กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กะเหรี่ยงแฉ!กำนันอมงบปลูกทุ่งบัวตอง
............อมงบบัวตอง.................
ราษฎรกะเหรี่ยงบ้านใหม่พัฒนาปู่กู ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม ร้องเรียนต่อสื่อ แฉเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอขุนยวม ร่วมมือกับ กำนันตำบลแม่อูคอ ละลายงบโครงการอยู่ดีมีสุข เอามาปลูกต้นดอกบัวตอง สองข้างทางไปทุ่งบัวตองแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท แต่ต้นดอกบัวตองที่ปลูก ไว้ตายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2551 นายสมชาติ สุขฤดี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 4 ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เรื่องการทุจริต การปลูกต้นดอกบัวตอง สองข้างฝั่งถนน ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านไปยังทุ่งบัวตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยพบว่าโครงการปลูกต้นดอกบัวตอง บริเวณสองข้างถนนในหมู่บ้าน เป็นโครงการที่ทางอำภอขุนยวม ได้จัดสรรงบประมาณ จากงบโครงการอยู่ดีมีสุข มาให้ราษฎรในหมู่บ้าน ทำการปลูกต้นดอกบัวตอง โดยโครงการดังกล่าว พบว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของอำเภอ ร่วมมือกับกำนัน ในการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง อ้างจัดสรรงบประมาณปลูกดอกบัวตองกว่า 4 แสนบาท แต่ข้อเท็จจริง ไม่ได้มีการใช้เงินงบประมาณถึง
ตามที่ได้มีการตั้งเบิก โดยกำนันได้สารภาพในที่ประชุมระหว่าง ราษฎร กับ คณะกรรมการหมู่บ้าน ว่าเอาเงิน 1 แสนบาท ไปให้เจ้าหน้าที่อำเภอ และเมื่อถูกราษฎรทวงถามเรื่องการเบิกเงินงบประมาณ ก็ไม่กล้า แสดงหลักฐานบัญชีเงินฝาก ให้รับทราบ และ พยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ของราษฎรว่าจะลาออก แต่เมื่อราษฎรไม่ติดตามก็กลับคำไม่ลาออก ซึ่งหากปล่อยให้มีการอาศัยอยู่ในตำแหน่งต่อไป จะส่งผลต่อการบริหาร และ ร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ฉ้อราษฎร์บังหลวงต่อไป จึงขอให้สื่อช่วยเป็นสื่อกลางในการตรวจสอบการทุจริตดังกล่าว โดยในสัปดาห์หน้า ราษฎรกะเหรี่ยงในหมู่บ้านจะเข้าพบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อยื่นหลักฐานการกระทำผิด และหากผู้ว่าราชการไม่ดำเนินการทั้งที่ส่งหลักฐานให้แล้ว ก็จะใช้มาตรการเด็ดขาด ปิดถนนทางขึ้นทุ่งบัวตองบาน ในวันเปิดเทศกาลทุ่งบัวตอง ของจังหวัดในเดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
นายสมชาติ สุขฤดี เปิดเผยต่อไปว่า ตามที่รัฐบาลได้อนุมัติเงินโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข พื้นที่ ต.แม่อูคอ ทางอำเภอขุนยวมได้จัดทำโครงการปลูกต้นบัวตองสองข้างทาง บรรจุลงในโครงการของ หมู่บ้าน จำนวน 5 หมู่บ้าน การประชุมและการทำประชาคมครั้งนั้นก็ไม่ได้มีการบรรจุ โครงการปลูกต้นบัวตองสองข้างทาง แต่มีการบรรจุหลังการประชุม ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รับทราบและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งและไม่ทราบด้วยว่า เงินโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข หมู่บ้านละ 450,000.-บาท (สี่แสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ไปปลูกต้นบัวตองสองข้างทาง อีกอย่างหนึ่งพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหมู่บ้านมีระยะทางที่จะปลูกต้นบัวตอง สองข้างทางไม่เท่ากัน เป็นที่สงสัยว่าอาจส่อไปทางทุจริตในเชิงนโยบาย ไม่มีหลักเกณฑ์อะไรในการจัดสรรจำนวนเงินซึ่งเท่ากันทุกหมู่บ้าน หลังจากเงินโครงการดังกล่าวได้โอนเข้าในบัญชีหมู่บ้าน มีกระแสว่าจะให้มีการดำเนินงานในโครงการเพียง จำนวนเงิน 160,000.-บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นบาท) เท่านั้น ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่าอาจไม่โปร่งใส
โดยได้ตั้งข้อสงสัยที่คาดว่าไม่มีความโปร่งใสของงบประมาณ ไว้ดังนี้
1.ไม่มีการเรียกประชุมคณะกรรมการโครงการ เพื่อปรึกษาหารือ ซึ่งมีคณะกรรมการจำนวนมากไม่ทราบเรื่องการดำเนินงาน และไม่ได้ชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบด้วย
2.สำเนาบันทึกรายละเอียดการใช้จ่ายเงินของคณะกรรมการ ของหมู่ที่ 4 (คาดว่าเป็นการประชุมลับ 19 กรกฎาคม 2551) ในรายการมีการเขียน (1. อำเภอ 100,000.-บาท) โดยเรียงลำดับดังกล่าวจะสังเกตเห็นว่าการใช้เงินจะเน้นเรื่องการบริหารและ การจัดการ ซึ่งมากถึง 304,240.-บาท (สามแสนสี่หมื่นสองร้อยสี่สิบบาท) ซึ่งต่างจากค่าแรงและผลประโยชน์ที่ชาว บ้านได้รับเพียง 143,760.-บาท เท่านั้น ในวงเล็บ 1.อำเภอ 100,000.-บาท เงินจำนวนดังกล่าวกำนันนำไปให้กับผู้ใด และมีการจัดเก็บภาษี 31,360.- บาท ซึ่งคิดภาษีถึง 7 %
3.การดำเนินงานโครงการปลูกต้นบัวตองสองข้างทาง มีการใช้เงินจำนวนสูงถึง 450,000.-บาท ความจริงอาจไม่สูงถึงขนาดนั้น เพราะต้นบัวตองขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพียงแต่ซ่อมแซมและบำรุงรักษา,ตัดแต่ง,ปลูกเสริมเป็นบางจุดเท่านั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องมาเบียดเอาเงินโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของชาวบ้าน อีกอย่างหนึ่งงบประมาณของการท่องเที่ยวก็มีอยู่ ทำไมไม่ดึงงบประมาณการท่องเที่ยวมาดำเนินการ
4.หมู่บ้านแม่อูคอ ทางผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน ไม่เปิดเผยยอดเงินที่ดำเนินงานจริง ไม่เรียกประชุมชาวบ้านเพื่อชี้แจงในรายละเอียด เมื่อชาวบ้านสอบถามก็ไม่ชี้แจง ไม่ยอมให้ดูบัญชีธนาคาร ธกส. ซึ่งคาดว่ามีการเบิกเงินไปแล้ว 450,000.-บาท แต่ประธานบอกชาวบ้านว่ามีการเบิกเงินไปแค่แสนกว่าบาทเท่างานที่ทำไปเท่านั้น ที่เหลือก็ยังคงอยู่ในบัญชี
5.ราษฎรตำบลแม่อูคอต้องการ กำนันลาออกเพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้นำใหม่ เนื่องจากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีความโปร่งใสกับการดำเนินงานโครงการ ของรัฐบาลที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ยังเป็นข้อสงสัยของชาวบ้าน จากบันทึกประชุมประจำเดือนแต่ละเดือนของชาวบ้าน หมู่ที่ 4 มีชาวบ้านเข้าร่วมประชุมน้อยมาก และในเดือน กรกฎาคม 2551 เป็นช่วงการปลูกต้นบัวตองสองข้างทางและมีปัญหาเรื่องยอดเงินที่ถกเถียงกันก็ ไม่เรียกประชุม อาจเป็นที่สังเกตว่าเพื่อเลี่ยงการตอบคำถามเรื่องบัวตองการปลูกต้นบัวตองสอง ข้างทางโดยอ้างว่าเป็นช่วงการทำนา เพราะการประชุมประจำเดือนแต่ครั้งจะเป็น เฉพาะช่วงค่ำเท่านั้น
สำหรับโครงการดังกล่าว ได้เริ่มขึ้นระหว่าง เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม 2551 เป็นโครงการปลูกต้นดอกบัวตองสองข้างถนนผ่านหมู่บ้านไปยังทุ่งดอกบัวตอง ที่ดอยแม่อูคอ โดยมีรายละเอียดโครงการดังนี้ คือ 1.ค่าจ้างเหมา ตัดเผาและกำจัดวัชพืชสองข้างถนน และเตรียมพื้นที่ปลูกต้นดอกบัวตอง เป็นเงิน 50,000 บาท , 2. ค่าจ้างเหมา จัดหาพันธุ์ดอกบัวตอง และทำการปลูกเสริม จำนวน 13,847 ต้น ในราคา ต้นละ 23 บาท รวมเป็นเงิน 318 , 500 บาท , 3. ค่าจ้างเหมาดูแลต้นดอกบัวตองที่ปลูก ในระยะเวลา 6 เดือน ระหว่าง เดือนพฤษภาคม ถึง ตุลาคม 2551 เดือนละ 4,000 บาท เป็นเงิน 24 ,000 บาท และ 4. ค่าจ้างเหมาจัดหาปุ๋ยอินทรีย์มูลสัตว์ เพื่อบำรุงรักษาต้นดอกบัวตอง ระยะ 6 เดือน เป็นเงิน 57,500 บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 450,000 บาท
จากโครงการดังกล่าว พบว่า มีเงื่อนงำ คือ การว่าจ้างราษฎรในหมู่บ้าน ไม่ทั่วถึง และมีการจ้างงานเพียงเล็กน้อย และเมื่อมีการสอบถามในที่ประชุมของหมู่บ้าน ซึ่งมีนายอนันต์ กรอบเงินดี กำนันตำบลแม่อูคอ เป็นประธาน ว่าเงินงบประมาณใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ทางกำนันก็ไม่สามารถชี้แจงรายระเอียดได้ และ อ้างว่าได้นำเงินส่วนหนึ่งจากงบโครงการ จำนวน 100,000 บาท ไปให้กับเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอนายหนึ่ง และเมื่อราษฎรถามถึงสมุดบัญชีเงินฝากงบโครงการ ว่ามีการเบิกจ่ายอะไรบ้าง กลับไม่ยอมนำสมุดมาชี้แจงแต่อย่างใด
และการจัดหาพันธุ์ต้นดอกบัวตอง มาปลูกในโครงการนั้นพบว่า ไม่ได้มีการจัดซื้อ ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียด ของโครงการแต่อย่างใด แต่พบว่า มีการดำเนินการตัดต้นดอกบัวตองบริเวณข้างถนนมาทำการปลูก และไม่มีการดูแล หรือบำรุงรักษาแต่อย่างใด ทำให้ต้นดอกบัวตองในโครงการที่ปลูกไว้ เกือบ ร้อยละ 70 ได้ตายลง และ ไม่มีใครรับผิดชอบ ซึ่งส่งผลให้งบประมาณที่จัดสรรลงไปต้องสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์
ทั้งนี้ โครงการที่กล่าวมาข้างต้น พบว่า ทางอำเภอขุนยวม ได้มีการจัดให้มีการปลูกต้นดอกบัวตอง สองข้างถนน จำนวน 5 หมู่บ้าน คิดเป็นเงินทั้งหมด หมู่บ้านละ 450,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,250,000 บาท ( สองล้านสองแสนห้าหมื่นบาท ) ซึ่งทางราษฎรจะทำการร้องเรียนไปยังนายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการ และ กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ดำเนินการ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ การทุจริตดังกล่าว เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ และ ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยใน ขั้นต้นทางราษฎร ต้องการให้ย้ายนายอำเภอขุนยวม ออกนอกพื้นที่ไว้ก่อน และหากว่าทางจังหวัด ฯ ยังไม่ดำเนินการ และ พยายามปกป้องเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด ทางราษฎรทั้งหมด จะทำการปิดถนนทางขึ้น ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ ในวันที่จะมีการเปิดเทศกาลทุ่งบัวตองบานในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ที่จะถึงนี้เพื่อมิให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมทุ่งบัวตองได้อีกต่อไป
ที่มา เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
