• สำนักพุทธฯ ระบุไม่พบพระปางแลบลิ้น ในพุทธประวัติ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 10 ก.ค. 50 เวลา 10:23:07 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สำนักพุทธฯ ระบุไม่พบพระปางแลบลิ้นในพุทธประวัติ
สำนักงานพระพุทธฯ ระบุไม่พบพระปางแลบลิ้นในพุทธประวัติ เชื่อแค่ชาวบ้านลือ เตรียมตั้งคณะกรรมการร่วมกับกรมศิลป์ดึงชาวบ้านร่วมตรวจสอบ เผยเป็นพระพุทธรูป 500 ปีก่อน แนะญาติโยมเข้าชื่อให้ครบ 200 คน เพื่อยกระดับสำนักสงฆ์ร้างขึ้นเป็นวัด กรมศิลป์ลงพื้นที่แต่ยังไม่สรุปรูปแบบการบูรณะ
ความคืบหน้ากรณีชาวบ้าน ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ร่วมกับอดีตผู้ใหญ่บ้านตัดลิ้นพระพุทธรูป ของสำนักสงฆ์พระพุทธรูปแลบลิ้น หมู่ 4 ต.สบแม่ข่า อ.หางดง หลังเข้ามาบูรณะพระพักตร์ของพระพุทธรูปดังกล่าวเมื่อปี 2534-2535 เป็นเหตุให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกเสียใจและเตรียมร่วมกับนายก อบต.สบแม่ข่า และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เข้าไปดำเนินการบูรณะแก้ไข ด้วยการต่อลิ้นใหม่ให้พระพุทธรูปดังกล่าวเพื่อเรียกศรัทธามา
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม นายจำลอง กิตติศรี ผอ.นักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังนำคณะเข้าตรวจสอบพระพุทธรูปดังกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่กล้ายืนยันว่า พระพุทธรูปจะถูกเจ้าหน้าที่มาตัดลิ้นไปจริง อย่างที่ชาวบ้านกล่าวหาหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบในพุทธประวัติพบว่าพระพุทธรูปมีปางต่างๆ 100 กว่าปาง แต่ยังไม่เคยปรากฏว่ามีพระพุทธรูปในลักษณะแลบลิ้น หรือแสดงอาการที่ไม่เหมาะสม
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ทางการยังเปรียบเทียบตรวจสอบภาพถ่ายพระพุทธรูปเดิม ก่อนที่จะได้รับการบูรณะ พบว่าในส่วนของพระโอษฐ์นั้นน่าจะเป็นลักษณะแย้มพระสรวล มากกว่าการแลบลิ้น และเมื่อเวลาผ่านไปก็อาจทำให้ริมฝีปาก ของพระพุทธรูปชำรุดและถูกกะเทาะออกไปมากกว่าที่ จะมีลิ้นยาว จนกลายเป็นเรื่องที่ชาวบ้านมองว่าถูกคนตัดลิ้นไปอย่างที่เป็นข่าว
"หลังทราบเรื่อง ก็ได้ไปค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของพระพุทธรูปดังกล่าว จนทราบว่าเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ในพระพุทธประวัติระบุว่าใน พ.ศ. 2038-2068 หรือประมาณ 500 กว่าปีก่อน ช่วงที่พญาเมืองแก้ว เจ้าเมืองเชียงใหม่พระองค์หนึ่งเสด็จฯ จะไปสักการะพระธาตุจอมทอง อ.จอมทอง ระหว่างทางได้แวะผ่านมาพักยังจุดที่เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์แห่งนี้ ระหว่างที่บรรทม ทรงพระสุบินว่านอนอ้าปาก และเกิดมีพระจันทร์ลอยเข้ามาในพระโอษฐ์จึงให้ปุโรหิตทำนายความฝัน ซึ่งปุโรหิตได้ทำนายว่าต่อไปพญาเมืองแก้ว จะได้เป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริงในพระพุทธศาสนา พระองค์จึงรับสั่งให้สร้างวัดขึ้นมาบริเวณนี้ โดยตั้งชื่อวัดว่า "จันโทโชติยานาม" มีความหมายว่า มีผู้ผลักพระจันทร์เข้าปาก คาดว่าพระพุทธรูปจะถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับวัด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะคล้ายกับพระเจ้าอมยิ้ม วัดแห่งนี้ได้เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด กระทั่งเสื่อมสลายลงไปตามหลักอนิจจัง เหลือแต่พระพุทธรูปซึ่งก็ผุกร่อนไปตามกาลเวลา" ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของประชาชน นายจำลอง กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ จะจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนการบูรณะนั้นยังไม่สามารถระบุ ได้ว่าจะเข้ามาดำเนินการในรูปแบบใด เพราะจะต้องมีการศึกษาข้อมูลรูปแบบเดิม ของพระพุทธรูปองค์นี้ให้แน่ชัดก่อน เพื่อจะได้บูรณะใหม่อย่างถูกต้องตามแบบ ซึ่งต้องให้กรมศิลปากรศึกษาในรายละเอียดอีกครั้ง
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าสำนักสงฆ์แห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 2 งาน 80 ตารางวา ยังถือเป็นที่ธรณีสงฆ์ หากพบว่ามีชาวบ้านบุกรุกล้ำเข้ามาในที่สงฆ์ ก็จะต้องดำเนินการยกเลิกเอกสารสิทธิให้ถูกต้อง และหากเป็นความต้องการของประชาชนที่เข้าชื่อสนับสนุนมากกว่า 200 คนขึ้นไป ก็จะสามารถยกระดับสำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดได้ แต่จะต้องพิจารณาด้านทรัพย์สิน และการเข้ามาสนับสนุนของหน่วยงานท้องถิ่นและประชาชนประกอบร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกัน สำนักงานศิลปากรที่ 8 จ.เชียงใหม่ ส่งตัวแทนเข้ามาตรวจสอบสภาพการบูรณะที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ แต่ตัวแทนดังกล่าวยังไม่สามารถให้รายละเอียด ยืนยันการบูรณะว่าตัดลิ้นพระพุทธรูปหรือไม่อย่างไร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการบูรณะเป็นคนละชุด กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน แต่ได้กล่าวยืนยันเพียงว่าจะให้นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผอ.สำนักงานศิลปากรที่ 8 เป็นผู้ให้รายละเอียดเพียงคนเดียว แต่ขณะนี้นายสหวัฒน์ติดราชการอยู่ที่ต่างประเทศ
ข่าวจาก : ภาพจาก : ข่าวสดข่าวจาก ซีเอม 108
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1611 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 10 ก.ค. 50
เวลา 10:23:07
|