กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ย้ำ หน้าที่ปกป้องประเทศ เป็นของคนไทยทุกคน
เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ที่รัฐสภา พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เป็นหัวหน้าคณะนำนายทหาร ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 โดยมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เลขานุการคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระบัญญัติงบประมาณปี 2555 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม
พล.อ.เสถียรกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมได้รับจัดสรรงบประมาณตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 มาตรา 6 จำนวน 167,446 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.42 ของผลิตมวลรวมของประเทศ (จีดีพี) หรือร้อยละ 7.04 ของงบประมาณประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณปี 2554 ถือว่าได้รับการจัดสรรลดลง 1,055 ล้านบาทเศษ หรือร้อยละ 0.63 โดยสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำนวน 5,904 ล้านบาท, กรมราชองครักษ์ จำนวน 615 ล้านบาท, กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 13,230 ล้านบาท, กองทัพบก จำนวน 81,716 ล้านบาท, กองทัพเรือ จำนวน 32,905 ล้านบาท, กองทัพอากาศ จำนวน 32,174 ล้านบาท และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จำนวน 899 ล้านบาท
ทั้ง นี้ งบประมาณส่วนใหญ่นำไปใช้เรื่องเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ตามสิทธิกำลังพลต่างๆ โดยมีกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจทั้งประเทศ 377,000 นาย ซึ่งต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าปีละ 95,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 60 ของงบประมาณทั้งหมดของกระทรวงกลาโหม
ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 72,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 40 เป็นงบภารกิจอื่นที่ได้รับมอบหมาย ทั้งในการป้องกันประเทศตามแนวชายแดน การแก้ไขปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ การถวายความปลอดภัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า กองทัพบกได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2555 น้อยกว่าปี 2554 จำนวน 918 ล้านบาท ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาขีดความสามารถอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เก่าและชำรุดมา นานแล้ว จะชำรุดเพิ่มขึ้น มีผลต่อค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงอากาศยาน ซึ่งจะทำให้อากาศยานของกองทัพบกมีสภาพงดใช้งานเพิ่มขึ้น กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ เช่น ปราสาทพระวิหาร ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับงบประมาณเพิ่มเติมในการจัดกำลังเพิ่มเติมนอกแผน ป้องกันประเทศประจำปี ซึ่งคงจะต้องเรียนขอการสนับสนุนจากรัฐบาลในโอกาสต่อไป
สำหรับ กอ.รมน. ได้รับการจัดสรรงบประมาณน้อยกว่าปี 2554 จำนวน 334 ล้านบาท ซึ่งจะมีผลกระทบทั้งด้านงบกำลังพล การดำรงชีพ และการขับเคลื่อนการปฏิบัติของ กอ.รมน.ภาคส่วนแยก ส่วนงบประมาณการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตัดลงจะมีผล กระทบทั้งในเรื่องสิทธิกำลังพล เนื่องจากมีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษและเงินเพิ่มทหารพราน ซึ่งจะต้องขอรับเพิ่มเติมในขั้นตอนการปฏิบัติภารกิจต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเบี้ยเลี้ยงของทหารว่า สำหรับการสร้างขวัญกำลังใจของกำลังพลนั้น เป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องให้ความสำคัญ เพราะเขาไปรบ ไปทำสงคราม เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลตั้งเอาไว้คือ 300 บาท สำหรับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เรามองแต่เรื่องความจำเป็น ทราบว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวย แต่สิ่งที่ต้องดูคือภัยคุกคามรอบบ้านของเรา แต่ต้องเข้าใจว่าทำไมต้องซื้อ ยุทโธปกรณ์ที่ใช้อยู่นั้นอายุ 30-40 ปีทั้งสิ้น ทำให้ค่าซ่อมบำรุงสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น เฮลิคอปเตอร์ที่มีอยู่ 236 ลำ และที่ใช้การได้ 58 ลำ ขอความกรุณาต่อไปต้องมีการจัดซื้อเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมในการใช้ เราขอยอดที่ต้องการ 60 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 90 ลำ เพื่อสนับสนุนทุกภารกิจ
ส่วนการปกป้อง สถาบัน เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน เจ้าหน้าที่ดำเนินการในกรอบที่ทำอยู่ กองทัพทำทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้อง ตอบโต้ เทิดทูนสถาบัน ทำทุกเหล่าทัพ แต่ที่ดำเนินการยากเพราะจะต้องใช้กฎหมาย การที่จะไปปิดเว็บไซต์จะต้องใช้กฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้นจะต้องไปหารือประเด็นการบังคับใชักฎหมายว่าจะทำอย่างไร ซึ่งมาตรา 112 หากไม่มีใครไปยุ่งกับพระองค์ท่านก็ไม่ต้องใช้ ซึ่งจะต้องเข้าใจตรงจุดนี้ ทหารไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้เกิดความแตกแยก
Mthai News
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
