| • เจ้าอาวาสวัดดังลำพูน แถลงอ้างโดนแกล้งตัดต่อ สำนักพุทธฯขอดู ผิดจริงก็ต้องสึก |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 26 ส.ค. 53 เวลา 13:35:49 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เจ้าอาวาสวัดดัง จ.ลำพูน เปิดตัวปฏิเสธข่าวคลิปฉาว "โล้นเกย์" นัวเนียคู่ขาหนุ่มในอ่างอาบน้ำ แร่ ระบุถูกกลั่นแกล้งตัดต่อภาพป้ายสีหวังขับไล่พ้นวัด แต่ยอมรับเคยไปบ่อน้ำพุร้อนที่ จ.เชียงใหม่ แค่ครั้งเดียว อีกทั้งไปกับพระเณรอีกกว่า 10 รูป ยืนยันไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว ขณะที่มือถ่ายคลิปฉาวออกโรงแฉ ที่เกิดเหตุบ่อน้ำพุร้อนสันกำแพงสุดทนพฤติกรรมอุบาทว์โล้นห่มเหลืองคลอเคลียหนุ่มคู่ขาไม่แคร์สายตาชาวบ้าน เลยใช้มือถือแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานก่อนเข้าไปตักเตือน ยังแถข้างๆคูๆ อ้างมาแช่น้ำบำบัดโรค ไม่ได้ทำอะไรผิด ด้านสำนักพุทธฯขอดูคลิปวีดิโอที่เห็นหน้าพระชัดเจน พร้อมลุยตรวจสอบดำเนินการทันที "เกย์นที" จี้ตัดไฟต้นลม วางแนวทางควบคุมพระตุ๊ดเณรแต๋ว
จากเรื่องราวฉาวโฉ่วงการผ้าเหลือง กรณีชาวบ้านแฉภาพคลิปวีดิโอแอบถ่ายพฤติกรรมอุบาทว์ของพระสงฆ์รูปหนึ่ง อายุประมาณ 40 ปีเศษ อ้างตัวเป็นครูบาล้านนาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน พาชายหนุ่มคู่ขาไปเที่ยวรีสอร์ตที่มีบ่อน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งใน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ โดยทั้งคู่เปลือยกายล่อนจ้อนลงอาบน้ำแร่แช่ตัวในอ่างน้ำด้วยกันในห้องส่วนตัว ต่างฝ่ายต่างขัดสีฉวีวรรณนัวเนียเคลียคลอกันอย่างมีความสุข จากการสอบถามชาวบ้านยืนยันว่าพระรูปดังกล่าวมักจะพาชายหนุ่มคู่ขามาเปิดห้องส่วนตัวอาบน้ำแร่หลายต่อหลายครั้ง โดยไม่แคร์สายตาชาวบ้านที่พบเห็นจำนวนมาก จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและหามาตรการลงโทษพระรูปดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้วงการสงฆ์มัวหมองไปกว่านี้
ประกันรถยนต์ลดสูงสุดถึง 50 % ของแถมเพียบ
เช็คเบี้ยประกันฟรีกว่า 20 บริษัท คลิ๊กที่นี่เลย
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดดอยห้างบาตร ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน หลังจากมีกระแสข่าวว่าพระสงฆ์ที่ปรากฏในคลิปวีดิโอฉาวโฉ่นัวเนียกับหนุ่มคู่ขาในอ่างอาบน้ำแร่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับพระเสน่ห์ นาถสิโล อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดดอยห้างบาตร ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดดอยสูงห่างไกลบ้านเรือนประชาชน ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบพระเสน่ห์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ได้รับการเปิดเผยว่า ยังไม่เห็นข่าวที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์ เพียงแต่มีศรัทธาญาติโยมโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังบ้าง ตนก็ไม่หวั่นไหว ยืนยันว่าเรื่องที่ตกเป็นข่าวนั้นเป็นการกลั่นแกล้ง มีการตัดต่อภาพเพื่อหวังจะขับไล่ตนให้พ้นจากวัดดอยห้างบาตร
พระเสน่ห์กล่าวต่อไปว่า บวชเป็นพระเมื่อปี 2522 ที่วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ก่อนที่ชาวบ้านจะนิมนต์มาอยู่ที่วัดนี้ตั้งแต่ปี 2535 ถึงปัจจุบัน มีการพัฒนาวัดมาตลอดเพื่อมุ่งหวังที่จะให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ตลอดระยะเวลาที่มาอยู่ที่วัดนี้ก็มีทั้งคนรักและคนชัง พยายาม ใส่ร้ายมาตลอดหลายครั้งหลายหน ก็ถือว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิด ปัจจุบันมีศรัทธาญาติโยมจำนวนมากพอสมควร ส่วนมากเป็นคนจากที่อื่น ไม่มีศรัทธาประชาชนในพื้นที่เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเขา ห่างไกลจากหมู่บ้าน ที่ว่าวัดนี้ขาดศรัทธานั้นไม่จริง ทุกเช้าพระภิกษุที่วัดทั้งหมด 32 รูปออกไปบิณฑบาตก็มีชาวบ้านทำบุญใส่บาตรเหมือนเดิม จะมีเฉพาะคนบางกลุ่มที่แอนตี้ตนเท่านั้นที่ไม่ใส่บาตร ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะถือว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เคยไปรีสอร์ตที่มีบ่อน้ำพุร้อนใน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ หรือไม่ พระเสน่ห์ ยอมรับว่า เคยไปครั้งหนึ่งเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ไปกับพระเณรที่บวชภาคฤดูร้อนประมาณ 10 กว่าคน ขอปฏิเสธว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีพฤติกรรมดังที่ตกเป็นข่าว ไม่เคยรู้จักกับเด็กหนุ่มที่ไหนแม้แต่คนเดียว เป็นเรื่องของการอิจฉาริษยาที่เห็นตนพัฒนาวัดจนเจริญดังที่เห็น เรื่องที่เกิดขึ้นอยากชี้แจงให้สังคมได้ทราบเพราะข่าวที่ปรากฏขึ้นเท่ากับเป็นการพิพากษาตนทางสังคมฝ่ายเดียว ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวกับใคร
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายวัชรินทร์ พุ่มนารินทร์ อายุ 32 ปี ประธานจุดจอดรถสนามบินน้ำ ศูนย์แท็กซี่รวมมิตร ผู้ที่เป็นคนแอบถ่ายคลิปอื้อฉาวดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุประมาณต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนสนิทอีกคนไปทำธุระที่ จ.พะเยา ขากลับแวะอาบน้ำแร่ที่บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ โดยใช้บริการห้องแช่แบบแยก หรือห้องพิเศษ วันนั้นมีคนมาใช้บริการน้อยมาก ขณะที่ตนกับเพื่อนกำลังแต่งตัวอยู่หน้าห้อง เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งอายุประมาณ 40 ปีเศษ เดินคลอเคลียเข้ามากับลูกศิษย์
หนุ่มหน้าตาดี อายุประมาณ 25 ปี ก่อนหายเงียบเข้าไปในห้องอาบน้ำข้างๆ ห้องของตน จึงเอะใจ ให้เพื่อนช่วยกันยกเก้าอี้มาวางปีนขึ้นไปสอดโทรศัพท์มือถือผ่านช่องระบายอากาศเข้าไปถ่ายคลิปวีดิโอความยาวประมาณ 1 นาที เมื่อนำมาเปิดดูก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นพระรูปดังกล่าวกำลังใช้มือลูบไล้ไปตามลำตัวของลูกศิษย์หนุ่มอย่างเมามัน
จากนั้นตนรีบเดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าว่าอย่าเพิ่งให้ใครเข้ามาใช้บริการ ก่อนปีนขึ้นไปแอบถ่ายคลิปอีกครั้งหนึ่งจนแน่ใจว่า พระกับลูกศิษย์มีพฤติกรรมอุบาทว์เกินกว่าจะทนได้ จึงไปยืนรอที่ร้านค้าด้านหน้าห้องอาบน้ำ พร้อมแจ้งให้ผู้จัดการบ่อน้ำพุร้อนมาเป็นพยาน หลังจากเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ชายในคราบผ้าเหลืองกับเด็กหนุ่มก็เดินควงคู่กันออกมาแบบชื่นมื่น พากันไปนั่งดื่มน้ำในร้านค้า โดยไม่สะทกสะท้านสายตาผู้พบเห็น ตนกับเพื่อนเข้าไปสอบถามจนทราบว่า เป็นพระอยู่วัดพระธาตุดอยห้างบาตร อ.บ้านธิ จ.ลำพูน จึงตักเตือนไปว่าอย่าทำแบบนี้อีก เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา แต่พระกับลูกศิษย์หนุ่มยังช่วยกันเถียงอีกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ้างว่ามาแช่น้ำเพื่อบำบัดโรค ไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ไม่น่าเชื่อก็คือพระยังกล้าสาบานอีกว่าไม่ได้มีอะไรกัน ถ้าหากทำผิดขอให้ตายใน 3 วัน 7 วัน ด้วยความโมโหตนจึงตอบว่างั้นก็ไปตายได้เลย
นายวัชรินทร์กล่าวว่า พระรูปนี้เดินทางมากับลูกศิษย์ชาย 2 คน และญาติโยมผู้หญิงที่นุ่งขาวห่มขาวอีก 4 คน แยกกันไปอาบน้ำที่ห้องฝ่ายหญิง คงจะไปทำบุญกันมา ตนได้โหลดคลิปให้กับผู้จัดการบ่อน้ำพุร้อนสันกำแพงเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งรับปากว่าจะไม่เผยแพร่เด็ดขาด หากทางเจ้าของสถานที่เห็นว่าควรจะดำเนินการอย่างไรก็ให้ทำได้เลย แต่พอมาเห็นข่าววันนี้ก็งงเหมือนกันว่ามีข่าวออกมาได้อย่างไร เพราะเหตุการณ์ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว แต่เมื่อเป็นข่าวแล้วก็อยากให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และอยากให้กรมการศาสนาจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย เพราะทนไม่ไหวจริงๆ
ด้านนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า อยากให้ผู้ที่มีคลิปวีดิโอดังกล่าวที่เห็นหน้าของพระสงฆ์ในคลิปอย่างชัดเจน ส่งมาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ หรือที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่ ก่อนที่จะส่งให้เจ้าคณะผู้ปกครองพิจารณาตัดสินโทษต่อไป เพราะเชื่อว่าหากไปเข้าพักที่รีสอร์ตใน จ.เชียงใหม่ ก็คงจะเป็นพระสงฆ์จาก 2 จังหวัดดังกล่าว เนื่องจากมีพื้นที่ห่างกันเพียง 30 กม. อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นคลิปวีดิโอดังกล่าวทั้งหมด จึงไม่ทราบว่ามีการมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากมีเพศสัมพันธ์ด้วยจะมีโทษถึงต้องสึกออกจากความเป็นพระ
พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าผู้ที่อยู่ในคลิปวีดิโอดังกล่าวเป็นพระสงฆ์หรือไม่ และอยู่วัดใดใน จ.ลำพูน อยากให้ส่งคลิปวีดิโอมาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูนตรวจสอบด้วย สำหรับโทษนั้นหากพบว่ามีเพศสัมพันธ์ก็ต้องให้สึกออกไป
นายจำลอง กิติศรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เท่าที่ดูภาพจากคลิปวีดิโอ พระรูปนี้ทำผิดทางวินัยแล้ว จากการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังตันสังกัดในจังหวัดของพระรูปนี้แล้ว พร้อมนำคลิปวีดิโอให้ไปเป็นหลักฐานด้วย ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความผิดอย่างไร แต่เท่าที่ดูภาพจากคลิปวีดิโอแล้ว พระรูปนี้มีการถอดผ้าด้วย ถึงขั้นปาราชิกคงทำการสึกได้ทันที โดยให้ผู้ที่มีอำนาจทางวินัยสงฆ์จัดการ
พ.ต.อ.กนิษฐ ประสานสุข ผกก.สภ.แม่ออน เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีจริง รีสอร์ตแห่งนี้มีป้อมตำรวจด้วย คนที่ถ่ายคลิปวีดิโอเป็นนักท่องเที่ยวที่มาพักในรีสอร์ต ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายไว้เพราะเห็นว่าพระรูปนี้ทำตัวไม่เหมาะสม เข้าห้องพักและอาบน้ำแร่กับชายหนุ่มคู่ขา เท่าที่ทราบพระรูปนี้มาใช้บริการประมาณ 4 ครั้งแล้ว ส่วนทางผู้จัดการรีสอร์ตแห่งนี้ไม่ยอมให้คำตอบอะไรทั้งสิ้น เพราะกลัวรีสอร์ตจะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 11.00 น. นายนที ธีระโรจน์พงษ์ ประธานกลุ่มอัตลักษณ์ ทางเพศและกลุ่มเกย์การเมืองไทย เปิดแถลงข่าวเรียกร้องให้มหาเถรสมาคม รีบลงมาจัดการเรื่องนี้โดยด่วน เพราะภาพคลิปวีดิโอที่ไทยรัฐนำมาเปิดโปงนั้นค่อนข้างชัดเจน และรู้ตัวพระภิกษุรูปที่กระทำความผิดแล้ว สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสงฆ์เป็นอย่างมาก ตนเห็นภาพข่าวในหน้าหนึ่งของไทยรัฐแล้วสลดใจมาก เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนตนเคยเป็นแกนนำจับสึก "เจ๊ดาว" พระครูรูปหนึ่งใน จ.ลำพูน มีพฤติกรรมเป็นกะเทยเสริมหน้าอกหนีไปเที่ยวกับชายหนุ่ม ไม่นึกว่าเรื่องทำนองนี้จะมาเกิดอีก ยอมรับว่าในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนมีพระตุ๊ดเณรแต๋วมากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่ท่านก็ปฏิบัติตัวดีอยู่ในกรอบ จะมีเพียงไม่กี่รูปเท่านั้นที่แหกคอกทำสิ่งไม่ดี สร้างรอยมลทินให้กับพระพุทธศาสนา
นายนทียังฝากไปถึง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ควรทำงานเชิงรุกกันได้แล้ว โดยหาแนวทางการป้องกันไม่ให้พระเณรกลุ่มที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสงฆ์ ไม่ใช่มีเรื่องทีก็มาไล่จับกันที ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ควรจะสำรวจกลุ่มพระเณรที่มีอัตลักษณ์ทางเพศผิดไปว่าจะมีแนวทางควบคุมพระเหล่านี้ได้อย่างไร เท่าที่ตนเคยไปสัมผัสมา พระผู้ใหญ่หลายท่านก็เป็นกะเทย เมื่อมีเรื่องอะไรก็มักจะปกปิดช่วยเหลือกันไว้จนเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นมาอีก จึงอยากให้ทางมหาเถรสมาคมลงมาจัดการเอาผิดกับพระที่กระทำผิด แล้ววางแนวทางป้องกันไม่ให้พระสงฆ์กลุ่มนี้ออกไปประพฤตินอกกรอบอีก เพราะหากไม่เร่งดำเนินการอาจจะสร้างความเสื่อมเสียและเสื่อมศรัทธากับพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระสงฆ์และพระพุทธศาสนาได้ ตนเคยคุยกับพระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ท่านก็ยอมรับว่าเป็นเกย์ บางครั้งก็มีอารมณ์ทางเพศ แต่ท่านใช้วิธีแก้ไขโดยการฉันยาลดความต้องการทางเพศ สามารถช่วยให้ไม่เกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งจะส่งผลให้ไปประพฤติตัวไม่เหมาะสมได้
ที่มา ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2205 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 26 ส.ค. 53
เวลา 13:35:49
|
