ฆาตกรรมอุกอาจหน้าตลาดนัด มือปืนสวมหมวกคลุมหน้าบุกสังหารชาวเขา รัวยิงสามนัดซ้อน ก่อนหลบหนีทำใจเย็นก้มลงเก็บปลอกกระสุนปืนไปด้วย นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนหนีลอยนวลท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชนที่มาหาซื้อสินค้าในตลาดนับร้อย เหยื่อกระสุนเคยถูกตามล่าเอาชีวิตมาแล้วสองครั้ง สาเหตุยังมืดมน

คดีสังหารโหดเย้ยกฎหมายรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15 น.วันที่ 26 ส.ค.นี้ โดย พ.ต.ท.ธงชัย เอื้อแท้ สารวัตรเวร สภ. เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่หน้าตลาดนัดแสงจันทร์ หมู่ที่ 7 ต.เชียงดาว จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.ทราบ จากนั้นร่วมกันออกไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรกิจ ศรีมนัส รอง ผกก.ป. และชุดสืบสวนอีกหลายนาย

สถานที่เกิดเหตุเป็นร้านซ่อมรองเท้าไม่มีชื่อ ตั้งอยู่เลขที่ 3 หน้าตลาดนัด ในเขตเทศบาลตำบลเชียงดาว บริเวณหน้าร้านมีเลือดกองใหญ่ ประชาชนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีรถกระบะโตโยต้า สีบอร์นเงิน ป้ายทะเบียน ผต-6820 เชียงใหม่ เป็นรถของคนถูกยิงจอดอยู่ ส่วนคนถูกยิงมีผู้นำส่ง รพ.เชียงดาวแล้ว จึงตามไปสอบสวน ทราบชื่อ นายภูวนัย เลาลี อายุ 46 ปี ชาวเขาเผ่าลีซอ อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตขณะไปถึงโรงพยาบาล สภาพศพถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้ากลางหลังทะลุอกซ้าย 1 นัด ไหล่ซ้าย 1 นัด บริเวณคอด้านหลัง 1 นัด

สอบสวน นางอำไพ เล่าจาง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 235 หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว ชาวเขาเผ่าลีซอ ภรรยาของนายภูวนัย ที่เพิ่งแต่งงานกันได้ 5 เดือน ให้การว่า ได้นั่งรถมากับนายภูวนัย เพื่อมาซื้อของที่ตลาดนัด เสร็จแล้วนายภูวนัยแวะไปเอารองเท้าที่นำมาซ่อมไว้ที่ร้าน ขณะนายภูวนัยนั่งหันหลังเพื่อรับเอารองเท้าจากเจ้าของร้าน มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีมสีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้มาจอดใกล้ร้าน ชายคนนั่งซ้อนท้ายสวมหมวกผ้าแบบมีปีกคลุมหน้า เดินลงจากรถเข้าไปยืนด้านหลังนายภูวนัยในระยะใกล้ ซักปืนพกสั้นออกมารัวยิงนายภูวนัยรวม 3 นัด จากนั้นคนร้ายได้วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของเพื่อนที่จอดรออยู่ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชนที่มาหาซื้อของในตลาดจำนวนมาก

ต่อมาสอบสวน นายอนนท์ หุ่นสิงห์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านรับซ่อมรองเท้า ให้การว่า ขณะกำลังหยิบรองเท้าส่งให้นายภูวนัย เห็นคนร้ายชักอาวุธปืนพกสั้นออกมารัวยิงนายภูวนัย จึงกระโดดหลบวิถีกระสุนด้วยความตกใจ โดยไม่ได้สังเกตรูปร่างและหน้าตาของคนร้าย และเห็นคนร้ายก้มลงเก็บปลอกกระสุนปืนที่ใช้ยิงนายภูวนัยไปด้วย คาดว่าเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. แล้ววิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถเพื่อนที่ติดเครื่องยนต์รออยู่หลบหนีไป จำหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้

จากการสอบสวนของตำรวจ ทราบว่านายภูวนัยเคยถูกคนร้ายลอบยิงมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี 2548 กระสุนปืนถากศีรษะบาดเจ็บเล็กน้อย และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2549 กระสุนปืนถูกขาขวา 1 นัด กระดูกแตก ยังเดินกระเผลกๆ ถึงขณะนี้ ทั้งสองครั้งเหตุเกิดท้องที่ ต.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับคนร้ายได้ และยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด.

ข่าวจาก ไทยนิวส์