นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวว่าตามที่มีข่าวได้นำเสนอข่าวพบขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในบริเวณลำห้วยแม่สอด นั้นทางโรงพยาบาลแม่สอดได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นอุปกรณ์ล้างไตทางช่องท้องที่ผู้ป่วยทำด้วยตัวเองที่บ้าน และดำเนินการเก็บขยะดังกล่าว เพื่อกำจัดอย่างถูกวิธีด้วยการเผาในอุณหภูมิสูงต่อไป โดยปกติระบบบริการของโรงพยาบาลแม่สอด จะให้คำแนะนำผู้ป่วยในการกำจัดขยะที่เกิดจากการล้างไตทางช่องท้อง โดยเทน้ำยาล้างไตออกจากถุงทิ้งในชักโครกหรือโถส้วม ราดน้ำให้สะอาดจากนั้นนำถุงน้ำยาล้างไตเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด แล้วนำส่งโรงพยาบาลกำจัดหรือนำส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อนำส่งโรงพยาบาลกำจัดตามระบบต่อไป
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอแม่สอด ชี้แจงว่าจากกรณีดังกล่าวพบว่า ผู้ป่วยได้ล้างไตทางช่องท้องที่บ้าน และไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของโรงพยาบาล แต่ได้จ้างชาวพม่าให้เป็นผู้กำจัดขยะถุงน้ำยาล้างไตจึงเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถึงแม้ผู้ป่วยรายนี้ จะไม่มีโรคติดเชื้ออันตรายที่สามารถติดต่อได้ทางเลือด และสิ่งคัดหลั่ง เช่น HIV ตับอักเสบบี หรือตับอักเสบซี แต่ก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทางโรงพยาบาลแม่สอดได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ร่วมสร้างความเข้าใจ ร่วมมือกันในการดูแลผู้ป่วยและให้คำแนะนำการกำจัดขยะที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีราษฎรบ้านแม่ปะ หมู่ที่ 10 ร่วมใจพัฒนา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้หวาดผวากับน้ำในลำห้วยแม่สอด ที่มีผู้นำขยะที่ชาวบ้านกลัวว่าจะมีการติดเชื้อจำนวนมากไปทิ้งลงลำห้วยแม่สอด ทั้งที่ก่อนหน้านี้น้ำในลำห้วยแม่สอดมีน้ำใสสะอาดมาก่อน ประชาชนในหลายหมู่บ้านได้ใช้ประโยชน์จากลำห้วยแห่งนี้ แต่หลังจากฤดูฝนในปีที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ไปพบถุงขยะปริศนาที่กลัวว่าจะมีเบื้อโรคติด ซึ่งมีทั้งถุงน้ำเกลือ ถุงน้ำเหลือง และถุงปัสสวะของผู้ป่วย ถูกทิ้งอยู่เกลื่อกลาดทั้งบนริมตลิ่งและในลำห้วย จนชาวบ้านไม่กล้าที่จะใช้น้ำในลำห้วยสาธารณแห่งนี้ เพราะเกรงจะเกิดโรคติดต่อได้
/////////
ข้อมูลข่าว: AEC อาเซียน NEWS