• ติดตามข่าว--แค่มองหน้าถึงตาย นศ.วิศวะ ถูกยิงดับหน้าผับ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 18 ม.ค. 53 เวลา 13:03:43 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กลางเมืองลำปาง อ้างทะเลาะกับเมีย โมโหเหยื่อ-ยืนจ้อง เผยจนมุมเพราะปืน
รวบ แล้วมือยิงน.ศ.วิศวะ มทร. ล้านนาลำปาง ตร.ตามลากตัวได้พร้อมเมียหลังก่อเหตุไม่ถึง 24 ชั่วโมง ลากตัวมาสอบรับสารภาพ อ้าง ยิงระบายแค้น เนื่องจากทะเลาะกับเมีย ระหว่างที่นั่งซ้อนท้ายกลับบ้านก็ยังทะเลาะกันไม่มีทีท่าจะยุติ พอดีเหยื่อโทรศัพท์อยู่แล้วหันมามองหน้าจึงลงไปจ่อยิงใส่ เผยจนมุมเพราะให้เพื่อนยืมปืนที่ใช้ก่อเหตุมาดูลาด เลาในผับ
จาก เหตุการณ์นายพิษณุ จันต๊ะมา อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศว กรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตลำปาง ถูกคนร้ายจ่อยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าร้านออเดิร์ฟ ทางเข้าหมู่บ้านเวียงบัว ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้ให้ข้อมูลเบาะแสว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอน ด้าดรีม สีแดง ทะเบียน 735 ไม่ทราบตัวอักษร และมีผู้หญิงเป็นคนขับ หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกติดตามหาตัวคนร้ายทันที โดยจับกุมเพื่อนผู้ก่อเหตุได้ก่อน ขณะถูกใช้ให้มาดูลาด เลาที่ร้านเกิดเหตุ ก่อนจะสาวไปถึงมือยิง โดย ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ม.ค.53 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง นำโดย พ.ต.ท.ชัยชนะ แดงดี สว.สส.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปริญญา ชัยเววา สว.สส. และ พ.ต.ต. ประทีป ใจจิตร สวป. ได้นำตัวนายธนากรณ์หรือป๋อง สมยา อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 616 บ้านศรีหมวดเกล้า ม.4 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมด้วยนางศิริวรรณ สมยา อายุ 21 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 337 ม.2 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้ต้องหายิงนายพิษณุ มาสอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง หลังติดตามจับกุมได้ที่บ้านพัก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.45 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ประทีป ใจจิตร สวป.สภ.เมืองลำปาง พร้อมด้วย ร.ต.อ.สามารถ วงศ์ใหญ่ รอง สวป. และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้ร่วมจับกุมนายกรกฎ ชมภูชัย อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระ บอก พร้อมปลอกกระสุนปืนบรรจุอยู่ในรังเพลิงจำนวน 2 ปลอก และอยู่ในลำกล้องปืนจำนวน 1 ปลอก รวม 3 ปลอก ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังร้านออเดิร์ฟ โดยจับกุมนายกรกฎได้ ขณะกำลังออกตรวจตราใกล้เคียงกับร้านออเดิร์ฟที่เกิดเหตุ พบนายกรกฎขับขี่รถจักร ยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขฉน 437 ลำปาง มีชายไทยไม่ทราบชื่อนั่งซ้อนรถมาด้วย
จากนั้นนายกรกฎได้จอดรถบริเวณหน้าร้าน พร้อมกับเดินเข้าไปภายในร้านลักษณะมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินติดตามเข้าไป เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายกรกฎจึงได้วิ่งไปด้านหลังร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งตามไป และได้สังเกตเห็นนายกรกฎนำอาวุธปืนออกมาจากเอว และโยนทิ้งบริเวณด้านหลังร้าน เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จึงได้เข้าจับกุมทันที
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับว่าได้นำอาวุธ ปืนไปซุกซ่อนไว้จริง และซัดทอดว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของนายต่อ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นคนที่นั่งซ้อนท้ายรถมากับตน และหลบหนีไประหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุม จึงได้ตรวจยึดอาวุธปืนไว้เป็นของกลาง และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี พร้อมกับแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาติดตัวไปใน เมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุอันสมควร
หลังจากสอบสวนอย่างละเอียดทราบว่า นายกรกฎได้นำอาวุธปืนดังกล่าวมาจากนายธนากรณ์ ผู้ที่ก่อเหตุยิงนายพิษณุเสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุ ตนได้ไปหานนายธนากรณ์ที่บ้านและนำอาวุธปืนของกลางกลับมาดูลาดเลาที่ร้านที่ เกิดเหตุ เพื่อนำมาไว้ป้องกันตัว แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตกใจวิ่งหนี จนถูกจับกุมตัวได้
จาก การสอบสวนนายธนากรณ์ รับสาร ภาพว่าเป็นผู้ลงมือจ่อยิงนายพิษณุจริง ส่วนสาเหตุนั้นนายธนากรณ์ให้การบอกเพียงว่าก่อนเกิดเหตุตนและภรรยาได้ไปนั่ง ดื่มสุรากับเพื่อนที่ร้านใกล้กันกับร้านที่เกิดเหตุ และทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรง โดยภรรยาได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาพร้อมกับลูกชายวัย 2 ขวบ โดยมีตนซ้อนท้ายมาด้วย และขับรถมาเรื่อยๆ พร้อมทะเลาะกันตลอดเส้นทาง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนายพิษณุยืนโทรศัพท์อยู่และหันมามองหน้าตน จึงกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์ชักปืนที่พกติดตัวยิงใส่นายพิษณุทันทีเป็นการ ระบายอารมณ์ ส่วนภรรยาได้ขี่รถออกไปถึงปากซอยแล้ว แต่ได้ยินเสียงปืนจึงได้ขับรถกลับมารับตนเพราะเกรงว่าจะมีอันตราย ตนจึงวิ่งขึ้นรถและซ้อนท้ายกลับบ้านโดยไม่ได้พูดอะไร เพราะภรรยาคิดว่ามีคนวิ่งไล่มาเท่านั้น จากนั้นตนจึงให้เพื่อนอีกคนกลับมาดูลาดเลาที่ร้านโดยนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อ เหตุติดตัวมาด้วย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สังเกตว่ามีพิรุธ จึงเข้าตรวจสอบและควบคุมตัวไปสอบสวน จนสามารถขยายผลจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำปาง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1731 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 18 ม.ค. 53
เวลา 13:03:43
|