หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ประชามติพ่นพิษ คมช.ฉุน เชือด ผวจ.สีแดง

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ประชามติพ่นพิษ คมช.ฉุน เชือด ผวจ.สีแดง
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 21 ส.ค. 50 เวลา 10:04:24 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

หลังจากที่ได้มีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผลการลงประชามติอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่าคะแนนรับร่างรัฐธรรมนูญชนะไปอย่างเฉียดฉิว ล่าสุด กกต.ได้ประกาศผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการ และส่งผลประชามติให้ที่ประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ความเห็นชอบ ก่อนนำร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระ ปรมาภิไธยต่อไป

กกต.ประกาศผลอย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้แถลงผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่า กล่าวแสดงความยินดีที่การจัดออกเสียง ประชามติครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผลอย่างเป็นทางการสรุปว่า มีผู้มีสิทธิลงคะแนน 45,092,955 คน ผู้มาใช้สิทธิ 25,978,954 คน คิดเป็น 57.61% ของผู้มีสิทธิ ผู้เห็นชอบ 14,727,306 คน คิดเป็น 56.69% ไม่เห็นชอบ 10,747,441 เสียง คิดเป็น 41.37% คิดเป็นบัตรเสีย 504,120 ใบ ฉีกบัตรลงคะแนน 5 ใบ มีการคืนบัตร 87 ใบ คิดเป็นบัตรเสีย 1.94%

ภาคใต้แห่ใช้สิทธิเห็นชอบตามคาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลคะแนนตามรายภาคนั้น สำนักงาน กกต.ไม่ต้องนำเสนอต่อ ส.ส.ร. แต่ได้ ประมวลผลตามรายภาคไว้ โดยภาคกลางมีผู้มีสิทธิ 15,144,307 คน ผู้มาใช้สิทธิ 8,741,488 คน คิดเป็น 57.72% เห็นชอบ 5,714,973 คน คิดเป็น 65.38% ไม่เห็นชอบ 2,874,674 คน คิดเป็น 32.89% บัตรเสีย 151,815 ใบ คืนบัตร 26 ใบ คิดเป็นบัตรเสีย 1.74% ส่วนภาคใต้ มีผู้มีสิทธิ 6,268,074 คน ผู้มาใช้สิทธิ 3,717,664 คน คิดเป็น 59.31% เห็นชอบ 3,214,506 คน คิดเป็น 86.47% ไม่เห็นชอบ 425,883 คน คิดเป็น 11.46% บัตรเสีย 77,271 ใบ คืนบัตร 4 ใบ รวมคิดเป็นบัตรเสีย 2.08% ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้มีสิทธิ 15,351,973 คน ผู้มาใช้สิทธิ 8,350,677 คน คิดเป็น 54.39% เห็นชอบ 3,050,182 คน คิดเป็น 36.53% ไม่เห็นชอบ 5,149,957 คน คิดเป็น 61.67% บัตรเสีย 150,492 ใบ คืนบัตร 46 ใบ รวมคิดเป็นบัตรเสีย 1.80% ส่วนภาคเหนือ มีผู้มีสิทธิ 8,328,601 คน ผู้มาใช้สิทธิ 5,169,125 คน คิดเป็น 62.06% เห็นชอบ 2,747,645 คน คิดเป็น 53.15% ไม่เห็นชอบ 2,296,927 คน คิดเป็น 44.44% บัตรเสีย 124,542 ใบ คืนบัตร 11 ใบ รวมคิดเป็นบัตรเสีย 2.41%

นครพนมครองถ้วยไฟแดงไม่รับร่าง

สำหรับจังหวัดผู้ที่มาใช้สิทธิมากที่สุดคือ จ.ลำพูน คิดเป็น 75.35% จ.สุรินทร์ มีผู้มาใช้สิทธิน้อยสุด 49.66% ในส่วนของจำนวนบัตรเสียสูงสุด คือปัตตานี 6.05% โดยสาเหตุที่มีจำนวนบัตรเสียมาก จากการตรวจสอบเป็นเพราะการใช้สื่อประชาสัมพันธ์เป็นภาษายาวีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกาเครื่องหมาย เช่น ใช้กาเครื่องหมายถูก ซึ่งถือเป็นบัตรเสีย ซึ่งเรื่องภาษานี้ เราจะเห็นว่าจำนวนบัตรเสียใน จ.ยะลา มีจำนวน 5.38% บัตรเสียใน จ.นราธิวาส จำนวน 4.37% นับว่าค่อนข้างสูงเช่นกัน แต่จำนวนลดลงจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา อาจต้องมีการปรับปรุงต่อไป อีกทั้งพื้นที่ยังมีปัญหาอุปสรรคในการประชาสัมพันธ์ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ จังหวัดที่มีจำนวนบัตรเสียต่ำสุด กทม. คิดเป็น 1.12% ส่วนจังหวัดที่มีผู้เห็นชอบมากที่สุดคือ จ.ชุมพร คิดเป็น 92.13% โดย จ.นครพนม เห็นชอบน้อยที่สุด 22.07%

อีสานครองแชมป์ถูกร้องเรียนแจกเงิน

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงถึงศูนย์รับแจ้งเหตุ นับตั้งแต่วันที่ 10-19 ส.ค. ว่า มีเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 178 ราย จำนวนนี้มีความผิดตาม พ.ร.บ. ออกเสียงลงประชามติ 131 ราย แยกเป็นพื้นที่ กทม. ปริมณฑล แจกเงิน 10 ราย ใบปลิว 13 ราย นำเที่ยวเพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิ 4 ราย โฆษณาปราศรัย 11 ราย แจกของ 5 ราย ใช้สิทธิแทน 1 ราย ฉีกบัตร 1 ราย ส่วนภาคกลาง แจกเงิน 4 ราย ใบปลิว 2 ราย โฆษณา 4 ราย แจกของ 1 ราย จัดเลี้ยง 1 ราย ฉีกบัตร 1 ราย ภาคใต้ แจกเงิน 1 ราย ใบปลิว 1 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจกเงิน 25 ราย ใบปลิว 15 ราย นำเที่ยวเพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิ 1 ราย โฆษณาปราศรัย 8 ราย แจกของ 8 ราย ฉีกบัตร 1 ราย ในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือ แจกเงิน 5 ราย ใบปลิว 1 ราย โฆษณาปราศรัย 4 ราย

ยันอำนาจรัฐไม่คุกคามพื้นที่ภาคอีสาน

จากนั้นนายสุทธิพล และตัวแทน ผอ.กต.จังหวัดจากทุกภาค ได้ร่วมแถลงและชี้แจงตอบข้อสงสัยของสื่อมวลชน เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของการออกเสียงประชามติของแต่ละพื้นที่ โดยนายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผอ.กต. จ.อุบลราชธานี ได้วิเคราะห์จากการที่ตั้งข้อสังเกตผลคะแนนของประชามติในพื้นที่ภาคอีสานในหลายจังหวัด ไม่รับร่างฯนั้นมีคะแนนสูงว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่เดิมของพรรคไทยรักไทย อดีต ส.ส.ยังคงมีบทบาท ดูแลจุนเจือและการอนุเคราะห์กันและไปมาหาสู่กับชาวบ้าน ดังนั้นเมื่อต้องมีการลงคะแนนจึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย ส่วนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.บุรีรัมย์ ที่ผลรวมออกมาไม่รับร่าง แม้จะผิดไปจากที่หลายฝ่ายจับตามอง แต่ยืนยันว่าไม่มีภัยคุกคามจากอำนาจรัฐ ยอมรับว่าการที่ถูกจ้องมองก็มีผลอยู่บ้าง อีกทั้งในพื้นที่นี้ก็ ยังเป็นพื้นที่แบ่งหลายกลุ่ม นอกเหนือจากนายเนวิน ชิดชอบ แล้ว ก็ยังมีนักการเมืองกลุ่มอื่น อาทิ นายโสภณ เพชรสว่าง และนายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว. จึงไม่น่าแปลกใจนัก

แหยงยังไม่กล้าฟันซื้อเสียงบุรีรัมย์

นายสุทธิพลกล่าวเสริมถึงกรณีที่ร้องเรียนคดีทุจริตการแจกเงินให้ไม่รับร่างใน จ.บุรีรัมย์ ว่า การที่เรายังทราบข้อมูลแต่ยังไม่ดำเนินการอะไร เนื่องจากต้อง รวบรวมพยานหลักฐาน การดำเนินการจึงต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพ ขณะนี้ กกต.ได้ประสานกับหลายฝ่ายเพื่อให้ได้หลักฐานชี้ชัดเพิ่มมากขึ้น

จากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาผลการออกเสียงส่งให้กับสภาร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาประกาศผล โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นที่ประชุมได้มอบ หมายให้นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. เดินทางนำผลการออกเสียงประชามติไปมอบให้กับที่ประชุม ส.ส.ร.

ส.ส.ร.รับทราบผลก่อนสลายตัว

เย็นวันเดียวกัน ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นัดพิเศษ โดยนายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธาน ส.ส.ร. เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของ ส.ส.ร. อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณารับทราบผลการลงคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายนรนิติได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งผลการลงคะแนนประชามติเมื่อวันที่ 19 ส.ค. มาให้รับทราบแล้ว ที่ประชุมได้เห็นชอบกับการรายงานฉบับดังกล่าว จากนั้นนายนรนิติได้กล่าวขอบคุณสมาชิก กรรมาธิการยกร่างและฝ่ายต่างๆที่ช่วยเหลือและสนับสนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีสมาชิกหลายคนแสดงความเป็นห่วง หลังจากผ่านการออกเสียงลงประชามติไปแล้วว่า หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นจะทำอย่างไร โดยนายนรนิติชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญประกาศแล้วเราก็หมดอายุ ดังนั้น จึงไม่ต้องประชุมอะไรกันอีก ขณะที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ส.ร. เสนอให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำจังหวัดคณะต่างๆ เพราะยังมีบางปัญหาค้างคาอยู่ ขณะที่ พล.ต.ท.มีชัย นุกูลกิจ ส.ส.ร. เสนอให้ เปิดเผยการใช้งบประมาณให้สาธารณชนได้รับรู้หรือไม่

“นรนิติ” บอกตอนนี้รู้สึกสบายใจ

นายศรีราช เจริญพานิช กล่าวว่า เราควรจะต้องทำความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะผลการไม่รับร่างมีจำนวนมากพอสมควร อาจจะทำให้มีผลต่อการถูกชักนำไปถึงการเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตาม ได้มีสมาชิกหลายคนเสนอให้ทำงานต่อจนกว่ารัฐธรรมนูญจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา นายนรนิติชี้แจงว่า กรรมาธิการกิจการสภาฯจะประชุมอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร จากนั้นประธานได้ขอให้สมาชิกปรบมือให้กับตัวเองและได้สั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 18.40 น.

นายนรนิติกล่าวถึงกระบวนการนำร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยว่า จะนำส่งร่างรัฐธรรมนูญให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ตอนนี้รู้สึกสบายใจแล้ว เพราะถือว่างานลุล่วงและสิ้นสุดภาระหน้าที่ของ ส.ส.ร. ส่วนคะแนนที่ไม่ทิ้งกันมากนักถือว่าดี ความเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่สิ่งที่ดีใจคือประชาชนออกมาใช้สิทธิเกินกว่ากึ่งหนึ่ง เมื่อมติเป็นอย่างไรก็เป็นตามนั้น แต่คงต้องใช้กันไปสักพักหนึ่ง เมื่อเห็นข้อบกพร่อง ส.ส. และ ส.ว.ชุดต่อไปต้องไปหารือกัน รวมถึงรับฟังความเห็นจากประชาชนด้วย

แม่ทัพ 2 ยอมรับพ่ายกระแส ทรท.

ทางด้าน พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่า พื้นที่ภาคอีสานเป็นของมวลชนของพรรคไทยรักไทยเก่า ที่เขายังมีมวลชนอยู่ และที่ผ่านมา พรรคพลังประชาชนออกมารณรงค์ให้ประชาชนไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ และได้แจกใบปลิวเพื่อบิดเบือนรัฐธรรมนูญว่า จะกระทบต่อโครงการต่างๆ เช่น โครงการ 30 บาท ชักจูงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด การโจมตีต่างๆมีผลกระทบต่อความเข้าใจของประชาชนในพื้นที่โดยตรง ทำให้ประชาชนไม่ เห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญ โดยเราพยายามชี้แจงทำความเข้าใจ

“ชาวบ้านเหล่านี้ถูกฝังรากมานานหลายปี ในช่วงที่พรรคไทยรักไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล มี ส.ส.กว่า 180 คน มีความผูกพันมากว่า 4-5 ปี เขาจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและมีความเชื่อกันอยู่ ทั้งนี้ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่พรรคไทยรักไทยเดิมยังมีอิทธิพลอยู่ เราเข้าได้บางส่วน เพียงแต่ในขณะนี้ได้มีจำนวนลดลงแล้ว” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

บอกพยายามเต็มที่แล้วแต่ได้แค่นี้

เมื่อถามว่า พอใจหรือไม่กับจำนวนผู้รับร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ พล.ท.สุจิตรตอบว่า เทียบกับมวลชนพรรคไทยรักไทยเดิมที่เคยได้รับการเลือกตั้งมาก่อน เขาจะมีมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ถือว่ามวลชนของเขาลดลง เมื่อถามว่า มีการรายงานการทุจริตในการลงประชามติในพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.ท.สุจิตรตอบว่า ในวันลงประชามติ มีรายงานการทุจริตที่แจ้งไปยัง กกต.หลายจังหวัด ขณะนี้ กกต.กำลังติดตามผลอยู่ เพื่อจะดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ กกต.จังหวัดได้รวบรวมรายละเอียด เพื่อชี้แจงไปยัง กกต.กลางแล้ว เมื่อถามว่า ชี้แจงไปยังผู้บังคับบัญชาหรือไม่ว่า เหตุใดภาคอีสานจึงพ่ายแพ้ พล.ท.สุจิตรตอบว่า พื้นฐานเดิมเป็นพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของกลุ่มอำนาจเก่า เราพยายามทำความเข้าใจอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ถือว่าจำนวนผู้ที่ออกมาลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีจำนวนลดลงไป ถือว่าเราสามารถทำได้บางส่วน แต่เราได้พยายามปรับแผนและทำอะไรต่างๆให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นการดึงมวลชนในส่วนของเราให้มีมากยิ่งขึ้น เมื่อถามว่าผู้บัญชาการทหารบกกำชับอย่างไรหลังผลประชามติในพื้นที่ภาคอีสานพ่ายแพ้ พล.ท.สุจิตรตอบว่า ท่านไม่มีอะไรสั่งการเป็นพิเศษ และไม่ได้ว่าอะไร ท่านได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามดูว่าผลการดำเนินงานด้านมวลชนที่ผ่านมามีอะไรต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อมุ่งไปสู่ในช่วง 3 เดือนที่เหลือ ทั้งนี้ คิดว่าไม่หนักใจ ไม่มีปัญหา

อีกสามเดือนข้างหน้ามาวัดกันใหม่

เมื่อถามว่า ผลที่ออกมาถือว่าเราพ่ายแพ้หรือไม่ พล.ท.สุจิตรตอบว่า ถ้าเขาไม่รับก็ถือว่าเราพ่ายแพ้ เป็นเรื่องงานมวลชนที่เราต้องเคลื่อนไหวมากขึ้น แต่ครั้งต่อไป 3 เดือนหน้า เราอาจจะมีมวลชนของเรามากกว่านี้ งานมวลชนไม่มีแพ้ไม่มีชนะ เมื่อถามว่า จะรับผิดชอบกับผลประชามติที่ออกมาอย่างไร พล.ท.สุจิตรตอบว่า งานมวลชนไม่นิ่งอยู่ที่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ส่วนพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับชัยชนะ เพราะ กกต. แข็งและร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ติดตามเกาะติดพื้นที่ ที่ผ่านมามีผู้ให้ข้อมูลเพื่อเอาผิดได้ เห็นได้ว่าภาพรวม กกต.มีความจริงจังมาก แต่พื้นที่อื่นมีการทำงานที่อาจจะไม่ เหมือนที่บุรีรัมย์ ทั้งนี้ หากพื้นที่อื่นเอาจริงเอาจัง ฝ่ายที่บิดเบือนข้อมูลก็จะเอาจริงเอาจังไม่ได้ เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่ากลุ่มอำนาจเก่าจะกลับมาสู่อำนาจอีกครั้ง พล.ท.สุจิตรตอบว่า หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งห้วงเวลาที่เหลือเรายังมีเวลาทำความเข้าใจ ทั้งนี้ เมื่อมีการยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 ทำให้พรรคการเมืองต่างๆดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ดังนั้น ต่อไปในพื้นที่จะมีพรรคการเมืองต่างๆ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย เข้ามาทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง

แม่ทัพ 3 ชี้เป็นความคิดที่แตกต่าง

พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงผลการลงประชามติทางภาคเหนือว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 59% เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ไปทำงานต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ผลประชามติออกมาในรูปนี้ ไม่ตรงตามที่คาดหมาย จากผลที่ออกมาก็ต้องวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ แต่ทั้งนี้คะแนนก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ก่อนการลงประชามติได้มีการประชาสัมพันธ์เป็นอย่างมากแล้ว เหตุใดผลของการลงประชามติจึงออกมากํ้ากึ่ง แม่ทัพภาคที่ 3 ตอบว่า กองทัพไม่ได้รณรงค์ว่าประชาชนต้องรับร่างรัฐธรรมนูญ เพียงแค่รณรงค์ให้ประชาชนมาใช้สิทธิเท่านั้น เพราะทหารเป็นข้าราชการ ไปรณรงค์ให้รับหรือไม่รับ ไม่สามารถทำได้ เมื่อถามว่า ผลคะแนนที่ออกมาถือว่าเป็นความล้มเหลวของ คมช.หรือไม่ พล.ท.จิรเดชตอบว่า ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ถือเป็นความล้มเหลว แต่ผลการลงประชามติของทั่วประเทศออกมาว่า ประชาชนยอมรับรัฐธรรมนูญ 2550 แสดงว่าไม่เป็นการล้มเหลว ทั้งนี้ คะแนนที่ออกมาไม่ถือว่าเป็นความแตกแยกทางความคิด แต่เป็นความคิดที่แตกต่างกัน

คมช.เตรียมเชือดพวกพื้นที่สีแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก คมช.ว่า หลังจากที่ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ออกมาว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนบน มีผู้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมากกว่ารับ จึงทำให้มีข่าวออกมาว่า ทางรัฐบาลและ คมช.จะมีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ทัพภาค และผู้บังคับการตำรวจภูธร โดยจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ 2 ส่วน คือการโยกย้ายในส่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และการแต่งตั้งบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2550 ถือว่าเป็นการโยกย้ายตามฤดูกาลไม่น่าจะมีอะไรแอบแฝง และไม่เกี่ยวกับผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายข้าราชการในเดือน ก.ย.นี้ ทางผู้บังคับบัญชาอาจจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับผลงานการทำงานที่ผ่านมา ขึ้นมาประกอบการพิจารณาด้วยก็เป็นได้ หรือบางทีผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่สีแดง ที่ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อาจจะอยู่ในข่ายก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ ขณะเดียวกัน การแต่งตั้งโยกย้ายนอกฤดูกาล เพียงแค่ประชาชนไม่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญอาจจะไม่พิจารณาในประเด็นนี้ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งรัฐบาลและ คมช.

สรุปการกระทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร. ทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร. (ความมั่นคง) ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร.) ได้ประชุมสรุปสถานการณ์การออกเสียงประชามติทั่วประเทศ จากนั้นเปิดเผยว่า การกระทำความผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ตั้งแต่ วันที่ 5-20 ส.ค.ที่ผ่านมา มีคดีรวมทั้งสิ้น 26 คดี แบ่งเป็นคดีเรื่องทำลายบัตร 5 คดี ผู้ต้องหา 5 คน คดีก่อความวุ่นวาย 1 คดี ผู้ต้องหา 1 คน คดีให้ทรัพย์สินหรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน 3 คดี ผู้ต้องหา 7 คน และคดีหลอกลวง 17 คดี ผู้ต้องหา 13 คน รวมทั้งสิ้น 26 คดี

ผอ.ศรส.ลต.ตร. กล่าวว่า การกระทำความผิดในช่วงวันออกเสียงลงประชามติ มีทั้งสิ้น 9 คดี แบ่งเป็นคดีทำลายบัตร 5 คดี คดีหลอกลวง 2 คดี คดีให้ ทรัพย์สิน 1 คดี และคดีก่อความวุ่นวาย 1 คดี

ไทยรักไทยระบุมีการตุกติกประชามติ

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า ในการลงประชามติเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มไทยรักไทยได้รับข้อร้องเรียนต่างๆแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ 1. มีการชักจูงโดยผู้ใหญ่บ้านกำนันในพื้นที่ ให้ประชาชนลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าหากไม่ผ่านรัฐบาลจะไม่ ช่วยเหลือเงินกองทุนหมู่บ้าน และโครงการเอสเอ็มแอล

2. มีการสวมสิทธิ์ มีผู้ไปใช้สิทธิก่อนหน้าโดยนำบัตรประชาชนที่เป็นบัตรเก่าไปใช้ก่อนเจ้าตัว และมีการเสียสิทธิ บางครอบครัวที่มีสิทธิรายชื่อหายไปทั้งหมด 3. ความผิดปกติในการนับคะแนน และ 4. ความผิดพลาดในการส่งคะแนน เหล่านี้เป็นความผิดปกติที่เราได้ประมวลมา ทางกลุ่มคิดว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขต่อไปเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เกิดขึ้นอีก

คุยฟุ้งคนอีสานยังคงนิยม “ทักษิณ”

นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย สมาชิกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงผลการลงประชามติเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งพื้นที่ จ.นครพนม มีจำนวน ผู้ไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านเขาบอกว่าไม่ชอบรัฐธรรมนูญเผด็จการ หลายมาตราไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ที่จะทำให้ ส.ส.ใกล้ชิดชาวบ้านน้อยลง นอกจากนี้ ชาวบ้านยังคงนิยมชมชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอยู่ และมองว่า คมช.มัวแต่จับผิด พ.ต.ท. ทักษิณและพรรคไทยรักไทย จนไม่ให้ความสนใจความเดือดร้อนชาวบ้าน ต่างจากการบริหารงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงไปลงประชามติไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพื้นที่ จ.นครพนม อาจถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจจะถูกมองว่ากลุ่มอำนาจเก่ายังมีการเคลื่อนไหว นายศุภชัยตอบว่า ถ้าผู้มีอำนาจมีจิตใจเป็นประชาธิปไตยก็ควรยอมรับความเห็นต่าง ไม่ใช่จ้องแต่จับผิดและกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มอำนาจเก่าเคลื่อนไหว ถามว่าถ้าไม่อยากถูกเพ่งเล็งต้องเห็นด้วยกับผู้มีอำนาจเท่านั้นใช่หรือไม่

ข่าวจาก ไทยรัฐ

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1092

แสดงความคิดเห็น โดย กรรมกรข่าว IP: Hide ip , วันที่ 21 ส.ค. 50 เวลา 10:04:24
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี