| • ตร.ลุยเดือด ผู้ชุมนุมนปก. บุกปิดล้อมบ้านป๋าเปรม |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 23 ก.ค. 50 เวลา 08:24:48 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
| หลังกลุ่มผู้ชุมนุมในนาม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปก.ประกาศเดินหน้าจัดชุมนุมไล่ คมช.และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาอย่างต่อเนื่องที่ท้องสนามหลวง แต่ยังอุบไม่แจ้งว่าในการชุมนุมวันที่ 22 ก.ค. จะพากลุ่มผู้ชุมนุมออกมาจากพื้นที่หรือไม่ ขณะที่ในวันเดียวกันก็มีกลุ่ม 60 องค์กร ประกาศจัดรวมพลแสดงพลังเสื้อเหลือง ออกมาให้กำลังใจ พล.อ.เปรม เช่นกันนั้น ผู้ชุมนุมสวนลุมให้กำลังใจ “ป๋าเปรม” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวันเดียวกัน ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี มีประชาชนจาก 60 องค์กรทั่วประเทศ จำนวนหลายพันคน สวมเสื้อเหลืองเข้าร่วมงาน “ปวงประชารวมใจ สร้างสันติสุขสู่แผ่นดิน” พร้อมแสดงพลังให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมีนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นประธานจัดงาน พร้อมด้วย พล.อ.อ. อรุณ พร้อมเทพ อดีต ผบ.ทอ. พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดกระทรวงกลาโหม และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง. เข้าร่วมงาน ซึ่งมีกิจกรรมตัก บาตรพระสงฆ์ 999 รูป และประกอบพิธีของทุกศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม และพราหมณ์ ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสวดขอพรเพื่อสันติสุข ทั้งนี้ ผู้จัดงานได้ขึ้นเวทีกล่าวว่า เครือข่ายรวมใจสร้างสันติสุข 60 องค์กรห่วงใยบ้านเมืองที่กำลังทรุดตัว รวมทั้งความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงรวมตัวกันเพื่อทำให้เกิดความสันติสุขปรองดอง จากนั้นได้ประกาศ ว่าจะพิทักษ์รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างสมานฉันท์ จากนั้นมีการตีฆ้องชัยและร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะแยกย้ายกลับด้วยความสงบ นปก.ตลบหลังบุกบ้านสี่เสาฯ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ก็นัดหมายให้ประชาชนสวมเสื้อเหลือง คาดผ้าโพกหัวข้อความ “คมช.ออกไป” มาร่วมชุมนุมกันที่สนามหลวง แต่ไม่ยอมบอกล่วงหน้าว่าจะเคลื่อนขบวนไปที่ไหนหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะถูกตำรวจสกัด กระทั่งเวลา 13.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปก. ประกาศต่อหน้าผู้ชุมนุมกว่าหมื่นคนว่าจะเดินขบวนไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ ไปสมทบกับ นปก. ส่วนหน้าที่ไปปักหลักปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรมที่แยกวัดเทวราชกุญชรอยู่ก่อนแล้ว โดยการเคลื่อนขบวนออกจากสนามหลวงในครั้งนี้ มีแกนนำ นปก.มาพร้อมสรรพ ทั้ง นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระ มุสิกพงศ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข แต่เมื่อขบวนเคลื่อนไปถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ก็เจอด่านสกัดของตำรวจนับร้อยนายที่นำแผงเหล็กและลวดหนาม รวมถึงรถขยะของ กทม. 2 คัน มาปิดเส้นทาง กลุ่มผู้ชุมนุมจึงนำรถกระจายเสียงมาประชิดแผงเหล็ก แล้วให้ผู้ชุมนุมพังรั้วทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแตกฮือ วิ่งหนีกระเจิง ผู้ชุมนุมบางส่วนจึงฮึกเหิมขว้างปาขวาดน้ำเข้าใส่ บางรายถึงกับกระโดดถีบเจ้าหน้าที่ แล้วลากแผงลวดหนามออกพ้นทาง เพื่อเปิดทางให้รถปราศรัยผ่านไปได้ ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ก่อหวอดยึดรถขยะตะลุยด่าน ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แต่เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเดินหน้าไปจนถึงแยกสวนมิสกวัน ก็ต้องเจอด่านที่ 2 ตรงจุดนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ายึดรถขยะของ กทม. และพยายามทำร้ายคนขับรถ แต่ดีที่คนขับรถขยะวิ่งหนีเข้าไปหลบในกองพลที่ 1 ได้ทัน จากนั้นผู้ชุมนุมก็ขับรถขยะฝ่าด่านเข้าไป ตำรวจเกรงเหตุปะทะรุนแรงจึงยอมให้ขบวนผ่านไป เมื่อสามารถสมทบกับ นปก.ส่วนหน้าได้แล้ว จึงเคลื่อนขบวนไปปักหลักที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.เปรม เสียงดังลั่น นอกจากนี้ แกนนำ นปก.ประกาศจะปราศรัยอยู่ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์แบบข้ามวันข้ามคืน แม้ผู้ชุมนุมจะเริ่มทยอยเดินทางกลับไปจนเหลือแค่ราวพันคนเศษเท่านั้น ตร.เตรียมแจ้งจับแกนนำผู้ชุมนุม ด้าน พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น ซึ่งไปสังเกตการณ์บริเวณบ้านสี่เสาเทเวศร์ เปิดเผยว่า วันที่ 23 ก.ค. ผู้กำกับสถานีตำรวจเจ้าของพื้นที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำ นปก.ทุกคนที่เดินทางมายังบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216 ว่าด้วยการยั่วยุชักจูงประชาชนก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง มีโทษจำคุก 5 ปี และหากออกหมายจับก็จะเป็นเรื่องยากที่แกนนำจะจัดชุมนุมอีก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพและเสียง ขณะกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ กทม.ที่อยู่บนรถขยะ และใช้รถบรรทุก ชนแผงเหล็ก เพื่อดำเนินคดีต่อไป “เหวง” อ้างเหตุทุบด่านสกัดตำรวจ กระทั่งเวลา 19.00 น. แกนนำ นปก.เปิดแถลงข่าวหน้าบ้านสี่เสาฯ โดย นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า เหตุที่ นปก.ต้องมาไล่ป๋านั้น เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าป๋าฯ อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร หากต้องการให้ประชาธิปไตยก้าวหน้าต้องให้ป๋าออกจากตำแหน่งก่อน ส่วนเหตุที่ต้องแหกด่านตำรวจมานั้น ยืนยันว่า ก่อนหน้าได้ไปเจรจากับตำรวจด้วยตัวเองแล้วถึง 2 ครั้งว่า ต้องการเพียงแค่มาเปิดปราศรัย แต่ตำรวจเองปฏิเสธ เมื่อประชาชนมีเสรีภาพและถูกปิดกั้น ประชาชนก็คงต้องไม่พอใจและก็ต้องฝ่าด่าน ซึ่งเท่าที่ตนเห็นก็ไม่มีความรุนแรงอะไรมาก ส่วนการที่ตำรวจจะแจ้งความจับ นปก.นั้น ยืนยันว่า ถึงจะมีหมายเรียกหรือหมายศาลมาก็จะไม่ไป และยังตั้งใจจะปักหลักยืดเยื้อหน้าบ้านสี่เสาฯ ไปจนกว่า พล.อ.เปรม จะลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี ต่อข้อถามที่ว่าจะมีการโหวตรับร่าง รธน.50 กันแล้ว ทำไม นปก.ถึงเปลี่ยนแผนมาบุกบ้านป๋าฯ นพ.เหวงกล่าวว่า เพราะป๋าทำตัวเป็นผู้มีบารมีนอก รธน. ดังนั้น ไม่ว่าจะมีการใช้ รธน.ฉบับใด ก็ยังทำให้ประเทศไทยลงเหวอยู่ดี ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตกันในหมู่แกนนำ นปก.ว่า พล.อ.เปรม น่าจะยังอยู่ภายในบ้านสี่เสาเทเวศร์ ยิ่งทำให้แกนนำต่างเร่งกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม อย่างหนักหน่วง และจะปักหลักปิดล้อมบ้านพักสี่เสาฯ ไปจนกว่า พล.อ.เปรมจะลาออก แต่หากระหว่างนั้น พล.อ.เปรมจะเข้าออกบ้าน ก็จะเปิดทางให้เข้าออกโดยไม่มีใครเข้าไปแตะต้อง ตร.สลายผู้ชุมนุมบุกจับแกนนำ จากนั้น บรรยากาศการจัดปราศรัยของกลุ่ม นปก. ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เริ่มมีความผิดปกติ เมื่อแกนนำบางคนได้สั่งให้เกณฑ์กำลัง นศ.ไปตรึงรั้วเหล็กที่ปิดกั้นทางเข้าถนนศรีอยุธยา เนื่องจากมีกระแสข่าวหนาหูมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำว่า ตำรวจจะมีการสลายการชุมนุม แกนนำจึงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้ผู้ชุมนุมกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ และแจกข้าวกล่องให้รับประทาน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในเวลาประมาณ 20.30 น. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ซึ่งมีโล่และหมวกปราบจลาจลจำนวนหลายร้อยนาย ได้เคลื่อนขบวนออกมาจากที่ตั้ง คือบริเวณสโมสรกองทัพบก ซึ่งก่อนหน้านี้กำลัง ตร.ได้เข้าไประดมพลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสลายการชุมนุมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่ง ตร.ชุดปราบจลาจลได้กรูออกมาที่บริเวณถนนคู่ขนานชั้นใน หน้าบ้านสี่เสาฯ ก่อนที่จะตั้งแถวรูปขบวนปิดล้อมรถกระจายเสียง ที่มีแกนนำ นปก.กำลังปราศรัยอยู่อย่างเข้มข้น แล้วการปฏิบัติการสลายการชุมนุมก็เริ่มต้นขึ้นในเวลาประมาณ 20.50 น. เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปตัดสายไฟรถกระจายเสียง ที่จอดอยู่ตลอดแนวบ้านสี่เสาฯ จากนั้นตั้งแถวกรูเข้าไปล้อมรถกระจายเสียงของแกนนำ พร้อมฉีดสเปรย์พริกไทยเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่พยายามเข้ามาขัดขวาง แต่แทนที่กลุ่มผู้ ชุมนุมจะล่าถอย กลับยิ่งไปเพิ่มความโกรธแค้น และฮือกันเข้าไปทุบตีตำรวจ รวมถึงขว้างขวดน้ำเข้าใส่เจ้าหน้าที่ซึ่งมีเพียงโล่ป้องกันตัวเท่านั้น ผู้ชุมนุมสุดแค้นเจอสเปรย์พริกไทย การสลายการชุมนุมยิ่งชุลมุนหนักขึ้นเมื่อ จนท.ตร. พยายามปีนบันไดกระจายเสียงหลัก เพื่อขึ้นไปจับกุมแกนนำ นปก.ได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข นพ.เหวง ฯลฯ แต่ในขณะที่ ตร.พยายามปีนขึ้นบนหลังคารถ ก็ถูก รปภ.ของแกนนำใช้เท้าถีบสกัด ทำให้ จนท.ต้องใช้สเปรย์พริกไทยฉีดนำขึ้นไป ทำให้สถานการณ์ยิ่งชุลมุนวุ่นวายหนักขึ้น เมื่อผู้ชุมนุมทั้งตะโกนด่าและขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตำรวจได้แต่ใช้โล่ตั้งเป็นแนวและผลักดันกับผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมและตำรวจต่างล้มลุกคลุกคลาน ขณะที่แกนนำ นปก.พูดออกเครื่องกระจายเสียงปลุกเร้าผู้คนว่าตำรวจใช้ความรุนแรงแล้ว และขอให้ตามประชาชนมาร่วมชุมนุมด้วย พร้อมสั่งให้ช่างภาพพีทีวีเก็บภาพการสลายการชุมนุมครั้งนี้ไว้ประจานทั่วโลก ก้อนหิน-ขวดน้ำปลิวให้ว่อน จากนั้นเหตุชุลมุนผลักดันกันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมดำเนินไปได้ราว 30 นาที ก่อนที่เหตุการณ์ ลุกลามบานปลายจนถึงแยกเทเวศร์ ผู้ชุมนุมบางส่วนที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธแค้น ได้ฮือพังรั้วเหล็กที่ตำรวจนำมากั้นทุบรถสปอตไลต์ของ ตร.นครบาลที่จอดอยู่ พังป้อม ตร.หน้าวัดเทวราชกุญชร อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น จนท.ตร.ประเมินสถานการณ์แล้วว่าไม่สามารถต้านแรงโกรธของผู้ชุมนุมได้ จึงใช้โล่กำบังตัวถอยหลังกลับเข้าที่ตั้ง โดยมีทั้งก้อนหินและขวดน้ำปลิวมาจากผู้ชุมนุมอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเมื่อตำรวจยอมเป็นฝ่ายล่าถอยไปแล้ว ได้มีการตรึงกำลังบางส่วนไว้ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่ 3 หน้าบ้านสี่เสาฯ ก่อนที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ โดยแกนนำ นปก.ได้ประกาศขอให้ทั้งสองฝ่ายยุติความรุนแรง พร้อมกันนี้ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ นปก.ได้นำผ้าชุบน้ำสะอาดมาปฐมพยาบาลให้กับผู้ชุมนุมที่ถูกสเปรย์พริกไทย ซึ่งต่อมามีการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่า รถไฟส่องสว่างของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ กทม. ถูกทุบกระจกรถแตกเสียหาย จำนวน 2 คัน จนไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และรถตราโล่โดนทุบด้วยก้อนอิฐและขวดน้ำบุบไปหลายคัน คมช.ยันจำเป็นต้องสลายผู้ชุมนุม ต่อมาเวลา 21.30 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าสลายการชุมนุม พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามอดทน อะลุ้มอล่วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมมาตลอด แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับสร้างความเดือดร้อนตลอดเวลา วันนี้มีการทำลายรั้วแผงเหล็ก มีการปิดถนน ปราศรัยสร้างความวุ่นวาย ทาง บช.น.จึงเห็นว่าควรจัดระเบียบบริเวณเทเวศร์ให้เรียบร้อย แต่จะไม่ใช้ความรุนแรง และน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นแกนนำทำร้ายเจ้าหน้าที่มีแค่ 50-100 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือคงอยู่ระหว่างตัดสินใจ คาดว่าประมาณ 10-20 นาที คงเดินทางกลับกันแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดูแลอารักขา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่างไร โฆษก คมช.ตอบว่า เราดูแลอย่างดีอยู่แล้ว และ พล.อ.เปรมก็ผ่านประสบการณ์มาเยอะ จะเห็นว่าท่านไม่เคยปริปากในเรื่องนี้เลย คุมเชิงรอสลายผู้ชุมนุมอีกรอบ จากนั้นในเวลา 22.00 น. หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างหยุดเคลื่อนไหว เพื่อคุมเชิงและรอดูสถานการณ์ กันและกัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่ที่ด้านหน้าบ้านสี่เสาฯ และนายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยว่า หาก จนท.ตร.ต้องการจับแกนนำทั้ง 8 คน ก็ขอให้บอกมา จะยอมให้จับแต่ขออย่าทำร้ายประชาชน ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เข้าไปเจรจากับแกนนำ นปก.ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจมีการสลายการชุมนุมอีกรอบอยู่นั้น แกนนำ นปก.อีกส่วน ก็ได้เปิดแถลงข่าวที่หลังเวทีปราศรัย โดยนายจักรภพ เปิดเผยว่า นปก.ยืนยันว่า จะปักหลักที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯต่อไป แม้มีข่าวว่าจะมีการจับตายแกนนำ และขณะนี้ ข่าวได้กระพือออกไปทั่วโลกแล้วทางอินเตอร์เน็ต และทำให้มีกลุ่มแท็กซี่และรถเครื่องเข้ามาสนับสนุน และในวันที่ 23 ก.ค.นี้ นปก.จะมีการเปิดแถลงข่าวกรณีตำรวจสลายการชุมนุม ให้ผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศทราบ เนื่องจากการสลายการชุมนุมทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงเด็กอายุ 6 ขวบด้วย “จักรภพ” แฉไอ้โม่งสั่งให้ลุย นายจักรภพยังกล่าวอีกว่า ได้มีนายตำรวจนายหนึ่งปีนขึ้นมาคุยด้วย และยืนยันว่าไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุมครั้งนี้ ดังนั้นจึงยังไม่ปักใจเชื่อว่าใครอยู่เบื้องหลัง อาจเป็นมือที่สามก็ได้ และยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นคำสั่งของ พล.อ.เปรม ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีกำลังทหารเข้ามาสลายการชุมนุมในช่วงดึกนั้น ก็ยืนยันว่าจะรวมประชาชนให้มากที่สุด และปักหลักอยู่บริเวณนี้โดยไม่ถอยไปไหน ตร.บุกรอบสองล่อด้วยกระบอง กระทั่งเวลา 22.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงานกำลัง ตร.ชุดปราบจลาจลที่ตรึงกำลังอยู่สโมสร ทบ.ได้ตั้งแถวขึ้นมาอีกรอบ ใช้โล่ปราบจลาจลเรียงหน้าเข้ามาที่รถปราศรัยของแกนนำ นปก. และมีการใช้สเปรย์พริกไทย โดยคราวนี้ ตร.มีการใช้กระบองเข้าฟาดใส่ผู้ชุมนุม ยิ่งกระพือความโกรธแค้นให้ผู้ชุมนุม หันมาหยิบฉวยของใกล้มือ ซึ่งมีทั้งก้อนอิฐตัวหนอนที่ใช้ปูทางเท้าและขวดน้ำ ระดมขว้างปาใส่ ตร. จนไม่สามารถเดินหน้าเข้ามาใกล้รถกระจายเสียงของแกนนำได้ และจำต้องล่าถอยกลับเข้าที่ตั้งอีกครั้ง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สงบ ก็พบว่ามีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากกระบองจนเลือดอาบ และต้องนำตัวส่ง รพ.ไปหลายราย สู้กระแสอิฐไม่ไหวต้องถอยอีก นอกจากนี้ ยังพบว่าระหว่างการชุลมุน จนสถานการณ์ บานปลาย ผู้ชุมนุมบางส่วนได้ระดมเขวี้ยงก้อนอิฐเข้ามาที่สมาคมแม่บ้าน ทบ.จนกระจกแตกทุกบาน ขณะที่กำลัง จนท.ตร.ที่รักษาการณ์หน้าบ้าน พล.อ.เปรมก็ได้ถอนกำลังทั้งหมดเข้าไปตั้งหลักอยู่ภายในสโมสร ทบ. ส่งผลให้บริเวณหน้าบ้าน พล.อ.เปรม เหลือกำลังตำรวจราวแค่ 100 นาย ตรึงกำลังไว้ที่ประตูทางเข้าบ้านสี่เสาฯ เท่านั้น ขณะเดียวกัน ที่รั้วข้างบ้าน พล.อ.เปรม ซึ่งไม่มีกำลัง จนท. มารักษาการณ์ ทำให้ผู้ชุมนุมได้ใจนำรั้วเหล็กกั้นของทางการ และเก้าอี้มากองไว้ที่หน้าประตู โดยมีบางรายใจกล้า พยายามปีนรั้วชะเง้อดูภายในบ้านสี่เสาฯ ซึ่งแกนนำต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยห่างออกมาจากกำแพงและหยุดขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ สถานการณ์จึงสงบนิ่งไปชั่วขณะ ตั้งแถวตีโต้ผู้ชุมนุมรอบสาม เวลา 22.45 น. กำลัง ตร.ปราบจลาจล ซึ่งยังคงปักหลักอยู่ภายในสโมสร ทบ. ได้ออกมารวมตัวเข้าแถวบริเวณถนนศรีอยุธยา เพื่อเตรียมเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปก.เป็นคำรบสาม โดยคราวนี้ ตำรวจได้วางแผนโอบล้อม และมีการใช้แก๊สน้ำตาเข้ามาช่วย จากนั้น ขบวนของ จนท. ตร.ได้ตีวงโอบเข้าหาเวทีปราศรัยของแกนนำและเวทีปราศรัยย่อยที่กระจายห่างกันเป็นจุดๆ ท่ามกลางประชาชนที่ต่างฮือเข้าไปใกล้ แล้วระดมขว้างก้อนอิฐและไม้ใส่เจ้าหน้าที่อย่างไม่ยั้งมือ ขณะที่เจ้าหน้าที่เองก็ไม่ลดละ ใช้กระบองเข้าทุบผู้ชุมนุมที่ฮือเข้ามาใกล้ ซึ่งคราวนี้ทำให้แถวผู้ชุมนุมแตกกระจาย และถอยร่นจนไปอยู่บริเวณร้านจำหน่ายสินค้าของ ส.แม่บ้าน ทบ. ขณะที่ตำรวจก็เริ่มระดมฉีดสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม โดยมีกำลัง จนท.อีกส่วนกรูเข้ามาสมทบ ทำให้ผู้ชุมนุมถอยร่นไปจนติดรถปราศรัยของแกนนำ นปก. ซึ่งทำให้ นพ.เหวงต้องประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงให้ฝูงชนช่วยกันตีโต้ จนท.กลับออกไป ซึ่งฝูงชนก็ลุกฮือตามคำประกาศและดาหน้าเข้าปะทะกับตำรวจ มีการระดมขว้างปาก้อนอิฐใส่ จน ตร.ต้องถอยร่นกลับเข้าไปตั้งหลักในสโมสร ทบ.อีกเช่นเคย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ถอยร่นออกไปเช่นกัน จากสี่เสาฯ ไปตั้งหลักอยู่ที่หน้าวัดเทวราชกุญชรกว่าจะสลายต้องลุยถึง 4 รอบ อย่างไรก็ตาม หลังจัดกระบวนแถวใหม่อีกครั้ง ในเวลา 23.00 น. ชุดตำรวจปราบจลาจล ได้เดินหน้า เข้าหาฝูงชนอีกเป็นครั้งที่ 4 โดยครั้งนี้มีการยิงแก๊สน้ำตานำหน้าเข้าใส่ฝูงชนกว่าประมาณ 5 ลูก กรุยทางเข้าไปก่อน ทำให้ผู้ชุมนุมไม่สามารถต้านทานได้ ต้องรี่หาน้ำมาล้างหน้ากันจ้าละหวั่น ซึ่งแกนนำ นปก.เห็นท่าไม่ดี จึงประกาศว่าวันนี้เราชนะแล้ว และว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการทำร้ายประชาชน จากนั้นก็ประกาศถอน กำลังออกจากหน้าวัดเทวราชฯ ออกมา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปทางถนนพิษณุโลก และทิ้งรถกระจายเสียง 2 คันไว้ โดยมีกำลัง จนท. ตร.เข้ามาเคลียร์พื้นที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯ ทั้งนี้ การเคลื่อนขบวนถอยของ นปก.ในครั้งนี้ ค่อนข้างไม่เป็นระเบียบ เพราะผู้ชุมนุมส่วนใหญ่โดนแก๊สน้ำตาเข้าไป และกลุ่มผู้ชุมนุมได้มุ่งหน้าไปที่แยกคุรุสภา จับแกนนำพิราบขาว นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เกิดเหตุชุลมุนรอบล่าสุดนั้น นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว ได้โดนตำรวจจับได้ที่หน้าสโมสร ทบ.หลังพยายามขับรถกระบะสีน้ำเงิน พุ่งเข้าชนแนวกั้นของ ตร. แต่ถูก ตร.ใช้กลยุทธ์ตีโอบ และระดมตีรถด้วยกระบอง จนกระจกรถแตกทุกบาน จากนั้น นายนพรุจก็ถูกเจ้าหน้าที่ดึงตัวออกมาและนำตัวเข้าไปสอบสวนที่ภายในสโมสร ทบ. |
ข่าวจากไทยรัฐ |
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1423 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 23 ก.ค. 50
เวลา 08:24:48
|
