ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ สั่งดำเนินการเอาผิดนายทุนเงินกู้นอกระบบหลังมีเหยื่อแม่ค้าข้าวแกงถูกข่มขู่ย้ำทำผิดกฎหมายชัดเจน เตือนประชาชนให้ข้อมูล และเบาะแสตำรวจหากพบพaฤติกรรมแจ้งดำเนินการทันที

จากกรณี นางคำใส ทรายคำ อายุ 73 ปี บ้านเลขที่ 134/2 หมู่ 2 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่บ้านเช่าเลขที่ 34/1 ถนนสุริยวงศ์ ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ และ นางอารี มาลาหวล อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 63/2 ถนนเดียวกันทั้งสองมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารในตลาดประตูก้อม พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ตท.สมัย มูลประการ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ถูก ลูกน้องกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย และพังบ้านหากไม่ยอมชำระดอก เบี้ย และจ่ายเงินต้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวคืบหน้าคดีนี้เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค.นี้ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก. สภ. เมืองเชียงใหม่ เผยว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้ได้สั่งการด่วนให้ พ.ต.ท.วชิระ กาญจนวิภาดา สว.สป.สภ.เมืองเชียงใหม่
ให้ดำเนินการหาข้อมูลเชิงลึกของ กลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบเหล่านี้ และให้ตรวจสอบด้วยว่า ที่ผ่านมามีผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อ เคยมาแจ้งความร้องทุกข์กี่ราย ให้ดำเนินการรวบรวม และนำเสนอขึ้นมา เพื่อรายงานด่วนต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง

ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยอีกว่า พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มีมานานแล้ว ถึงแม้ที่ผ่านมาจะยังไม่กระทำการรุนแรงก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายในความผิดฐาน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่รัฐกำหนด หากพบ หรือมีผู้เสียหายก็สามารถจับกุมมาดำเนินคดีได้ทันที

" เท่าที่ทราบกลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีการนำเงินปล่อยให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่เปิดแผงขายของตามตลาดสดต่างๆทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 บาท หรือมากกว่านั้น และจะมีการตามเก็บเป็นรายวัน หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "แก๊งหมวกกันน็อค" พวกนี้จะรับมอบหมายจากตัวนายทุนเงินกู้ ให้ตามเก็บจากลูกหนี้เป็นรายวัน "

เพื่อดำเนินการเอาผิดกับ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ จึงขอความร่วมมือมายังประชาชน ที่เคยถูกกลุ่มบุคคลเหล่านี้ข่มขู่ หรือทำร้าย ให้มาแจ้งความร้องทุกข์กับ ตำรวจได้ทันที หรือหากไม่กล้าแจ้งความเพราะเกรงกลัวอิทธิพล ให้โทรศัพท์มาให้ข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสได้ ทางตำรวจจะดำเนินการทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า กลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ มีแพร่กระจายไปทั่วทั้งในเขตเมืองเชียงใหม่ และตามอำเภอรอบนอก โดยจะมีการทำสัญญาเงินกู้กับผู้กู้ มีการเขียนสัญญาระบุต่างๆนานา "ร่วมลงทุน" หรืออื่นๆ และการกู้แต่ละครั้งนั้น ผู้กู้จะยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราแพงตั้งแต่ร้อยละ 20 เป็นต้นไป หรือบางรายเดือดร้อนเงิน ยอมชำระดอกเบี้ยในอัตราสูงมากกว่านี้ก็มี และที่ผ่านมามีลูกหนี้หลายราย ที่ขาดส่งมักจะถูกทำร้ายร่างกาย หรือพังข้าวของเสียหาย และข่มขู่แต่ส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มบุคคลเหล่านี้.

ข่าวจาก ไทยนิวส์