• เชียงใหม่ใกล้วิกฤติหมอกคลุมทั้งเมือง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 22 ต.ค. 50 เวลา 10:10:41 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สภาวะอากาศเหนือเย็นวูบเพียงไม่กี่วัน เชียงใหม่ใกล้เข้าสู่วิกฤตหมอกควัน และหมอกแดดคลุมทั้งเมืองอีกแล้ว ชาวเมืองห่วงใยสอบถามวุ่น คุมเผาหญ้า-เผาป่ากันแค่ไหน หวั่นเผชิญโรคระบบทางเดินหายใจเหมือนต้นปี ขณะที่ มช.เตรียมงานใหญ่วันวิชาการ ครั้งที่ 3 ร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ ระดมนักวิชาการนักวิจัย ถ่ายทอดความรู้ “วิถีวิจัย : สู่สังคมร่มรื่น และเป็นสุข” เน้นร่วมแก้วิกฤตสภาวะโลกร้อนและปัญหาหมอกควัน เชิญ นายกฯ สุรยุทธ์มาบรรยายพิเศษ
จากสภาวะอากาศตอนบนของประเทศเข้าสู่ฤดูหนาวมาได้หลายวัน เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาหลายระลอก โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 21-23 ต.ค. 50 อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา กับมีฝนบางแห่งทางตอนบนของภาค และมีคำเตือนช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สำหรับชาวสวนส้มควรระวังโรคราแป้งที่อาจระบาดในสภาพอากาศเย็นและแห้ง โดยตัดแต่งทรงพุ่มและเก็บส่วนที่เป็นโรคไปเผาทำลายนอกแปลง ส่วนที่ผู้ที่สัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ ทั่วภาคเหนืออากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศาฯ สูงสุด 32 องศาฯ ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาฯ และมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเชียงรายนั้น
ปรากฏว่าสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้วันที่ 20 ต.ค.ทั้งวันสภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่และลำพูนมีหมอกแดด และหมอกควันผสมผสานกันปิดท้องฟ้าตลอดทั้งวัน มีผู้แจ้งกับ “ไทยนิวส์”หลายสิบรายว่า สภาวะอากาศดังกล่าวจะเกิดวิกฤตหมอกควันเหมือนต้นปีอีกครั้งหรือไม่ จากการประชุมหัวหน้าส่วนราชการของนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.เชียงใหม่เร็วๆนี้ ก็ได้กำชับให้ทุกภาคส่วนเร่งหาทางป้องกันการเผาหญ้า วัชพืช และเผาป่าทุกอำเภอไปแล้ว แต่ทางปฏิบัติยังไม่มีผลใดๆ ตามชนบททั่วไปก็ยังมีกิจกรรมการเผาเศษวัสดุทุกวัน จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาหมอกควัน และส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ถึงขั้นหาหน้ากากมาสวมใส่กันอีก
ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นางรัชนีวรรณ รัชตประทาน ประชาสัมพันธ์เปิดเผยว่า ขณะนี้ มช. ได้เตรียมการจัดงานวันวิชาการ ครั้งที่ 3 ซึ่งจะนำหัวข้อเรื่องสภาวะโลกร้อนและปัญหาหมอกควันของเชียงใหม่นำเสนอด้วย โดย รศ.ดร.ดาวรุ่ง กังวานพงศ์ รองอธิการบดีฯฝ่ายวิจัย กำหนดหัวข้อ “วิถีวิจัย : สู่สังคมร่มรื่นและเป็นสุข” ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ย. 50 ณ หอประชุม มช. เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ และสร้างบรรยากาศทางวิชาการในมหาวิทยาลัย สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่และกลุ่มนักวิจัยที่มีประสิทธิภาพ ให้เกิดการทำวิจัยร่วมกันระหว่างสาขาวิชาและการวิจัยแบบบูรณาการ รวมทั้งเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่สาธารณะและชุมชน ซึ่งในวันพิธีเปิด ได้เชิญนายกรัฐมนตรี พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธาน และบรรยายพิเศษ หัวข้อ “นโยบายและมาตรการของรัฐต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยขณะนี้ปัญหาสภาวะอากาศเป็นเรื่องใหญ่ที่มีความสนใจทั่วโลก และผลกระทบจากสภาวะอากาศก็เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม งานวันวิชาการ มช.ครั้งที่ 3 เรื่องวิถีวิจัย สู่สังคมร่มรื่นและเป็นสุข ที่เน้นเนื้อหาสำคัญคือผลกระทบอันเกิดจากสภาวะโลกร้อน เป็นผลให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง เช่น ภัยแล้ง ไฟป่า คลื่นความร้อน และน้ำท่วม เป็นต้น ซึ่ง รศ.ดร.ดาวรุ่ง กังวานพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุจากปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศควบคู่กับการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก รวมไปถึงความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และการใช้พลังงานอย่างไม่จำกัด จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน ด้วยการกระทำจากน้ำมือของมนุษย์ที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เช่น การบุกรุกทำลายป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ทำกิน การเผาป่าเพื่อการเก็บเห็ดป่า การเผาไหม้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ฝุ่นละอองจากการทำเหมืองแร่ และควันพิษจากไอเสียของรถยนต์ ซึ่งตั้งแต่ต้นฤดูหนาวนี้ไปจนถึง มี.ค.-เม.ย. ปีหน้าจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ.
ข่าวจากไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1403 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 22 ต.ค. 50
เวลา 10:10:41
|