| • โปรโมชั่นอควาเรี่ยม สวนสัตว์! ซื้อ 1 แถม 1 |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 15 พ.ย. 51 เวลา 16:18:20 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
บริหารองค์การสวนสัตว์ฯ ยันเปิด “เชียงใหม่ ซู อควาเรี่ยม” มูลค่า 600 ล้านบาทเป็นทางการอีกครั้ง 17 พ.ย.นี้ หลังระบบคุณภาพน้ำมีปัญหาเลื่อนบริการมากว่า 2 สัปดาห์ทั้งที่เพิ่งเปิดแค่วันเดียว ยันมั่นใจคราวนี้พร้อมเต็ม 100% ไม่มีปิดซ้ำอีก และจัด โปรโมชันล่อใจซื้อบัตรเข้าชม 1 แถม 1 ถึงสิ้นเดือนสำหรับคนไทย ระบุเตรียมเพิ่มความน่าสนใจเทงบอีกก้อนซื้อพันธุ์ปลาหายากและนางเงือก "มัสมาตี"จากฝรั่งเศสมาแน่แต่ต้องรอ
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.นี้ ที่เชียงใหม่ซูอควาเรียม สวนสัตว์เชียงใหม่ นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยผู้บริหารจากบริษัท มารีนสเคป(ประเทศไทย)จำกัด นำคณะสื่อมวลชน ท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ เข้าเยี่ยมชมและตรวจดูความพร้อมของ "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" หรือศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็ม มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นี้ แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้น เพียงวันเดียวก็ต้องปิดให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากระบบควบคุมคุณภาพน้ำในส่วนของอุโมงค์แสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดมีปัญหาทำให้น้ำขุ่นและต้องปิดปรับปรุง
ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขระบบควบคุมคุณภาพน้ำของอควาเรียมแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะอควาเรียมใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติบนยอดดอย ทำให้มีความขุ่นมาก ซึ่งมีความอุ่นและมีสารแขวนลอยเลยทำให้ควบคุมได้ยาก วิธีแก้ปัญหาคือใส่โอโซนเข้าไปให้เกิดอ็อกซิเจนในน้ำทำให้แพลงตอนตาย แต่วิธีดังกล่าวใส่โอโซนมากไม่ได้เพราะจะมีผลกระทบต่อปลาจึงต้องใช้ระยะเวลาในการค่อยๆให้น้ำปรับสภาพซึ่งขณะนี้ระบบน้ำมีความใสขึ้น หลังจากใช้เวลาปรับปรุงถึงครึ่งเดือน ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ระบบน้ำมีความใสสะอาดสามารถทยอยนำสัตว์น้ำทั้งโซนน้ำจืดและโซนน้ำเค็มมาลงในแทงค์ได้แล้ว ตอนนี้ได้ทำการปรับปรุงทั้งหมดแล้ว และพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 17 พฤศจิกายน โดยมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นอีก เพราะมีความพร้อมและสมบูรณ์ 100% แล้ว
ขณะเดียวกัน ยังเชื่อมั่นว่า "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" แห่งนี้ จะเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ของสวนสัตว์เชียงใหม่และจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากมีจุดขายอยู่ที่อุโมงค์ชมพันธุ์สัตว์น้ำที่ยาวที่สุดในโลก 133 เมตร รวมทั้งมีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้งพันธุ์สัตว์น้ำตืดและพันธุ์สัตว์น้ำเค็ม ทั้งสิ้นประมาณ 250 สายพันธุ์ จำนวน 8,000 กว่าตัว แม้เวลานี้จะยังไม่ครบตามจำนวนตามเป้าหมาย แต่ก็กำลังดำเนินการจัดหามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยรับประกันว่าสัตว์น้ำแต่ละชนิดล้วนเป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ นายโสภณ ระบุด้วยว่า ตามความมุ่งหมายขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้ว ตั้งใจว่า "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" แห่งนี้จะต้องไม่เป็นเพียงแค่ศูนย์จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ และแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่จะมีการดำเนินการและพัฒนาให้เป็นเสมือน "ธนาคารพันธุ์สัตว์น้ำหายากของโลก" ด้วย โดยมีแผนที่จะทำการรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำหายากจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่และทำการเพาะขยายพันธุ์ให้ได้ เพื่อนำกลับคืนสู่แหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งจะพยายามทำให้ได้ตามแผน
นายโสภณ กล่าวว่า ในส่วนของรายของสวนสัตว์เชียงใหม่นั้น ในช่วงปีก่อนๆมีแพนด้าเป็นตัวดึงดูดส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวมาเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี แต่สำหรับปี 2551นี้มีปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองมากระทบจึงทำให้ยอดผู้เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ลดลงไปเหลือแค่ประมาณ 8 แสนคนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดอควาเรียมครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยในปีแรกเชื่อว่าตั้งเป้าว่ายอดรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมอควาเรียม จะอยู่ที่ปีละ 50-60 ล้านบาท เชื่อว่าครั้งนี้จะไม่ทำให้คนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต้องผิดหวัง
"เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" แห่งนี้ จะมีจุดขายอยู่ที่อุโมงค์จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่และยาวที่สุดในโลก แต่ในแง่ของสัตว์น้ำที่นำมาจัดแสดงทั้งสายพันธุ์และจำนวน ยังถือว่ามีความหลากหลายไม่มากนัก ขณะเดียวกันการจัดภูมิทัศน์ทั้งภายนอกและภายในก็ยังถือว่าทำได้ไม่ดีนัก เช่น การจัดแสงสีภายในส่วนจัดแสดง ที่มีจุดอับและมืดเป็นจำนวนมาก เป็นต้น ตามแผนงานจะมีการจัดงบประมาณ เพื่อจัดซื้อพันธุ์สัตว์น้ำมาเพิ่มอีกเช่นเดียวกับปลา มัสมาตี จากฝรั่งเศสที่เจ้าของสวนสัตว์ได้มาเยี่ยมและแสดงความพอใจกับ "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม"ซึ่งอยู่ระหว่างหารือเรื่องการดำเนินการว่าจะมาเมื่อใดเพราะมีรายละเอียดของอาหารและเอกสารต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
สำหรับการจัดเก็บค่าเข้าชมนั้นนายโสภณได้ยืนยันเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ว่า อัตราการจัดเก็บคนไทยผู้ใหญ่อยู่ที่ 250 บาท เด็ก 180 บาท สำหรับชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 450 บาท ส่วนเด็ก 350 บาท โดยทางอควาเรียมได้จัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าชมเป็นพิเศษในช่วงแรกคือระหว่างวันที่ 17 พ.ย.ไปจนถึงสิ้นเดือนพ.ย.นี้จะอัดโปรโมชั่นซื้อตั๋วหนึ่งใบได้ฟรีอีก 1 ใบเพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนมาท่องเที่ยวมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวไทยถึง 30 พ.ย.นี้ โดยเปิดให้เข้าชมในเวลา 09.00-21.00 น.ของทุกวัน.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2295 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 15 พ.ย. 51
เวลา 16:18:20
|
