อนาถสาวไทยยุคเรยา โจ๋นักเรียนสาวมัธยมลำปาง เคลียร์รักสามเส้าไม่ลงตัว ยกพวกนับสิบตะลุมบอนตบตีแย่งผู้ชาย ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน ท่ามกลางกองเชียร์เพื่อนชายมุงดูหลายสิบคน...

เมื่อ เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 13 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจนำโดย ร.ต.อ สามารถ วงศ์ใหญ่ สวป. สภ.เมือง ลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ไประงับเหตุวัยรุ่นหญิงและชายพวกก่อเหตุทะเลาะวิวาทจำนวนมาก ที่บริเวณใต้สะพานแม่น้ำวังข้างโรงน้ำปลาเก่าถนน ท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบวัยรุ่นหญิงจำนวนมากกำลังลงมือตบตีกัน ชุนละมุนวุ่นวาย และใกล้ๆมีวัยรุ่นชายยืนกันเพื่อไม่ให้พวกคนแต่ละฝ่ายเข้าตะลุมบอนกัน นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนฝูงของแต่ละฝ่ายคอยส่งเสียงเชียร์พวกที่ลงมือตะลุมบอนกันบนสะพาน อย่างอึกทึก ท่ามกลางความตกใจของประชาชนที่สัญจรไปมาที่ได้พบเห็น

อย่าง ไรก็ดี เมื่อวัยรุ่นทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พากันสลายตัว วิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับตัวได้จำนวนหนึ่ง และยึดจักรยานยานต์ได้อีกจำนวน 7 คัน

หลังจากนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง จึงทราบว่าทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้นมัธยมชื่อดัง ใน จ.ลำปาง ทั้ง 3 แห่ง เป็นเด็กช่วงอายุ 14 - 16 ปี และทั้งหมดรับสารภาพว่าไม่ได้โกรธเคืองเกี่ยวกับสถาบันของแต่ละโรงเรียนแต่ อย่างใด แต่ในกลุ่มนั้นมีนักเรียนหญิง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นรายหนึ่ง ถูกฝ่ายนักเรียนหญิง ม.ปลาย รายหนึ่ง แย่งแฟนหนุ่มไป จึงสร้างความไม่พอใจ ให้กับนักเรียนสาวที่สูญเสียแฟนหนุ่มไป จึงโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนที่เป็นนักเรียนด้วยกัน และทั้งหมดจึงนัดมาเคลียร์ปัญหารักสามเส้า ที่ใต้สะพานที่เกิดเหตุ แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดเหตุทะเลาะวิวาทได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน

ทาง ด้าน พ.ต.อ พิทักษ์ นาสมวาส ผกก.สภ.เมืองลำปาง กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเยาวชนในเบื้องต้น จะให้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาก่อเหตุทะเลาะวิวาทไปก่อน และแจ้งไปที่ ผอ.ของโรงเรียนมัธยมทั้ง 3 แห่งและเรียกผู้ปกครองของนักเรียนที่ควบคุมตัวได้ทั้งหมดจำนวน 17 คนมารับทราบความประพฤติเพื่อลงทะเบียนประวัติเอาไว้ก่อน ซึ่งในเบื้องต้นโรงเรียนมัธยม 3 แห่งนี้ ปกติแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะไปซุ่มดูความเรียบร้อยอยู่เสมอ เมื่อใกล้เวลาเลิกเรียนมักจะมีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทอยู่เสมออยู่แล้ว ซึ่งจุดที่ทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้บาดหมางกันก็เพราะแค่เรื่องแย่งผู้ชายกัน เท่านั้น

ข่าวจาก ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/region/171459