• พ้น"7วันอันตราย"ลูกหลินฮุ่ยแข็งแรง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 03 มิ.ย. 52 เวลา 23:00:20 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผ่าน7วันแรกเกิดแพนดาน้อย เร่งประคบประหงม"หลินฮุ่ย"หวังให้กินใบไผ่มากที่สุด สวนสัตว์ปรับระบบรถโมบายถ่ายทอดสดทั่วเมือง รักษาการกงสุลใหญ่ย้ำไทยต้องทำตามสัญญาส่งลูกหมีกลับจีน "สุวิทย์"เตรียมบินเจรจาขอต่อเวลา
หลินฮุ่ยพร้อมลูกแพนดาน้อยซึ่งอยู่ในการดูแลของโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนดาในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ยังคงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนติดตามอย่างต่อเนื่อง หลังหลินฮุ่ยให้กำเนิดลูกน้อยเพศเมียเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการประกวดตั้งชื่อโดยมีรางวัลเป็นเงินสด 1 ล้านบาท และรถยนต์ 1 คันนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่แพนดาน้อยมีอายุ 8 วัน นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์เพาะพันธุ์หยาอัน เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าตรวจสุขภาพหลินฮุ่ยและแพนดาน้อย พบว่าทั้งคู่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ปกติดีทุกอย่าง ไม่น่าห่วง โดยเฉพาะแพนดาน้อยถือว่าพ้น 7 วันอันตรายที่เป็นห่วงแล้ว
"ตอนนี้เหลือการฟื้นฟูสุขภาพของหลินฮุ่ยให้กลับมาสมบูรณ์เต็มที่เหมือนเดิมให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะวันพรุ่งนี้ (4 มิถุนายน) ซึ่งจะทำการแยกลูกแพนดาน้อยออกมาตรวจร่างกาย จะต้องวางแผนให้หลินฮุ่ยกินไผ่ให้ได้มากที่สุดในยามที่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยไว้ในอก"
นายเว่ย หมิง กล่าวว่า แพนดาทุกตัวต้องกินไผ่ เพราะมีประโยชน์เกี่ยวกับระบบลำไส้ การขับถ่าย แม้ว่าจะกินแอปเปิ้ล แครอต หรือขนมปังไผ่ แต่ก็ต้องกินไผ่เพื่อไม่ให้ระบบลำไส้และการขับถ่ายมีปัญหา แม้ว่าสารอาหารจากไผ่จะน้อยแต่ขาดไม่ได้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่แพนดาแต่ละตัวที่หลังคลอดลูกแล้วอาจจะกินไผ่เลยภายใน 24 ชั่วโมง หรือบางตัวอาจจะนานกว่านั้น เพราะถือเป็นสิ่งพิเศษ
"ภายใน 1 เดือน ลูกแพนดาน้อยจะสามารถลงมาคลานที่พื้นได้อย่างเต็มที่ เพราะร่างกายจะเริ่มสมบูรณ์และแข็งแรง ส่วนหลินฮุ่ยเริ่มใช้มือข้างขวาคว้าใบอ่อนไผ่ลูกศรมาใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย สร้างความพอใจแก่ทีมพี่เลี้ยงเป็นอย่างมาก หลังจากที่หยุดกินใบไผ่มาหลายวันตั้งแต่ทำลูกหล่นพื้น" นายเว่ย หมิงกล่าว
ด้านนางจิ้น หยี หลิน รักษาการกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ดีใจกับคนไทยและโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนดาในประเทศไทยจริงๆ เพราะจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่และประเทศไทย และยินดีเข้าร่วมงานฉลองแพนดาน้อยที่จะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ ทราบว่าจะเป็นการฉลองตามแบบประเพณีไทยและจีน ระหว่างนี้กำลังคิดวางแผนกับสวนสัตว์เชียงใหม่ว่าจะจัดงานในรูปแบบไหนและเวลาใด
"เช้าวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนนี้ ตั้งใจว่าจะเข้าไปเยี่ยมแพนดาน้อย รวมทั้งช่วงช่วงและหลินฮุ่ยด้วย ตอนนี้กำลังแอบตั้งชื่อแพนดาน้อยอยู่เหมือนกัน และคิดว่าน่าจะมีชื่อเป็นภาษาไทยเพราะเกิดเมืองไทย ส่วนเรื่องที่มีการเรียกร้องขอให้แพนดาน้อยอยู่เมืองไทยต่อไปนั้น เห็นว่าเรื่องนี้อยู่ที่สัญญาระหว่างไทย-จีน ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ระบุไว้" นางจิ้น หยี หลินกล่าว
ขณะที่นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากแพนดาน้อยมีอายุครบ 1 สัปดาห์ สวนสัตว์เชียงใหม่ตกลงร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ติดตั้งปรับปรุงระบบรถโมบายให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเชื่อมโยงสัญญาณ เพื่อถ่ายทอดภาพแม่ลูกแพนดาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ก่อนที่จะเคลื่อนที่รถโมบายออกไปถ่ายทอดสดตามสถานที่ต่างๆ ในเร็วๆ นี้ เพราะอยากให้ประชาชนที่ยังไม่มีโอกาสเดินทางมายังสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้ชมภาพบรรยากาศหลินฮุ่ยและลูกแพนดาน้อยจากคอกกักในลักษณะถ่ายทอดสด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มทยอยเข้าเยี่ยมชมแพนดาช่วงช่วง และชมภาพความน่ารักการเลี้ยงดูลูกแพนดาน้อยของหลินฮุ่ยผ่านโทรทัศน์วงจรปิดอย่างคึกคัก ทุกคนบอกว่าน่ารักมากและอยากเห็นภาพจริงเร็วๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ตั้งใจมาชมพัฒนาการแพนดาน้อย
นายธนภัทรยังกล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนสอบถามเกี่ยวกับกติกาในการตั้งชื่อลูกแพนดาน้อยเข้ามาจำนวนมาก จึงแจ้งให้ทราบว่าการประกวดตั้งชื่อมีสองรอบ รอบแรกส่งชื่อที่ชื่นชอบไม่ว่าภาษาไทย จีน หรือคำเมือง ผ่านระบบเอสเอ็มเอสทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง หรือส่งไปที่สวนสัตว์ทั่วประเทศทั้งทางจดหมาย หรือไปรษณียบัตร หมดเขตวันที่ 12 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้น คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯจะคัดให้เหลือ 4 ชื่อ เจ้าของชื่อได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาทต่อคน พร้อมเดินทางไปชมหมีแพนดา 3 วัน 4 คืน จำนวน 2 ที่นั่ง
"ส่วนรอบสองจัดโหวตรายชื่อทั้ง 4 ชื่อ ทางไปรษณียบัตรเท่านั้น ชื่อที่ได้รับการโหวตมากที่สุดเป็นชื่อแพนดาน้อย หลังจากนั้น นำไปรษณียบัตรชื่อที่ชนะมาจับสลากหาผู้โชคดี รางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน เดินทางไปชมแพนดา 2 ที่นั่ง รางวัลที่ 2-3 รถยนต์ 1 คัน การเดินทางชมแพนดา 2 ที่นั่ง รางวัลที่ 4-15 เดินทางชมแพนดา 2 ที่นั่ง ขณะนี้มีประชาชนร่วมส่งรายชื่อผ่านทางรายการต่างๆ ทางโทรทัศน์เข้ามาจำนวนมาก เช่น ข้าวซอย สันติ ความสุข เชียงใหม่ ใสใส ฯลฯ" นายธนภัทรกล่าว
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าเจรจาเพื่อยืดเวลาอยู่ในไทยของลูกแพนดาจากข้อตกลงที่ระบุว่าให้อยู่ในไทยเพียง 2 ปีเท่านั้นว่า คาดจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ขององค์การสวนสัตว์ไปเจรจากับทางการจีนในเร็วๆ นี้ จากนั้นตนและคณะจะไปเจรจาอีกครั้งปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะไปเจรจาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ไม่ทราบว่าการเดินทางไปครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่จะพยายามเจรจาให้ถึงที่สุด เพื่อให้ลูกแพนดาอยู่ในไทยนานที่สุด
เมื่อถามว่า มีโอกาสแก้ไขข้อตกลงที่ให้ลูกแพนดาอยู่ในไทยเพียงแค่ 2 ปีหรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่า ข้อความในสัญญาก็เปิดช่องอยู่ เชื่อว่าจะสามารถหาวิธีตกลงกัน จนทำให้ครอบครัวแพนดาได้อยู่ในไทยนานขึ้น สำหรับการประกวดตั้งชื่อ จะให้ประชาชนส่งชื่อผ่านสื่อมวลชนและสวนสัตว์ 5 แห่งทั่วประเทศ ก่อนให้คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์คัดให้เหลือ 4 ชื่อ จากนั้นจะให้ประชาชนโหวตผ่านไปรษณียบัตร ชื่อที่ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และอยากจะตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาแพนดาไทย-จีนใน จ.เชียงใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไทยเกิดการเรียนรู้ดูแลแพนดาซึ่งกำลังใกล้สูญพันธุ์
ข่าวจาก มติชน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1418 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 03 มิ.ย. 52
เวลา 23:00:20
|