พัฒนาสังคมฯ เชียงใหม่คุมเข้ม หอพักเปิดเทอมสนองนโยบายรัฐพบบางแห่งยังตาใสไม่ยอมทำตามกติกาขณะที่เด็กเริ่มเปลี่ยนหาบ้านพักเป็นแหล่งมั่ว หมดเวลารอมชอมแล้ว กระทรวงฯ สั่งกำชับจัดระเบียบหนักรายงานทุกเดือนพร้อมจับมือมหาดไทยเอาจริงจัง เชียงใหม่มีหอพักจดทะเบียนกว่า 880 แห่ง อีกร่วม 90 แห่งรอคิว พร้อมรอเจ้ากระทรวงใหม่สั่งเข้มแก๊งวัยรุ่นเพิ่ม

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.นี้นายมงคล ด่านวิไลปิติกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า แม้เดิมทางหน่วยงานจะมีความเข้มงวดเรื่องของจัดระเบียบหอพักและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอยู่แล้วในภาพรวม จะมีบางจุดที่ยังมีร้องเรียนอยู่ ซึ่งก็ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แต่ส่วนมากจะไหวตัวทันและต่อหน้าก็ไม่มีอะไร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังร่วมกับหน่วยงานด้านความสงบเรียบร้อย สถาบันการศึกษาและผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังปัญหาให้ต่อเนื่อง ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมด้วยหอพักต่างเปิดบริการกันเต็มมากขึ้นผู้ใช้บริการเยาวชนนักเรียน นักศึกษาก็จะเข้าอยู่กันแล้ว

ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ ได้มีข้อสั่งการให้กับทุกจังหวัดได้ให้การเฝ้าระวังและเข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดระเบียบหอพักและบางรายไม่ขออนุญาต ในกรณีที่มีนักศึกษา นักเรียนพักเกิน 5 คน ซึ่งปกปิดว่า ไม่มีเข้าพักถึง และปัญหาการมั่วสุมก็เกิดขึ้น ทำให้สวัสดิภาพไม่ดี ซึ่งที่พบส่วนมากจะเป็นรายย่อยหรือรายเล็กมีไม่กี่ห้องพักอยู่ตามชุมชนหรือใกล้สถานศึกษา เพราะรายใหญ่ก็จะมีการดำเนินการที่ถูกต้องอยู่แล้ว โดยภาพรวมก็พบว่า มีการร่วมมือดีอยู่แล้ว จะมีเพียงไม่กี่ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีบัญชีอยู่แล้วเวลานี้ นอกเหนือจากนั้นก็จะมีที่แอบแฝงไม่เปิดเผย

อย่างไรก็ตามการดำเนินการนั้น จะยังเน้นการมีส่วนร่วมกัน ทั้งผู้ประกอบการ ผู้ที่เข้าพักและราชการที่เกี่ยวข้องและองค์กรท้องถิ่น ซึ่งเป็นการทำให้เมืองน่าอยู่และมีความปลอดภัย โดยยุทธศาสตร์ของจังหวัดก็มีการเน้นว่า เชียงใหม่จะเป็นอีกจังหวัดนำร่องที่จะเป็นเมืองน่าอยู่และปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน สตรี และผู้สูงอายุ ฉะนั้นแน่นอนว่า จากนี้หากใช้มาตรการทางการร่วมมือกันแล้วไม่ได้ผลก็ต้องเอามาตรการทางกฎหมายมาดำเนินการเด็ดขาดสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน ต้องลงโทษเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในสิ่งที่ดีๆ กับสังคม เพราะหอพักที่เข้าข่ายไม่จดทะเบียนโดยปกปิดข้อมูลจริง ก็สะท้อนความไม่ปลอดภัยแล้ว

พม.จ.เชียงใหม่กล่าวอีกว่า หลังจากที่เดือนมกราคมได้มีการแจ้งประสานให้ผู้ประกอบการหอพักได้แจ้งจดทะเบียนให้ถูกต้องแล้ว นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาได้มีการออกตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ทั้งฝ่ายปกครอง ความมั่นคง ทหาร ตำรวจที่เฝ้าระวังปัญหาทางสังคมของเมือง ซึ่งก็พบการกระทำผิดแต่มีน้อยเพราะเริ่มใกล้ปิดภาคเรียนและส่วนมากก็ไม่พบสิ่งผิดปกติเป็นความร่วมมือที่ดี แต่หากผิดก็ต้องเอามาตรการทางกฎหมายลงโทษทันที โดยไม่ผ่อนปรนเช่นที่ผ่านมาเพราะถือว่า ได้แจ้งประสานและเป็นที่รับทราบกันนานแล้วไม่ใช่มาสมัยรัฐบาลนี้ และหากไม่ขออนุญาตก็ยิ่งมีความผิดเพิ่มจากที่จดทะเบียนแล้วไม่ได้ดำเนินการตามประสงค์หลัก

สำหรับเชียงใหม่ถือว่า เป็นปัญหาในระดับต้นๆ ของประเทศเพราะเป็นเมืองใหญ่มีสถานศึกษาจำนวนมาก ทำให้มีนักเรียน นักศึกษามาเข้าเรียนจำนวนมาก ทั้งระดับมัธยมถึงอุดมศึกษาเฉพาะในเขตเมืองเชียงใหม่ก็มีสถานศึกษารวมกว่า 40-50 แห่งแล้วปริมาณนักเรียนนักศึกษาที่ต้องมาเรียนและพักอยู่หอพักก็มีเป็นแสนๆ ราย ฉะนั้นหอพักที่มีนักเรียน นักศึกษาพักอยู่แต่ไม่ได้แจ้งถูกต้อง ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมายแน่นอน ซึ่งตอนนี้ทางกระทรวงฯ ก็เป็นนโยบายรวมทั้งจังหวัดก็ประกาศเป็นวาระจังหวัดไปแล้ว ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนใหม่ยังไม่ได้มีการมอบนโยบายอะไรเป็นพิเศษตอนนี้ เพียงแต่แจ้งเบื้องต้นว่า จะมีการเอาจริงกับกลุ่มวัยรุ่นที่รวมกันเป็นแก๊งกวนเมือง เข้าใจว่า จะมีการให้นโยบายเร็วๆนี้

นายมงคลยอมรับว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีความหลากหลายและสังคมซับซ้อนเพราะเป็นเมืองใหญ่คนต่างถิ่นเข้ามาอยู่จำนวนมาก และการพัฒนาทางสังคมก็มีความเสี่ยงมีสิ่งยั่วยุเพิ่มสูงขึ้นตามมาด้วย ทำให้เกิดปัญหาทางสังคมเพิ่มขึ้นตามมา สถานที่ที่เสี่ยงเช่นหอพักที่มักจะเป็นแหล่งมั่วสุมก็จะเป็นสถานที่สร้างปัญหาทางสังคม ยาเสพติดและอื่นๆ ไปด้วย โดยปัจจุบันพบว่า เชียงใหม่มีหอพักที่จดทะเบียนรวมกว่า 880 แห่ง และอยู่ระหว่างขออนุญาตดำเนินการอีกร่วม 90 แห่ง ซึ่งถือว่า มีจำนวนมาก นอกจากนี้พบว่า ยังมีอีกหลายแห่งที่ไม่ได้ขออนุญาตดำเนินการที่ถูกต้อง โดยปรับใช้จากอาคารเดิมและการเปลี่ยนกิจการจากเดิมที่สร้างไว้หรือบางรายก็ดัดแปลงบ้านหรืออาคารทำ และรายย่อยจะมีอยู่มากที่ไม่ได้ขอตามระเบียบความถูกต้อง.

ข่าวจาก ไทยนิวส์