• ตอกย้ำ 19 สิงหาคม วันชี้ชะตาชาติ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 24 ก.ค. 50 เวลา 10:49:50 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
มื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้าร่วมกินข้าวกลางวันและหารือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเวลา 13.00 น. พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการกินข้าวกลางวัน ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้คุยถึงเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปก. แต่ได้คุยกันหลายเรื่อง ซึ่งพาดพิงไปถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ค่าเงินบาท ม็อบเกษตรกร ส่วนการชุมนุมนั้นเราก็หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลเป็นห่วงสถานการณ์ในขณะนี้หรือไม่ เพราะมีปัญหาหลายๆอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน นายไพบูลย์ตอบว่า เท่าที่ดูท่าทีของนายกรัฐมนตรีก็อารมณ์ดี ดูท่านปกติ ไม่ได้ แสดงความวิตกอะไร แต่โดยส่วนตัวถ้าถามว่าวิตกหรือไม่ ตนก็มีคติว่าทำดีที่สุด “โฆสิต” ยันต่างชาติเชื่อมั่นรัฐบาล ด้านนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในการหารือกับนายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของ กลุ่ม นปก.เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ก.ค. และนายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงความเป็นห่วงอะไร อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบในแง่เศรษฐกิจและการลงทุน เพราะไม่ใช่เหตุการณ์ระยะยาว แต่ยอมรับว่าอาจจะมีความวิตกบ้างในส่วนของประชาชน เพราะเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางการเมือง เรากำลังจะไปสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใช้วิจารณญาณ เมื่อถามว่าในสายตานานาชาติจะเป็นกังวลต่อความเชื่อมั่นของสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยไทยหรือไม่ นายโฆสิต ตอบว่า เท่าที่คลุกกับเรื่องนานาชาติมากที่สุดไม่ได้มีปัญหาอะไร นานาชาติเขาเข้าใจ ถ้าเลือกตั้งได้ภายในสิ้นปีก็จบ ส่วนที่สื่อต่างชาติมีการนำเสนอภาพเหตุการณ์ รุนแรงออกไปนั้น ตนมั่นใจว่าต่างชาติเขาเข้าใจดี ไม่ บอบบาง นานาชาติเขาบอกเลยว่าเรากำลังดำเนินการทางขบวนการประชาธิปไตย และในวันที่ 19 ส.ค.นี้ จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ไม่ได้มีต่างชาติสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเข้าใจดีหมดแล้ว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้รับการดูแลจากฝ่ายความมั่นคงด้วยความนุ่มนวล มีแต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บจำนวนมาก อียูขอส่งคนสังเกตการณ์เลือกตั้ง วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กับนายฟรีดริช ฮัมเบอร์เกอร์ หัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย (อียู) ว่า นายฟรีดริชได้นำหนังสือที่เป็นมติของอียูที่ขอเสนอตัวเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งของไทยมายื่นต่อนายกฯนายกฯได้แจ้งกลับไปว่าเรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. หาก กกต.อนุญาต ทางอียูจะส่งตัวแทน 100-150 คน ประกอบด้วย อดีตนายกฯ อดีตรัฐมนตรีของประเทศในกลุ่มอียูมาสั่งเกตการณ์ ทั้งนี้ การเสนอตัวของอียูครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าอียูไม่มั่นใจในการเลือกตั้งของไทย แต่เป็นเรื่องของมิตรภาพและความเชื่อใจ นอกจากนี้ นายฟรีดริชได้สอบถามถึงความพร้อมการทำประชามติ นายกฯได้ชี้แจงว่ารัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้สิทธิมากที่สุด โดยพบว่ามีประชาชนร้อยละ 68 จะออกมาใช้สิทธิครั้งนี้ และยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งภายในสิ้นปี 2550 ส่วนเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่บริเวณหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์นั้น นายกฯชี้แจงว่าได้มีการดำเนินการด้วยแนวทางที่นุ่มนวล และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง สนช.ร่วมรณรงค์เลือกตั้งโปร่งใส ขณะเดียวกัน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมแก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้จัดสัมมนาเรื่อง “รณรงค์ปลุกจิตสำนึกเลือกตั้งใสสะอาด” มี พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ รองประธาน สนช.กล่าวเปิดงานว่า เนื่องด้วยจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้วจะมีเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. การปลุกจิตสำนึกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องร่วมกันรณรงค์การเลือกตั้งเป็นวิธีหนึ่งในการให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมตัดสินใจทางการเมือง ทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรม เป็นการแสดงออกการปกครองแบบมีผู้แทน เป็นกลไกควบคุมอำนาจรัฐ แต่การเป็นประชาธิปไตยหรือไม่จะดูการเลือกตั้งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูผู้ที่เข้ามาทำงานด้วย ประชาธิปไตยไม่ใช่หย่อนบัตรแล้วปล่อยให้นักการเมืองเข้ามาบริหารตามใจชอบ ที่ผ่านมาการเลือกตั้งสกปรก จึงต้องแก้ไขให้เลือกตั้งอย่างใสสะอาด ส่วนจะทำได้หรือไม่เป็นเรื่องที่พวกเราต้องร่วมกันคิด ร่วมกันรณรงค์ สิทธิต้องคู่กับหน้าที่ การไม่รับเงินเป็นสิ่งที่มีเกียรติ กกต.จ้องสกัดพรรคจัดโต๊ะจีนหาเงิน ด้านนายสมศักดิ์ สุริยมงคล รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สิ่งที่พรรคควรจะมีคือความโปร่งใสทางการเมืองตั้งแต่การหาเงินของพรรค จัดเลี้ยงโต๊ะจีน ขายเสื้อ ขายหมวก กฎหมายต้องกำหนดวงเงินการรับบริจาค ถ้าเราไม่โปร่งใสตั้งแต่แรก ตอนท้ายก็ไม่โปร่งใส กฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่ต้องป้องกันไม่ให้มีสมาชิกและสาขาของพรรคซ้ำซ้อนกัน ควรมีการจัดเก็บเงินค่าบำรุง ค่าสมัครสมาชิกพรรค เพื่อให้เกิดความเป็นเจ้าของ โดยไม่ต้องไปหาเงินทุนอื่น เช่น การจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ส่วนตัวอยากให้แต่ละหมู่บ้านสร้างจริยธรรมกันเองว่าต้องการนักการเมืองแบบไหน ส่วน กกต.ให้เป็นเพียงหน่วยงานเล็กๆ แต่ขณะนี้ กกต.ต้องทำหน้าที่หลายอย่าง การทำงานจึงไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร กมธ.ดึงดาราดังร่วมรณรงค์รับร่าง รธน. บ่ายวันเดียวกัน ที่บริเวณลานเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ คณะกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สภาร่างรัฐธรรมนูญ นำโดยนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้จัดกิจกรรมโครงการไฟเขียว เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ศึกษาและทำความเข้าใจกับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 โดยมีขบวนศิลปินดาราชื่อดัง อาทิ ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ “แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช “บิ๊ก” ภูชิสสะ ธนพัฒน์ และมีมนุษย์ไฟเขียว 4 คนที่สวมเสื้อผ้ารัดรูป ได้ร่วมกันเดินรณรงค์ พร้อมแจกสื่อประชาสัมพันธ์ไปรอบบริเวณสยามสแควร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน และมาบุญครอง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก “ประสงค์” ย้ำ 19 ส.ค.วันชี้ชะตาชาติ ทางด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมแก่นักการเมือง ข้าราชการและประชาชน ได้กล่าวปิดการสัมมนาว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะรับข้อคิดเห็นจากการสัมมนาครั้งนี้ไปพิจารณาในการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ และวันที่ 19 ส.ค. เป็นวันลงประชามติ ถือเป็นวันสำคัญของชาวไทย จะเป็นวันชี้ชะตากรรมประเทศและอนาคตของคนไทยว่าจะก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่าหรือฉุดต่ำลงกว่าเดิม ประชาชนมีสิทธิกำหนดชะตากรรมของตนเองว่าจะเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ วันนี้เราได้ทำหน้าที่เสร็จไปขั้นตอนหนึ่งแล้ว คือการร่างรัฐธรรมนูญรัฐธรรมนูญหรือกฎเกณฑ์จะดีอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ ถ้าคนไม่ได้รับการแก้ไขให้เข้าใจภาวะหน้าที่ที่มีต่อสังคม ด้วย นักการเมืองทุกคนคิดแต่จะเอาชนะการเลือกตั้ง จึงอยู่ที่ว่าประชาชนจะไปใช้สิทธิ์ลงประชามติและเลือกตั้งว่าจะเอาชนะตนเองหรือจะปล่อยให้เขามาปล้นชัยชนะ แต่ก็ไม่หวังอะไรมากกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้ เพราะหลายสิ่งยังสกปรกเลอะเทอะ ยังไม่ได้ปัดกวาด หากยังปล่อยปละละเลย คิดอย่างเดียวว่าการเลือกตั้งจะแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น จะต้องผิดหวัง ทุกอย่างจะเข้าสู่วงจรเดิม แขวะ ทรท.หมายถึงทรราชย์รวมใจ น.ต.ประสงค์กล่าวว่า วันนี้ กกต.บอกว่าพรรคการเมืองที่ถูกยุบจะจดชื่อที่มีลักษณะเดิมไม่ได้ ขณะนี้มีกลุ่มไทยรวมไทย หรือที่จะใช้ตัวย่อว่า ทรท. คิดว่าอาจหมายถึง “ทรราชย์รวมใจ” ก็ได้ แม้ 111 คน ไม่มีสิทธิทางการเมือง แต่ระดับหัวแถวมีเงินมากมาย ความวุ่นวายปั่นป่วนรวมทั้งเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค. ล้วนมีต้นน้ำมาจากคนคนเดียวที่ต้องการป่วนให้เกิดความวุ่นวาย สังเกตได้จากถ้ามีผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาทำข่าวมาก ก็จะปราศรัย เป็นภาษาอังกฤษ มีเจตนาต้องการสื่อไปถึงคนทั่วโลก ประเทศที่อยู่ไกลบ้านเราก็ไม่เข้าใจ ขณะที่การประชาสัมพันธ์ การโฆษณาเพื่อให้ต่างประเทศเข้าใจถึงความเลวร้ายต่างๆ หรือแม้แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีความชัดเจนที่สุดก็ไม่มีใครพูด หรือขยายผลให้ต่างประเทศเข้าใจว่าเรากำลังแก้ไขปัญหาประเทศอยู่ ข่าวจากไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1244 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 24 ก.ค. 50
เวลา 10:49:50
|