พบสถิติแท้ง เสี่ยงตายสูง เมืองใหญ่มีสถิติเกิดสูง กลุ่มเสี่ยงยังเป็นวัยรุ่นผู้ด้อยประสบการณ์เพศ หมอเตือนโอกาสตาย 10 เท่า เชียงใหม่ก็ติดอันดับเมืองเสี่ยงปัญหานี้ด้วย

นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัยได้เปิดเผยระหว่างมาราชการใน จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆนี้ว่า ปัญหาการตั้งครรภ์หรือท้องเมื่อไม่พร้อมเกิดขึ้นได้ในหญิงทุกกลุ่มทุกวัยและเพิ่มมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เพราะสถิติสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงหลัก สาเหตุหนึ่ง คือ การขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์ และการใช้วิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้อง เพราะจากการวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมร้อยละ 84.7 รู้จักวิธีคุมกำเนิดแต่ไม่ใช้ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ และบางรายไม่คิดว่า จะมีเพศสัมพันธ์จึงไม่ป้องกัน

ลักษณะพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าวมักจะเกิดกับกลุ่มหลักๆ ในวัยรุ่นซึ่งจะด้อยประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาชีวิต หากมีปัญหาหรือเลยเถิดไป ก็ไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ ผู้ปกครอง และไม่มีข้อมูลเรื่องแหล่งบริการทางสังคมที่จะสนับสนุนให้ตั้งครรภ์ต่อไปจนคลอด หรือแหล่งบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย จนก่อให้เกิดการทำแท้งที่ไม่เหมาะสมตามมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมืองสำคัญเมืองท่องเที่ยวหรือหัวเมืองหลักๆ ในภาคต่างๆ มักจะพบสูง เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา เป็นต้น

จากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 40 ของผู้หญิงที่ทำแท้งมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ได้แก่ การติดเชื้อในกระแสเลือด, เชิงกรานอักเสบ, ตกเลือดมาก, มดลูกทะลุ, หัวใจวาย, ไตวายและเสียชีวิต นอกจากนี้ การติดเชื้อในมดลูกทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากตามมาอีก ที่สำคัญโอกาสเสียชีวิตจากการทำแท้งของหญิงไทยสูงถึง 10 เท่าของการเสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ด้วยสาเหตุอื่นๆ ด้วย

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวอีกว่า ผู้ที่มีปัญหาโดยเฉพาะเด็กหรือวัยรุ่น เมื่อประสบปัญหาตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมหรือไม่พึงประสงค์ ไม่ควรแก้ไขปัญหาด้วยตนเองตามลำพัง หรือตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ โดยผู้ที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ให้ทำแท้งเพื่อตัดปัญหาเป็นเรื่องไม่ถูกต้องทั้งศีลธรรมและกฎหมาย ควรปรึกษาพ่อแม่ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ หรือคนที่ตนเองไว้ใจ หรือสามารถขอรับคำปรึกษากับแพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพและโรงพยาบาลทุกแห่ง รวมทั้งองค์กรเอกชน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามพบข้อมูลว่าในเมืองใหญ่ๆ เช่นเชียงใหม่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวรวมทั้งเป็นศูนย์กลางการพัฒนาในหลายๆ ด้าน มีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาและมัธยมศึกษาจำนวนมากเนื่องจากเป็นเมืองสำคัญของภาคเหนือก็พบปัญหาสูง มีสถิติปีหนึ่งๆ หลายร้อยรายและเพิ่มขึ้นอยู่ต่อเนื่องด้วย ส่วนมากจะใช้บริการกับสถานบริการที่ไม่ถูกต้องด้วย ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังประสานแผนที่เฝ้าระวังเรื่องนี้และเตือนให้กลุ่มเสี่ยงตระหนักมากขึ้น เพราะจะห้ามพฤติกรรมเรื่องเพศเป็นเรื่องยากก็ต้องให้ข้อมูลที่ให้ตระหนักอีกทาง เพราะส่วนมากกลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มเสี่ยงมักจะยิ่งห้ามเหมือนยิ่งเพิ่มความเสี่ยงไปด้วย สถานศึกษา ผู้ปกครองครอบครัวต้องเฝ้าระวังให้ความเข้าใจหนักขึ้น.

-ข่าวจาก ไทยนิวส์