ตร.เข้าจับกุมว่าที่ ร.ต.ที่เป็นอดีตครู ก่อคดีอุ้มฆ่านักเรียนสาววัย 17 ปี โดยลวงเหยื่อออกไปพบก่อนจะทุบหัว และนำศพไปทิ้งเหวนานกว่า 6 เดือน โดยขณะนี้ ตำรวจพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว...

วันที่ 7 ก.ย. ทาง พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผบก.ภ.จว.ลำพูน ได้เข้ามาประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กรณีทางตำรวจ สภ.เมืองลำพูน นำโดย พ.ต.ท.นริศ สอนดิษฐ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลำพูน และ พ.ต.ท.เอกพงศ์ ไชยวงศ์สาย สว.สส.สภ.เมืองลำพูน พร้อมทั้ง พ.ต.ท.ธวัชชัย อยู่มาก รอง ผกก.หน.กลุ่มงานคุ้มครองสิทธิสตรีและเด็ก เยาวชน ศสส.ภ.5 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ปู่ทอง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ 1 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 53 ผ่านมา ได้มีนายสมาน ไชยวงศา อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 63 ม.5 ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ดุษฎี ศรีสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.ลำพูนว่า ขอให้ดำเนินคดีกับ ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย หรือหนุ่ม ปู่ทอง ซึ่งสงสัยจะเป็นผู้ลักพาเอาตัว น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ซึ่งเป็นลูกสาวของนายสมาน ไป โดย น.ส.รุ่งนภา ไม่เต็มใจ เหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนใน จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 15 มี.ค.53 เวลาประมาณ 16.00 น.โดยมีพยานเห็นเหตุการณ์ได้บอกว่า เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ที่เคยเห็นในภาพถ่ายที่ น.ส.บี ให้ดูอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นชายที่คบหากันอยู่ ชื่อเล่นว่า “หนุ่ม” หรือ ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณริมถนนหน้าโรงเรียน จากนั้นก็ไม่พบ น.ส.บี อีกเลย

คดีนี้ พนักงานสืบสวนได้ขอให้ศาล จ.ลำพูน ออกหมายจับ ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยฯ แล้วตามหมายจับศาล จ.ลำพูน ที่ จ.60/2553 ลง 24 มี.ค.53 ข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วย” จึงติดตามหาบุคคลดังกล่าว จนกระทั่งสืบทราบและสามารถจักกุมตัวว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ได้ที่หอพักในจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้นำตัวมาสอบปากคำ ซึ่ง ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาไม่รู้ว่า น.ส.บี ไปไหน ทางตำรวจ จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน เพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่ง

ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ได้ประกันตัวออกมาและต่อสู้คดีเรื่อยมา จนกระทั่งในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ทางอัยการได้ปล่อยตัวนายเฉลิยชัย ออกมา เนื่องจากสำนวนการสอบสวนไม่พร้อม ทาง ตำรวจจึงได้ขอควบคุมตัวไว้ก่อนโดยได้พยายามสอบสวน ว่าที่เฉลิมชัย ตลอดทั้งคืนวันที่ 6 ก.ย. จนถึงเช้าวันที่ 7 ก.ย. ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย จึงเปิดปากรับสารภาพว่าได้ทำการฆ่าทิ้ง น.ส.บี ทิ้งศพไว้ที่บนดอยบ้านแม่สะนาม หมู่ 1 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. หรือประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา
ดังทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีนำโดย พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผบก.ภ.จ.ลำพูน จึงได้นำตัว ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย เดินทางมาที่ ดอยบ้านแม่สะนาม ที่เป็นป่าสนกว้างใหญ่มาก เพื่อเข้าค้นหาศพของ น.ส.บี

ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ได้นำตำรวจเดินป่าค้นหาที่ทิ้งศพในป่าสนบนดอยเข้าไปร่วม 5 กม.จนพบจุดทิ้งศพเป็นร่องลึก ประมาณ 5 เมตรทางผ่านของน้ำป่า พบว่าที่ก้นร่องน้ำเป็นดินโคลนพบซากกระดูกคนและหัวกระโหลกกระจัดกระจายอยู่ โดย ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ยืนยันว่าซากกระดูกที่พบเป็นกระดูกของ น.ส.บี แน่นอน พร้อมกันนี้ ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ได้จุดธุปเทียนขอขมาต่อศพ โดยกล่าวว่าขอให้วิญญาณไปสู่สุคติชาติหน้าก็ขอให้เกิดมาเป็นคู่รักกันใหม่ จากนั้นทางตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ถึงขั้นตอนการฆ่าโหดในบริเวณที่พบศพ

ว่าที ร.ต.เฉลิมชัย กล่าวว่า ได้ไปรับตัว น.ส.บี ที่หน้าโรงเรียนใน จ.ลำพูน เพื่อนำมาปรับความเข้าใจกัน กรณีเกิดรักหลายเส้าขึ้นมา โดย ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ยอมรับว่าคบกับผู้หญิงในเวลาเดียวกันถึง 3 คนโดยสำหรับ น.ส.บี รู้จักกันมานานร่วม 2 ปีโดยมีการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ที่ น.ส.บี โทรเข้ามาหาโดยบังเอิญจึงมีการพูดคุยกันจนสนิทสนมกันมายาวนาน แต่ก็ให้ความรักเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น จนวันเกิดเหตุได้นำมาปรับความเข้าใจกันในปัญหารัก 3 เส้า

ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า กล่าวต่อว่า จากนั้นได้พา น.ส.บี มาพูดคุยที่เกิดเหตุ และได้เกิดโต้เถียงกันขึ้น ตนจึงเกิดโมโหใช้ท่อนไม้ตีหัว น.ส.บี จนแน่นิ่ง และได้ถอดเสื้อผ้าออกก่อนนำไปทิ้งลงในร่องน้ำกลางดอย และตนยังนอนกอดศพไว้ทั้งคืน ก่อนที่จะทิ้งศพไว้จนดินโคลงลงมาทับร่างไว้ จากนั้นได้กลับออกมา จนถูกตำรวจจับกุมในข้อหาพรากผู้เยาว์ โดยตนให้การปฏิเสธในข้อหาดังกล่าวมาตลอด จนคดีหลุดถูกปล่อยตัว แต่มาถูกตำรวจจับกุมและสอบถามถึงเรือง น.ส.บี ตนจึงให้การรับสารภาพ

ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมีพื้นเพเป็นคนที่ราบสูงชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง แต่มุมานะเรียนจนจบคณะศึกษาศาสตร์ ม.รามคำแหง และเคยเป็นครูอยู่โรงเรียนบ้านกาดวิทยา และในช่วงที่เรียนหนังสือได้ฝึกด้านกีฬา จนติดตัวเยาวชนรักบี้ทีมชาติ และติดทีมมวลปล้ำทีมชาติไทย พร้อมกันนี้ได้มีโอกาสแสดงเป็นสตันท์แมน ในหนังองคุลีมาล มาแล้ว และ ขณะนี้ เป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่โรงพยาบาลสวนปรุงเชียงใหม่จนมาถูกจับในครั้งนี้

ข่าวจาก ไทยรัฐ