ชาวเชียงใหม่สะดุ้ง ผวจ.เชียงใหม่ เซอร์ไพรส์ประกาศงดจัดประเพณีรดน้ำดำหัว"พ่อเมืองเชียงใหม่" ยืนยันไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ชี้ ช่วงสงกรานต์ประชาชนควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัว...

ในประเพณีสงกรานต์หรือ "ประเพณีปี๋ใหม่เมือง" ในวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันพญาวัน ที่ประเพณีชาวเชียงใหม่ จะนำน้ำขมิ้นส้มป่อยไปรดน้ำขอพรจากผู้ใหญ่ ที่ยึดถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน โดยเฉพาะการแห่ขบวนรดน้ำดำหัว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพราะชาวเชียงใหม่ถือว่าเป็นพ่อเมือง จะมีส่วนราชการและภาคธุรกิจและเอกชนสถาบันการศึกษาต่างตลอดจนที่อำเภอต่างๆ จำนวน 25 อำเภอ จะตั้งขบวนที่หน้าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย แห่ขบวนหมากสุ่มหมากหมากเบ็ง และเครื่องสักการะดำหัว ผู้ว่ามาตามถนน ถือว่าเป็นประเพณีที่ชาวเชียงใหม่ยึดถือปฏิบัติมาจนกลายเป็นประเพณี

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2554  มล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวประจำสัปดาห์ ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ สร้างความตะลึงให้กับสื่อมวลชนที่ไปร่วมฟังการแถลงข่าวว่า ผมได้เดินทางมารับราชการ ผวจ.เชียงใหม่ ใกล้จะครบ 6 เดือนแล้ว ผมขอยืนยันว่าผมเคารพรูปแบบประเพณีของล้านนาเมืองเชียงใหม่ ผมขอเรียนตามตรงว่าผมไม่คิดจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น นอกจากผมมีความคิดที่อยากจะให้พี่น้องทุกท่าน รวมถึงเจ้าหน้าที่และข้าราชการ ด้วยได้ใช้เวลาอยู่กับบ้านในวันหยุดสงกรานต์ ได้อยู่กับครอบครัว ไปทำบุญกันที่วัด ซึ่งเป็นหลักคิดที่ถูกต้องของชาวเชียงใหม่มาช้านานแล้ว ดังนั้น การที่ท่านจะใช้เวลาการเดินทางมาจากหลายๆอำเภอเพื่อมาเยี่ยมเยียนผู้ว่าราชการจังหวัด ด้วยความเคารพท่านอย่าให้ท่านได้ใช้เวลานั้นอยู่กับครอบครัวท่านได้อย่างอบอุ่นใจ ท่านจะมาพบเมื่อไหร่ก็มาพบได้ทั้งนั้น อยากให้ท่านได้ใช้เวลาที่เกิดความสุขกายสุขใจอยู่กับครอบครัวที่บ้านของท่าน ย่อมจะเป็นประโยชน์มากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเพณีรดน้ำดำหัวพ่อเมืองเชียงใหม่ เป็นประเพณีที่ชาวเชียงใหม่ยึดถือปฎิบัติมาช้านานแล้ว ทาง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปผมก็อยู่ที่จวนไม่ได้ไปไหน หากมีประชาชนมาหาก็จะนำพระมาตั้งไว้ให้สรงน้ำพระแทน ส่วนที่มีความเป็นห่วงหรือเหล้าที่จะถูกชาวเชียงใหม่ออกมาต่อต้าน และโจมตี ในเรื่องนี้ ทาง ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ผมก็ได้เตรียมเอาไว้อยู่เหมือนกัน พร้อมกับเตรียมที่จะอธิบายด้วยความจริงใจ ผมไม่ได้มุ่งที่จะมาเปลี่ยนอะไรไป

ข่าวจาก ไทยรัฐ