนถือเป็นกลไกสำคัญที่จะเป็นความเข้มแข็งของการร่วมกันต่อต้านปัญหายาเสพติดได้ดีมาก

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ปัญหาปัจจุบันยอมรับว่า ยังคงมีการระบาดของยาเสพติดต่อเนื่อง ซึ่งเร็วๆ นี้ทาง พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ สว่างผล ผกก.ตชด.33 เปิดเผยว่า ปัญหายังน่าเป็นห่วงเพราะมีการขน ย้ายยาเสพติดเข้าเขตเมืองต่อเนื่อง ผู้เสพรายใหม่ก็เกิดขึ้นสูง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา มีการแอบขนเครื่องผลิตมาประกอบในเขตเมืองแล้วลักลอบนำหัวเชื้อมาผลิตครั้งละไม่มาก เพื่อผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าครั้งละ 1-2 พันเม็ดแล้วย้ายฐานการผลิตไปเรื่อยๆ ป้องกันเจ้าหน้าที่ติดตามได้ ขณะเดียวกันในพื้นที่ชายแดนก็มีการพักยาไว้ไม่น้อยกว่าล้านเม็ดแล้วมีการขนย้ายเป้นกองทัพมด

“กลุ่มที่ติดการพนัน คนพื้นที่สูงที่เดิมมีรายได้จากขนย้ายแรงงานต่างด้าว ตอนนี้ก็หันมาขนยาเสพติด ทำให้ชายแดนยังน่าเป็นห่วงมีการพักยาไว้มากรอทะลักเข้าเมืองตามคำสั่งซื้อละลูกค้าต้องการ ต้องกำชับการเฝ้าระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม” ผกก.ตชด. 33 กล่าวไว้.

ข่าวจากไทยนิวส์