| • ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่มาแล้ว ชาวเชียงใหม่มีอะไรจะฝากเชิญครับ |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 04 ต.ค. 53 เวลา 21:24:49 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ขรก.-ประชาชนต้อนรับอบอุ่น"มล.ปนัดดา"
ขรก.-ประชาชนต้อนรับอบอุ่น"มล.ปนัดดา" พ่อเมืองเชียงใหม่คนที่33ชูนโยบาย"ฟื้นท่องเที่ยว" หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนที่ 33 เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการแล้ว ท่ามกลางบรรดาหัวหน้าส่วนรชการ พ่อค้า ประชาชน ที่มาเฝ้ารอแสดงความยินดี ผู้ว่าฯคนใหม่เน้นย้ำนโยบายเร่งด่วนต้องรีบแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องแรกรวมทั้งฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัดให้กลับมาเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาค ระบุทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ถ้าอยู่ในกรอบของกฏหมายและเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อเวลา 7.30 น. วันที่ 4 ต.ค. 53 หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนใหม่ได้เดินทางมารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการเป็นวันแรกนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งโยกย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งล่าสุดโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แทนนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ซึ่งเกษียณอายุราชการ โดยมีบรรดาหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเชียงใหม่ ข้าราชการ ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินทางพร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการเดินทางเข้าเคารพสักการะอนุสาวรีย์ช้างเผือกและประตูช้างเผือกซึ่งเป็นประตูเมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ในการเอาฤกษ์เอาชัยในการเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ จากนั้นได้เดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเชียงยืนและได้เดินทางต่อไปยัง อนุสาวรีย์ 3 กษัติรย์สถานที่เคารพนับถือของชาวเชียงใหม่ทุกคน โดยหม่อมหลวงปนัดดาฯ ได้ทำการวางพานพุ่ม พวงมาลัย และจุดธูปเทียนเพื่อบอกกล่าวกับเจ้าผูครองนครทั้ง 3 พระองค์ที่ได้ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นมา จากนั้นได้พบปะพูดคุยกับข้าราชการจากเทศบาลนครเชียงใหม่ กำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่เดินทางมารับตำแหน่ง ซึ่งหลังจากได้ทำความรู้จัก พูดคุยกันทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้รีบเดินทางกลับศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหมเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับทางด้านกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางด้าน หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ในการเดินทางมาปฎิบัติหน้าที่ราชการในวันนี้ว่า เป็นวันแรกที่ผมได้เดินทางมาเคารพสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ ทั้งนี้ถามผมว่าหนักใจไมในการมาทำงานที่เชียงใหม่ที่เป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะมีการจัดแรลลี่สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงเส้นทางเชียงใหม่ - อยุธยาก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายปฏิบัติกันได้ถ้าอยู่ในกรอบของกฏหมาย ซึ่งก็เป็นสิทธิเสรีภาพของทุกคนที่พึงปฏิบัติได้ในการอยู่ร่วมกันเมื่อทุกคนให้การเคารพยอมรับซึ่งกันและกันเราทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและปราศจากเรื่องรุนแรงต่างๆ ซึ่งส่วนตัวผมคงไม่ได้มาทำหน้าที่สยบกลุ่มคนเสื้อแดงในเชียงใหม่ตามที่ได้มีสื่อบางฉบับได้เขียนไป ทั้งๆที่ตัวผมยังไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างไร ซึ่งในตอนนั้นผมยังคงปฏิบัติราชการอยู่ในจังหวัดเดิม (นครปฐม)อยู่เลย ในส่วนของการเดินทางมารับหน้าที่ผูว่าราชการจังหวัดเชียงใมห่ในครั้งนี้นั้น ก็พร้อมเต็มที่ในการรับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่เพื่อหวังที่จะเห็นชาวเชียงใหม่ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างรู้รัก สามัคคี สงบ สันติ ดั่งเช่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรัสไว้ เมื่อคนไทยไม่รักกันแล้วก็คงไม่มีใครที่ไหนมารักเรา ถ้าทุกคนมีปัญหาก็สามารถเดินทางมาพูดคุยกันได้ด้วยเหตุและผล สำหรับในตอนนี้เรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุดคงจะเป็นเรื่องยาเสพติดซึ่งเชียงใหม่เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีอาณาเขตเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านใน 5 อำเภอทั้งจังหวัดซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายหนักใจ ทั้งนี้กงสุลของประเทศต่างๆในเชียงใหม่ก็ให้ความสนใจเพราะขบวนการค้ายาเสพติดได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลำเลียง ขนย้าย ในหลายทางมีการซคงป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมกันอย่างเคร่ดครัดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันในการฟื้นฟูความเป็นสิเน่หาของเมืองเชียงใหม่ให้กลับมา ทั้งนี้กรมพระยาดำรงราชานุภาพท่านได้ทรงตรัสไว้เป็นร้อยๆ ปีแล้วว่า เชียงใหม่เป็นเมืองมนต์เสห่น์หาของล้านนาประเทศสยาม ดังนั้นทุกคนควรที่จะร่วมกันฟื้นฟูมนต์เสน่ห์ของเวียงพิงค์ให้กลับมารวมทั้งการสร้างให้เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภาคเหนือเพื่อให้คงอัตลักษณ์ความเสน่ห์หาของเมืองเชียงใหม่ให้คงไว้ ทั้งนี้พี่น้องทุกภาคส่วนในจังหวัดพร้อมที่จะร่วมมือกันในการสร้างความเจริญให้กับเชียงใหม่ โดยเฉพาะภาคเอกชนที่มีการทำงานอย่างขยันขันแข็ง จะเห็นได้จากการจัดโครงการประกวดแบรด์ของเชียงใหม่เพื่อให้เป็นโลโก้หรือเป็นแบรนด์ของจังหวัดเชียงใหม่ในการเป็นที่จดจำก็เป็นเรื่องที่ดีในการที่จะสานต่อโครงการดังกล่าว รวมทั้งแผนงานการบริหารในเรื่องต่างๆ ที่จะได้มีการประชุมร่วมกับทางหัวหน้าส่วนราชการในการพัฒนาจังหวัดต่อไป ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวทิ้งท้าย ทางด้านประวัติส่วนตัวของ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนที่ 33 เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2499 ชื่อเล่นว่า "เหลน" เป็นบุตรชายคนเดียวของ พลตรีหม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล อดีตเสรีไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำหลายประเทศ กับคุณมัณฑนา ดิศกุล ณ อยุธยา และเป็นปนัดดา (เหลน) ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เกิดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันสมรสกับคุณอัมพร ดิศกุล ณ อยุธยา และมีบุตรชายคนเดียว คือ นายวรดิศ ดิศกุล ณ อยุธยา การศึกษาในระดับประถมและมัธยมที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร (รุ่นที่ 10) จากนั้นจึงติดตามครอบครัวไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ณ โรงเรียนเตรียมทหารคิงส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ และปริญญาโททางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จาก Brigham Young University สหรัฐอเมริกา และได้เข้าศึกษาหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ไทย-ญี่ปุ่น เปรียบเทียบ ณ Sophia University ประเทศญี่ปุ่น ม.ล.ปนัดดา ผ่านการศึกษาหลักสูตร"นักปกครองชั้นสูง " จากวิทยาลัยมหาดไทย และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 2550 ชีวิตราชการ ม.ล.ปนัดดา เริ่มต้นเข้ารับราชการในกองทัพบก ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดส่วนการศึกษา กองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และเข้าศึกษาหลักสูตรกระโดดร่ม (ส่งทางอากาศ) รุ่นที่ 144 และหลักสูตรชั้นนายร้อยเหล่าทหารม้า จากนั้นได้โอนย้ายมารับราชการ สังกัดกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ ปี พ.ศ. 2541 ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนนโยบายการเมืองการปกครองและการบริหาร สำนักนโยบายและแผน และหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2542 ในปี พ.ศ. 2546 ได้รับแต่งตั้งเป็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (พ.ศ. 2547) และรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ (พ.ศ. 2550) ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 10 (ชช.) ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในปี พ.ศ. 2552 ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนที่ 33 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 53 เป็นต้นมา
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3524 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 04 ต.ค. 53
เวลา 21:24:49
|
