กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เตรียมเดินหน้าอุทธรณ์คำสั่ง คปค.27"อ๋อย"โว300อดีตส.ส.พร้อมกลับคืนรัง
“แม้ว” ออกแถลงการณ์สั่งอดีตลูกน้องสู้ต่อ
เผยให้ฝ่าฟันอุปสรรคและเสียสละเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข
แม้ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองก็ทำงานได้ พ้อถูกยุบพรรคเหมือนถูกประหารชีวิต
ด้าน “อ๋อย” เตรียมอุทธรณ์คำสั่ง คปค.ฉบับที่ 27 ที่ให้ลงโทษย้อนหลัง
พร้อมเรียกร้องให้ ปชป.ร่วมมือเพื่อยกเลิกประกาศ คปค.ที่กดหัวนักการเมือง
โวอดีต 300 ส.ส.ที่กระเส็นกระสายไปได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ฝ่าย
“ปลาไหล” รับตอนนี้ “มาร์ค” เต๋งจ๋านายกฯคนใหม่ “สนธิ-บุญรอด” ดอดหารือ
“แอ้ด” ผวาสถานการณ์ลุกลาม “บัง” พอใจผลยุบพรรค โต้ตั้งธงไว้ก่อน
ชี้ใครทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น ไม่กลัวถูกตามล้างแค้น
พร้อมเตรียมหาทางเล่นงาน “อ๋อย” พูดแทงใจดำเผด็จการ เผยยังไม่ยกเลิกประกาศ
คปค.ขอรอดูสถานการณ์ก่อน “อภิชาติ” แย้ม ทรท.ตั้งชื่อเดิมได้ไม่มีปัญหา
ผู้แพ้ลุยเลิกประกาศ คปค.
ในที่สุดคดีประวัติศาสตร์การเมืองไทย 'ยุบพรรค' ก็เดินทางมาถึงบทสรุป
เป็นที่ทราบกันแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์รอดตัวไป แต่พรรคไทยรักไทยกับอีก 3
พรรคเล็กไม่รอด และกรรมการบริหารก็ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
หลายคนคาดว่านี่จะเป็นการยุติเกมการเมืองที่ยื้ดเยื้อมานาน
แต่ก็มีบางส่วนที่เชื่อว่านี่ไม่ใช่การยุติ แต่เป็นการเริ่มต้นต่างหาก
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่พรรคไทยรักไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง
อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เชิญแกนนำและอดีต
ส.ส. มาหารือร่วมกัน
รวมทั้งต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่สนับสนุนโดยขอให้อยู่ในความสงบ
อดทน ใช้เหตุผลสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง
เพราะการต่อสู้ในลักษณะเผชิญหน้าไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น อุดม
การณ์ทางการเมืองของพรรคยังคงอยู่ และจะเดินหน้าเรียกร้องให้ คมช.
ยกเลิกคำสั่ง คปค. เพราะจะต้องเตรียมการในการตั้งพรรคการเมือง
และสามารถจดทะเบียนพรรคการเมืองได้
'หน่อย' บ่นถูกรังแกแต่จะทน
นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า
วันนี้เราเริ่มคิดถึงการอุทธรณ์เพราะเห็นว่าการประกาศ คปค. ฉบับที่ 27
มาลงโทษย้อนหลังไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม
จึงต้องหาทางออกว่าจะทำอย่างไรให้ความยุติธรรมกลับคืนมา
การที่มาบอกว่าการตัดสิทธิทางการเมืองไม่ใช่โทษทางอาญาและไม่ร้ายแรงคงไม่ได้
เพราะการตัดสิทธินักการเมืองไม่
ให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งถือเป็นเรื่องใหญ่และ ร้ายแรงมาก
เป็นการกระทำที่ทำลายหลักนิติธรรมและกฎหมายทั่วไปของประเทศ
ทำให้ประชาชนอยู่ด้วยความหวาดกลัว
จึงหารือกับฝ่ายกฎหมายว่าจะทำอย่างไรได้บ้างและเท่าที่ทราบว่าประธานศาลฎีกาเองก็ไม่เห็นด้วยเรื่องการตัดสินย้อนหลัง
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า
วันนี้เรารู้สึกว่าถูกรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่ก็จะอดทน
และอยากจะขอร้องให้สมาชิกอดทนอย่าไปแสดง
ออกหรือไปเป็นเครื่องมือให้เขาสร้างความวุ่นวาย
เพราะขณะนี้ประเทศกำลังแย่ไม่อยากให้เขาเอาเราไปเป็นข้ออ้างเอามาใช้บริหารอำนาจอีกครั้งหนึ่ง
เรามั่นใจว่าตลอดเวลาที่ทำงานไม่เคยคิดร้ายกับบ้านเมือง
'แม้ว' ต่อสายให้กำลังใจ
'วันนี้อำนาจปล้นเราได้เพียงชื่อหรือภายนอกเท่านั้น
แต่ร่างกายและจิตใจขอทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านได้ให้กำลังใจและขอให้พวกเราทุกคนอย่าห่วงตัวเอง
หากมั่นใจว่าทำดีมาตลอดก็จะฟันฝ่าอุปสรรคได้ และขอให้ทำเพื่อบ้านเมือง
บอกสมาชิกให้อดทนและขอให้การเสียสละครั้งนี้ทำให้บ้านเมืองสงบสุข
พร้อมรับพระราชดำรัสและถวายความจงรักภักดีให้มากที่สุด'
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า
พรรคยินดีรับคำวินิจฉัยของศาล
ซึ่งคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นคำวินิจฉัยที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ไม่มีบทละเมิดศาลใด
ๆ ทั้งสิ้น ไม่คิดว่าทางนิติศาสตร์จะเพลี่ยงพล้ำดำบอดถึงขนาดนั้น
มันเหมือนกับการเขียนคำวินิจฉัยยิ่งกว่าละครน้ำเน่า 'แรมพิศวาส'
คำวินิจฉัยฉบับนี้จะถูกวิพากษ์ วิจารณ์จากนักวิชาการด้านนิติศาสตร์ต่อไป
จี้ ปชป.ร่วมมือปลดล็อก คปค.
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานฝ่ายการเมืองและกฎหมาย กล่าวว่า
ขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ถูกยุบพรรค
ขอให้ต่อสู้กับเผด็จการเรียกร้องเรื่องรัฐธรรมนูญสิทธิเสรีภาพของประชาชน
และให้ยกเลิกประกาศ คปค.
ไม่เช่นนั้นเราอาจมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เหมือนนอมินีให้กับคนที่ยึดอำนาจมา
พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่รอดพ้นจากการยุบพรรคอย่าได้หลงระเริงกับสิ่งที่ได้รับในวันนี้
หากพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นสถาบันทางการเมืองไม่เป็นหลักจะถูกเผด็จการย่ำยี
ทำให้สถาบันการเมืองเสียหาย
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
ในฐานะแกนนำกลุ่มธรรมาธิปไตย กล่าวถึงการถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่า
เรื่องตำแหน่งไม่ใช่เรื่องสำคัญ เราเป็นนักการเมืองต้องทำงานด้วยจิตวิญญาณ
แม้ไม่มีตำแหน่งเราต้องทำหน้าที่สะท้อนปัญหา
และสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น
ส่วนกลุ่มธรรมาธิปไตยจะกลับมาร่วมกับกลุ่มไทยรักไทยหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
อาทิตย์ทรงกลดกลางพรรค
สำหรับบรรยากาศที่อาคารนวสร ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคไทยรักไทยนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
มีอดีตแกนนำและสมาชิกเดินทางมาให้กำลังใจและมอบดอกไม้ให้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาอดีตแกนนำพรรคหารือกันอยู่นั้น
ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอาคารนวสร
สร้างความฮือฮาให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอย่างมาก โดยนายสุธรรม แสงประทุม
อดีตกรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี แสดงถึงความมีอำนาจ
และเชื่อว่าเป็นลางดี ที่พรรคจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แถลงว่า
เราคาดไว้แล้วว่าเมื่อมีการปฏิวัติยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญและเขียนใหม่ให้มีตุลาการรัฐธรรมนูญ
ก็คาดอยู่แล้วว่าชะตากรรมของพรรคต้องเป็นเช่นนี้
การยุบพรรคไทยรักไทยเป็นความปรารถนาที่แรงกล้าของคนบางกลุ่ม
คดียุบพรรคจะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยผู้รักความเป็นธรรมและนักกฎหมาย
อีกนาน
'แม้ว' ออกแถลงการณ์น้อมรับ
นายนพดลกล่าวว่า เมื่อมีคืนเดือนมืดก็มีรุ่งเช้าที่สว่าง
แต่เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ และต่อสู้ไปตามแนวทางสันติวิธี
พ.ต.ท.ทักษิณได้ติดตามการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อท่านทราบผลก็ได้นั่งเขียนแถลงการณ์ส่วนตัวในเหตุการณ์สำคัญนี้จนถึงตีสามกว่าซึ่งแถลงการณ์มีใจความว่า
'กราบเรียนพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคไทยรักไทยที่รักและเคารพทุกท่าน
อนุสนธิจากคำตัดสินของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่แต่งตั้งโดยคำสั่งของคณะปฏิวัติให้ยุบพรรคไทยรักไทยและห้ามผมและกรรมการบริหารทั้ง
111 คนดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปีนั้น
ในฐานะที่ผมเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งและทำหน้าที่หัวหน้าพรรคจนมาถึงมีการปฏิวัติ'
'ผมต้องขอกราบอภัยต่อสมาชิก
กรรม การบริหาร
และผู้สนับสนุนพรรคทุกท่านที่ต้องมาพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ผมขอน้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในฐานะที่นำพรรคมาพบจุดนี้
ผมเชื่อว่าการตัดสินทางการเมืองครั้งนี้
จะเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่จะต้องถูกนำไปศึกษา วิจารณ์ และวิจัย
ในทางวิชารัฐศาสตร์ กฎหมาย สังคมศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
เราทุกคนมีความสำนึกต่อแผ่นดินเกิด
มีความรักและความห่วงใยเพื่อนร่วมชาติที่ยังไม่แข็งแรงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม
เรายังต้องเสียสละกันต่อไป'
เรียกร้องสมาชิกให้สู้ต่อ
'ถึงแม้ว่าผมจะประกาศวางมือทางการเมืองไปก่อนหน้านี้แล้ว
ผมก็ยังอยากเรียกร้องให้สมาชิกทั้งหลายได้รวมตัวกันดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
โดยเรียนรู้จากบทเรียนในอดีต เก็บสิ่งดี ๆ
ไว้เพื่อจะได้สร้างชาติให้เจริญทันโลก
ไม่หันหลังให้โลกเพื่ออนาคตลูกหลานไทยต่อไปผมขอกราบขอบพระคุณและขออภัยต่อสมาชิกพรรค
คณะกรรมการบริหาร และผู้สนับสนุนมา ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
และขอเรียกร้องให้
คมช.และรัฐบาลสบายใจและมีการจัดการเลือกตั้งและคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนโดยเร็ว
เพื่อความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีประเทศจะกลับคืนสู่ประเทศไทยต่อไป
ด้วยความเคารพรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 30 พ.ค. 50'
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความเห็นต่อการพิจารณาคดียุบพรรค ทรท.
และ ปชป.อย่างไร นายนพดลกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความเสียใจ
และสะเทือนใจในคำตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย ที่แม้ว่า
พ.ต.ท.ทักษิณจะประกาศวางมือไปแล้วแต่การยุบพรรคพร้อมกับตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
เหมือนกับเป็นการประหารชีวิต ซึ่งภายหลังจากทราบผลตัดสินก็
ได้โทรศัพท์มาให้กำลังใจแกนนำและให้สู้ต่อไป
ส่วนแผนการเดินทางกลับประเทศไทยยังไม่มีแผนในขณะนี้
แต่ยืนยันว่าปัจจัยหลักที่เป็นเงื่อนไขในการเดินทางกลับประเทศไทยคือคำสั่งศาล
ที่จะมีหมายเรียกในการกลับมาต่อสู้คดีการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ
อดีต 300 ส.ส. กลับรังเดิม
บ่ายวันเดียวกันนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
พร้อมอดีต ส.ส.กว่า 200 คน
ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมถึงทิศทางการดำเนินงานทางการเมืองว่า
เป็นที่น่ายินดีขณะนี้มีอดีตกรรมการบริหารพรรค และอดีต ส.ส.
ที่ลาออกจากพรรคกว่า 300 คน
กลับมาร่วมลงนามทำงานกับกลุ่มการเมืองไทยรักไทยอีกครั้ง
และได้รับการติดต่อจากแกนนำกลุ่มมัชฌิมา กลุ่มธรรมาธิปไตย
และกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญด้วย
สำหรับการต่อสู้หลังมีคำตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรค
5 ปี นายจาตุรนต์กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
ศึกษาแนวทางอุทธรณ์หรือดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมกลับคืนมา
เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้บอกว่าคำวินิจฉัยตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นที่สุด
ซึ่งก็คงต้องมีการตีความกันอีกครั้ง
ให้อดทนรอกลับมาใหญ่
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 4 มิ.ย.
ตัวแทนกลุ่มการเมืองไทยรักไทยจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.สุรยุทธ์
จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงสัญญาให้ยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ
27 ตามที่นายกฯได้สัญญาไว้ว่าหลังตัดสินคดียุบพรรคจะยกเลิกประกาศทั้ง 2
ฉบับ จากนั้นจะมีการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงต่อ กกต.
เพื่อขอจองชื่อพรรคไทยรักไทยไว้สำหรับรองรับการตั้งพรรคใหม่
ส่วนจะจดทะเบียนตั้งชื่อพรรคเดิมได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้กันต่อไป
'การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปนี้จะเข้มข้นขึ้น
แต่เรายึดมั่นในสันติวิธีจะไม่สร้างความวุ่นวาย
เราจะผลักดันฟื้นไทยรักไทยให้กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งหนึ่ง
เวลานี้ก็ขอเรื่องเดียวคือให้ประชาชนอดทน ไม่ต้องไปประท้วงกดดันสำแดงพลัง
แม้เราจะไม่ได้รับความยุติธรรมแต่ก็ไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย
ระหว่างนี้ขอให้อดีต ส.ส. กลับพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนปลอบขวัญประชาชน
สิ่งสำคัญคือขอให้เกาะกลุ่มกันไว้ให้เหนียวแน่น
เราจะสานต่ออุดมการณ์ของพรรคต่อไป ให้กลับมาเป็นปึกแผ่นเติบใหญ่อีกครั้ง'
นายจาตุรนต์กล่าว
ชู 'จิ๋ว' เป็นนายใหม่ยังไม่คิด
เมื่อถามว่าได้ทาบทาม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
อดีตนายกรัฐมนตรีมาดูแลกลุ่มไทยรักไทยหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า
ตอนนี้ยังไม่ได้คิด
ต้องรอตั้งกรรมการบริหารพรรคและจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองได้เสียก่อน
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยได้ดึงอดีต ส.ส.
ไทยรักไทยไปร่วมพรรคบ้างหรือยัง นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ถ้า 2
พรรคนั้นช้อนอดีต ส.ส.ของเราได้ ก็คงช้อนไปนานแล้ว
นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคความหวังใหม่ กล่าวว่า
มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มการเมืองไทยรักไทยจะเชิญพล.อ.ชวลิตกลับเข้าสู่การเมืองในฐานะหัวหน้าพรรค
ซึ่ง พล.อ.ชวลิตเคยกล่าวว่า พร้อมที่จะเป็นโซ่ข้อกลางให้
เพื่อให้การเมืองเดินต่อไปได้ แต่เนื่องจาก
พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ใหญ่จะด่วนตัดสินใจไม่ได้
เพราะขึ้นอยู่กับคณะผู้บริหารว่าต้องการให้ พล.อ.ชวลิตมาช่วยดูแลหรือไม่
ดังนั้นจึงรอเพียงสัญญาณนกหวีดเท่านั้น ถ้าสัญญาณชัด พล.อ. ชวลิตก็พร้อม
เผยอดีต ส.ส.จับมือกู้พรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำหรับรายชื่อผู้ลงนามแสดงเจตจำนงยืนหยัดอยู่กับพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 30
พ.ค. พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 289 คน ประกอบด้วยผู้บริหารและอดีต
ส.ส.บัญชีรายชื่อ 45 คน อดีต ส.ส. เขตปี 2548 จำนวน 188 คน แบ่งเป็น กทม.
19 คน ภาคกลาง 39 คน ภาคเหนือ 48 คน ภาคอีสาน 82 คน และอดีตผู้สมัคร
ส.ส.เขตปี 2549 จำนวน 56 คน อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีแกนนำและอดีต
ส.ส.ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง
ทำให้เหลือแกนนำและอดีต ส.ส. ที่สามารถลงสมัครทางการเมืองได้ จำนวน 177 คน
ประกอบด้วย ผู้บริหารและอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 18 คน อดีต ส.ส.เขตปี 2548
จำนวน 159 คน แบ่งเป็น กทม. 17 คน ภาคกลาง 27 คน ภาคเหนือ 46 คน
และภาคอีสาน 69
นายกฤษฎา สัจจกุล และ ร.อ.รชฏ พิศิษฐ์บรรณกร รองโฆษกกลุ่มมัชฌิมา
ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของการดำเนินงานของกลุ่มว่า
กลุ่มเราจะเดินหน้าต่อไป
การจะไปร่วมกลุ่มกับใครคงต้องรอผลการประชุมใหญ่ในวันที่ 1 มิ.ย.
ตอนนี้สมาชิกกลุ่มทุกคนยังอยู่เหมือนเดิม
อย่างไรก็ดีมีแกนนำกลุ่มบางคนได้เสนอแนวทางในการดำเนินงานว่าควรจะต้องมีการจัดตั้งกลุ่มมัชฌิมาเป็นพรรคมัชฌิมาธิปไตย
แทนที่จะไปร่วมกลุ่มกับพรรคอื่น แต่ยังไม่ได้ผลสรุป
แย้มถวายฎีกาทำได้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการถวายฎีกาว่า
ยังไม่ได้มีการหารือกัน
แต่การถวายฎีกาก็เป็นไปตามระบบที่เปิดให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่พึ่งถวายฎีกาได้
เมื่อถามว่ากังวลว่าการจดทะเบียนตั้งพรรคจะแล้วเสร็จไม่ทันกับการเลือกตั้งในสิ้นปี
หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า
ไม่กังวลเพราะถึงอย่างไรพรรคก็ยังมีประชาชนที่สนับสนุนและมีสมาชิกพรรคที่พร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งจำนวนมาก
และไม่ว่าพรรคจะชื่ออะไร
เราก็มีวิธีการที่จะสื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าผู้สมัครรายนั้นเป็นผู้ที่สานต่ออุดมการณ์พรรค
นายธงทอง
จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกลุ่มไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ 5
ปีจะยื่นถวายฎีกาว่า สามารถทำได้
เรียกว่าเป็นการขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ
แต่ก็ต้องแล้วแต่พระราชดำริของพระองค์ว่าจะเป็นอย่างไร
ซึ่งพระองค์ท่านจะสอบถามจากบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย
สนช. ชี้นิรโทษกรรมทำได้
นายวิษณุ เครืองาม สนช. กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนไม่ขอพูดเรื่องนี้
เมื่อถามว่าหากมีการขอให้ สนช.ช่วยร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ 5 ปี
หรือบัญญัติลงในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญใหม่ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า
ทำได้ แต่ทาง สนช.คงจะลำบากใจในการทำ
ทางที่ดีหากจะทำจริงควรจะให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นคนจัดการในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าแสดงว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็สามารถร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สามารถทำได้ โดย ส.ส.
จะไปรวมตัวกันเพื่อแก้ไข
อาจจะไปหาเสียงกับประชาชนหรือชูเป็นนโยบายกับประชาชนว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้
หากประชาชนเห็นชอบกับนโยบายก็จะเลือกกลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาเพื่อแก้ไขในเรื่องนี้
ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ประชาชนจะว่าอย่างไร แต่หากจะให้ สนช.ทำให้เราคงลำบากใจ
'มาร์ค' ชี้ต้องเปิดโอกาสให้ ทรท.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีที่อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านจะนัดหารือถึงการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า
หลังจากที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน
เดินทางกลับจากต่างประเทศ คงจะได้มีการนัดหารือกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยและห้ามกรรมการบริหารพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอไม่วิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัย
เพราะเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะน้อมรับคำวินิจฉัย
แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะพูดคือรู้สึกเห็นใจผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย
เวลานี้เราต้องการที่จะแก้ไขปัญหา การเลือกตั้งจะตอบสนองความคาดหวังได้
ดังนั้นอยากจะขอให้รีบพิจารณาเปิดโอกาสให้มีการจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ทำได้เร็วที่สุด
'เราบอกว่าอีก
6 เดือนจะเลือกตั้ง
แต่ในส่วนของกลุ่มไทยรักไทยเขาควรจะมีสิทธิตามวิถีทางประชาธิปไตยที่จะรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา
และขอยืนยันจุดยืนที่พูดไว้ก่อนหน้าการตัดสินว่า
เขาจะต้องมีสิทธิใช้ชื่อเดิม
ผมคิดว่าอันนี้คือสิ่งที่อยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาโดยเร่งด่วน
เพราะผมคิดว่าการแสดงท่าทีของแกนนำอดีตพรรคไทยรักไทยที่บอกว่าเขาพร้อมที่จะเดินแนวการเมืองสันติวิธีโดยวิถีทางรัฐสภา
มันควรจะเป็นท่าทีที่ทุกฝ่ายสนับสนุน' นายอภิสิทธิ์กล่าว
'ชวน' เตือน ปชป.อย่าลำพอง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญมีผลวินิจฉัยออกมาว่า
คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่น้อมรับฟังคำวินิจ ฉัยดังกล่าว
ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น
แต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรระมัดระวัง
เพราะยังมีคนไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงไม่ควรประมาท ผู้สื่อข่าวถามว่า
อยากฝากอะไรถึงพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า
ไม่บังอาจไปแนะนำก็ได้แต่เห็นใจ
แต่อยากเตือนทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองอื่นว่า
หากจะทำอะไรต้องยึดความถูกต้อง อย่าหวังผลระยะสั้นเพราะจะมีผลตามมาภายหลัง
ต่อข้อถามว่าคิดว่าจากนี้ไปพรรคประชาธิปัตย์สบายแล้วหรือไม่เพราะไม่มีคู่แข่ง
นายชวนกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีช่วงใดที่เราไม่มีคู่แข่ง
ทำอะไรต้องยึดความถูกต้องและอย่าลำพอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ตุลาการ
รัฐธรรมนูญยกฟ้องคดีให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
ตั้งแต่เช้ามีบรรดาสมาชิกพรรคส่งดอกไม้แสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์
ซึ่งนายอรรคพล สรสุชาติ รองหัวหน้าพรรคมหาชน ได้นำกระเช้าดอกไม้จาก
พล.ต.สนั่นมาแสดงความยินดีด้วย จากนั้นนายอรรคพลกล่าวว่า
ในส่วนของพรรคมหาชนได้บอกนายอภิสิทธิ์ไปแล้วว่าพร้อมที่จะเป็นพันธมิตร
และพร้อมที่จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคตด้วย
'เติ้ง' ทำนายพรรคใหม่เกิดแน่
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย
ให้สัมภาษณ์ถึงการยุบพรรคไทยรักไทยว่า ไม่น่าจะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น
เพราะคำตัดสินชัดเจนละเอียดทุกประเด็น
จากนี้ไปต้องดูว่าสมาชิกพรรคไทยรักไทยที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อาจจะก่อตั้งพรรคใหม่ก็ได้ การเมืองจากนี้ไปคงจะมีพรรคใหม่
แต่จะมีกี่พรรคยังตอบไม่ได้
เศรษฐกิจจากนี้ไปอาจจะดีขึ้นแต่ขอให้รอดูการซื้อขายในตลาดหุ้นวันศุกร์นี้
ว่าเขาเชื่อถือแค่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม
จะจับมือเป็นพันธมิตรกันเหมือนเดิมหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า
ก็ยังคุยกันอยู่ อนาคตยังบอกไม่ได้ เมื่อถามว่า
มีความพยายามที่จะล้มรัฐธรรมนูญ นายบรรหารกล่าวว่า
ถ้ารัฐธรรมนูญแก้ไขบางอย่างก็หมด
แย้ม 'มาร์ค' เต็งจ๋านายกฯ
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย
กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าว
ปลุกระดมมวลชนหลังทราบผลวินิจฉัยยุบพรรคที่หน้าพรรคไทยรักไทย ว่า
ตนเข้าใจนายจาตุรนต์ต้องแสดงออกเช่นนี้เพื่อเรียกขวัญกำลังใจไม่อยากให้สมาชิกท้อแท้
ตนไม่อยากให้มองว่าเป็นการปลุกระดม
เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการสร้างความแตกแยกและสร้างความหวาดระแวงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการวิจารณ์ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์ จะเป็นนายกฯคนต่อไป นายสมศักดิ์กล่าวว่า
ทุกคนก็ต้องมองเช่นนั้น เพราะการเพิกถอนสิทธิของนักการเมืองหลายคน
ทำให้เหลือนักการเมืองที่จะถูกมองเป็นแคนดิเดตนายกฯเพียงไม่กี่คนนาทีนี้ภาพของนายอภิสิทธิ์ค่อนข้างโดดเด่นและได้เปรียบ
กกต.ชี้จดชื่อพรรคเดิมได้
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวถึงคำวินิจฉัยยุบพรรคว่า
ทุกคนควรยอมรับ เพราะคณะตุลาการเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
คำวินิจฉัยก็ละเอียดชัดเจน แต่จะให้คำวินิจฉัย
เป็นที่ยอมรับของทุกคนก็คงไม่ได้ เมื่อถามว่า
นายจาตุรนต์ดูเหมือนจะไม่ค่อยยอมรับในบางประเด็น นายอภิชาตกล่าวว่า
ในฐานะที่ตนเคยเป็นผู้พิพากษาบอกได้ว่าคำวินิจฉัยพิจารณาละเอียดแล้ว
เรามีกฎหมายเมื่อยุบพรรคจะต้องให้ สตง.เข้ามาชำระบัญชีภายใน 6 เดือน
ในช่วงนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มีการตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา
ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นมี 2 คนซ้อนกันอยู่
นายอภิชาตกล่าวต่อว่า กกต.
ต้องนำคำสั่งยุบพรรคของศาลรัฐธรรมนูญไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้รับทราบโดยทั่วกัน
ตามความเห็นของตนในระหว่างที่มีการชำระบัญชีอยู่
ต้องถือว่าทางพรรคยังดำรงอยู่ จนกว่าจะชำระบัญชีเสร็จสิ้น
เมื่อถามว่าหากเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดจะสามารถจัดตั้งพรรคในชื่อเดิมได้หรือไม่
นายอภิชาตกล่าวว่า ไม่มีกฎหมายกำหนดห้ามจดตั้งชื่อพรรคชื่อเดิม
ตนมองว่าน่าจะจดในชื่อเดิมได้
รับ ก.ม.ยุบพรรคง่ายเกินไป
เมื่อถามอีกว่า ถ้าใช้ชื่อพรรคเดิมจะเป็นการไม่เคารพคำพิพากษาของศาล
หรือละเมิดศาลหรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่า
เป็นหน้าที่ของตนในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะรับไว้พิจารณา
ว่าจะให้หรือไม่ให้ใช้ชื่อเดิม
หากพิจารณาว่าไม่ให้ใช้ก็สามารถไปยื่นร้องอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27
ที่ห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
กกต.จะช่วยเหลือพรรคการเมืองปลดล็อกอย่างไร ประธาน กกต.กล่าวว่า
เคยเสนอความเห็นไปแล้ว
คมช.ตอบว่ายังผ่อนผันไม่ได้เพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่นิ่ง เมื่อถามว่า
มองว่ากฎหมายของประเทศไทย ยุบพรรคการเมืองง่ายเกินไปหรือไม่
นายอภิชาตกล่าวยอมรับว่า อาจจะจริง
เพราะในต่างประเทศการยุบพรรคการเมืองเป็นไปได้ยาก
ขึ้นอยู่กับสภาเป็นผู้พิจารณา
จี้ให้สอบคดีอาญา กก.บห.
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษา กฎหมายของกลุ่มไทยรักไทย เปิดเผยว่า
ข้อบังคับของพรรคไม่ได้เขียนว่าเมื่อพรรคถูกยุบจะโอนทรัพย์สินที่เหลืออยู่ให้แก่องค์กรสาธารณกุศลใด
ดังนั้นทรัพย์สินของพรรคก็ต้องตกเป็นของกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง
แต่ตอนนี้ทรัพย์สินที่มีเหลือก็ไม่เท่าไหร่
โดยเฉพาะเงินบริจาคพรรคก็ได้ใช้ไปเป็นจำนวนมากแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ปีที่ผ่านมาจนถึงเดือน มี.ค.
อดีตพรรคไทยรักไทยมียอดบริจาคทั้งสิ้น 12,137,040 บาท อย่างไรก็ตามปี 2549
พรรคไทยรักไทยมีเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 134,415,080 บาท
นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า
จากนี้เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมืองจะต้องตรวจสอบเนื้อหาคำวินิจฉัยด้วยว่าจะมีบทลงโทษทางอาญากับกรรมการบริหารพรรคหรือไม่
หากปรากฏว่ามีความผิดที่ต้องดำเนินคดีอาญาก็ต้องรีบปฏิบัติ แต่
หากนายทะเบียนไม่มีอำนาจโดยตรงก็อาจเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่เชื่อแผ่นดินลุกเป็นไฟ
สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้านายกฯเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพักย่านลาดกระบัง
จากนั้นในช่วงสาย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช.
ได้เดินทางเข้าพบพร้อมด้วย พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม
คาดว่าจะเป็นการหารือถึงสถานการณ์และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ
ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย
จนสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนที่สนับสนุน
ทั้งนี้การหารือดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จึงเดินทางกลับโดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ต่อมาเวลา 16.30 น.
นายกฯได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการ
'เปิดบ้านพิษณุโลก'ที่จะออกอากาศในวันที่ 2 มิ.ย.ที่บ้านพิษณุโลก
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. กล่าวถึงคำตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยว่า
ขอให้ประชาชนตั้งสติให้ดี การที่ศาลลงโทษเขา
ลงโทษนักการเมืองที่ขาดจริยธรรม
และกลุ่มผู้บริหารที่นำพาพรรคไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้ลงโทษประชาชน
อยากจะให้ดูว่าที่ถูกตัดสิทธิเพราะอะไร
แต่ละข้อมีเหตุและผลรองรับอยู่แล้วไม่ใช่พูดขึ้นมาลอย ๆ เมื่อถามว่า
มีโหรดังทำนายว่าอีก 15 วันแผ่นดินจะลุกเป็นไฟและจะเกิดการปฏิวัติซ้ำ
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นเรื่องของโหร แต่
คมช.มีหน้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
ต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้เกิดความรุนแรง
'บัง' โต้ตั้งธงเล่นงาน ทรท.
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. เปิดเผยถึงการเข้าพบ
พล.อ.สุรยุทธ์ว่า มาคุยเรื่องที่จะยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27
โดยภายใน 1-2 สัปดาห์ทาง คมช.
จะมีการหารือร่วมกับรัฐบาลยืนยันว่าจะยกเลิกให้เร็วที่สุด
ส่วนการตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่บางคนคิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น
ต้องดูว่าตัวเองผิดอะไรหรือไม่
การตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถือว่าสูงสุดแล้วเป็นกระบวนการของศาลที่มีความสมบูรณ์
'ที่มีการกล่าวหาว่า
คมช.ตั้งธงไว้แล้วว่าจะต้องยุบพรรคไทยรักไทยนั้น ผมอยากจะบอกว่า
คมช.ตั้งธงได้อย่างไร พวกเราไม่รู้จักกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสักคน
เขาก็เป็นตัวของตัวเอง ท่านต้องดำรงไว้ด้วยความยุติธรรม ทุกอย่าง
อยู่ในดุลพินิจของตุลาการทั้ง 9 คนที่จะตัดสินไม่เกี่ยวกับ คมช.
อย่าอคติกับ คมช. เลย ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
พิสูจน์ตามข้อเท็จจริง'พล.อ. สนธิ กล่าว
หาทางเล่นงาน 'อ๋อย' พาดพิง
ส่วนที่นายจาตุรนต์กล่าวว่าใครยึดอำนาจได้คือความถูกต้อง
แม้จะมาจากปากกระบอกปืนก็เป็นผู้กำหนดความถูกผิดของสังคมได้นั้น ประธาน
คมช. กล่าวว่า
กำลังให้นักกฎหมายศึกษารายละเอียดว่าจะดำเนินการกับคนที่กล่าวพาดพิงได้หรือไม่
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ไปเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงจากผู้ที่ไม่พอใจต่อคำตัดสินคดียุบพรรคหรือไม่
พล.อ.สนธิกล่าวว่าทางตำรวจ และทหารสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมด
ผู้สื่อข่าวถามว่าสมาชิกไทยรักไทยบอกไว้ว่าจะกลับมาชำระแค้นภายหลัง ประธาน
คมช. กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เราไม่แก้แค้นใครอยู่แล้ว เราเป็นทหารของประชาชน
มีหน้าที่ดูแลความสงบสุขให้กับประชาชน ไม่เคยทำร้ายใคร ต่อข้อถามว่า
เกรงว่าจะเกิดมือที่สามเข้ามาก่อกวนให้เกิดความรุนแรงหรือไม่นั้น ประธาน
คมช. กล่าวว่า
ไม่ต้องห่วงเราดูแลได้จนกว่าสถานการณ์จะสงบเรียบร้อยถึงจะถอนกำลังกลับที่ตั้ง.
ที่มา http://www.dailynews.co.th
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
