| • เสธ.ทบ.ตำหนิรัฐ ดูแลไม่ถึง เหนือ-อีสานแพ้ |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 22 ส.ค. 50 เวลา 10:17:29 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลังจากที่ผลการลงประชามติได้ออกมาอย่างเป็นทางการทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นความพ่ายแพ้ของทหารและรัฐบาลต่อกระแสความนิยมอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น เรื่องนี้เสนาธิการทหารบกได้ออกมาตำหนิรัฐบาลว่าไม่ได้ลงไปดูแลช่วยเหลือปากท้องชาวบ้านอย่างเต็มที่ เสธ.ทบ.ตำหนิรัฐเฉื่อยช่วยชาวบ้าน เมื่อวันที่ 21 ส.ค. เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับแผนการทำงานภายหลังรับทราบผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างเป็นทางการ ที่ชนะกันอย่างเฉียดฉิวว่า ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ในรายละเอียด เพื่อนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ว่าเกิดจากอะไร ต้องรู้ต้นเหตุก่อนถึงจะแก้ไขปัญหาได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าในภาคอีสานและภาคเหนือหลายจังหวัดยังชื่นชม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ พล.อ.มนตรีตอบว่า ต้องดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องของการดูแลช่วยเหลือประชาชน เพราะปีนี้มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ที่กว่าจะไปถึงประชาชนก็ช้า แต่เราจะแก้ไขกันในปีงบประมาณ 2551 คนเราต้องคำนึงถึงเรื่องปากท้อง เรื่องตัวเองเป็นหลักก่อน เขาต้องเห็นแก่ตัวก่อน เพราะความยากจนเป็นปัญหาของทุกเรื่อง ถ้าความยากจนหมดไปจึงมาคิดถึงเรื่องประเทศชาติ ถ้าแก้ไขได้เขาก็น่าจะกลับมาเป็นฝ่ายเรา เพราะทุกคนก็คำนึงถึงประเทศชาติอยู่แล้ว เตรียมทำประชานิยมภาคทหาร ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณที่ออกมาไม่สามารถไปรองรับความต่อเนื่องของโครงการประชานิยมของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ พล.อ.มนตรีตอบว่า ไม่ใช่ โครงการเหล่านี้มีอยู่แล้ว เป็นโครงการเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน ของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ที่ กอ.รมน.ดูแลอยู่ แต่ปีที่ผ่านมายังไม่ค่อยเป็นรูปธรรมเท่าใดนัก เพราะงบประมาณล่าช้า ส่วนจะปรับแผนเพื่อซื้อใจมวลชนให้กลับมาเป็นพวกได้อย่างไรนั้น เป็นหลักการของ ศจพ.จะดูแลให้ความช่วยเหลือ เขาถาวร จะไม่ใช้โครงการประชานิยม ทุกโครงการจะให้ชาวบ้านคิดเองว่าเขาต้องการอะไร มีปัญหาอะไร จะทำให้แก้ปัญหาตรงกับความต้องการ แทนที่จะเอาเงินไปให้ แล้วก็จบไปโดยไม่มีการพัฒนา สำหรับงบประมาณในโครงการดังกล่าวต้องใช้มากพอสมควร เพราะงบประมาณในส่วนนี้มีหลายส่วน รวมแล้วเป็นหมื่นล้านบาทแต่ปัญหาคือทำอย่างไรจึงจะนำเงินเหล่านั้นไปใช้อย่างบูรณาการ ให้ถึงมือประชาชนอย่างรวดเร็วและถูกต้อง นั่นคือบทเรียนที่เราได้รับในช่วงที่ผ่านมา โวยรัฐเมินดูแลคลุกคลีชาวบ้าน พล.อ.มนตรีกล่าวว่า เชื่อว่าหลังผลการลงประชามติ แล้วสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เหตุการณ์ความไม่มั่นคงจะน้อยลง ทำให้เรามีเวลาลงไปดูแลประชาชนมากขึ้นในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง เราจะพยายามดึงประชาชนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมาอยู่กับเราให้มากที่สุด เมื่อถามว่า จะเจาะฐานเสียงเดิมของไทยรักไทยที่ฝังรากลึกอยู่ได้ อย่างไร พล.อ.มนตรีตอบว่า ต้องทำ 2 อย่าง คือ ทำให้เขาได้อยู่ดีมีสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่น้อยกว่าในช่วงที่ผ่านมา คือให้เห็นว่ารัฐบาลได้ลงไปดูแลเขา และใส่ใจปัญหาข้อเท็จจริง ให้เขาทราบว่าต้องมีหน้าที่ทำเพื่อประเทศชาติอย่าง ถ้าเริ่มต้นทำให้เขาได้ดีกว่าช่วงที่ผ่านมา และใกล้เคียงกับรัฐบาลที่แล้ว โดยใส่อุดมการณ์รักชาติ เพิ่มเติมไปก็คงจะดีขึ้น ลั่นไม่มีใครยอมรับแล้วเรื่องปฏิวัติ เมื่อถามว่า ผลประชามติที่ออกมาต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ พล.อ.มนตรีตอบว่า ไม่มีเหตุผลที่จะไปเลื่อน เพราะไม่ใช่แค่ประชาชนในประเทศเท่านั้น ทั่วโลกก็จับตามมองอยู่ เชื่อว่าจะเลือกตั้งทันในช่วงปลายปีแน่นอน ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยและเป็นไปตามขั้นตอน และไม่อยากให้มีอุบัติเหตุในบ้านเมืองเกิดขึ้นเลย ที่ ผบ.ทบ.แสดงความเห็นนั้น ไม่ใช่เรื่องการปฏิวัติ ถึงทำก็ไม่ได้รับการยอมรับ เพราะไม่มีเหตุเหมือนตอนก่อน 19 ก.ย. “สนธิ” สั่ง มท.หาเหตุผลทำไมไม่รับ รธน. วันเดียวกัน เมื่อเวลา 18.30 น. ที่สนามกอล์ฟกรีนวัลเล่ย์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติเห็นชอบจากประชาชนว่าต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องของ กกต.ที่จะดำเนินการเลือกตั้ง ทาง คมช.ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้อง เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงหรือไม่ที่พื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือมีคะแนนไม่เห็นชอบเป็นจำนวนมาก พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่มี ถือว่าเป็นสิ่งที่เราประเมินค่อนข้างใกล้เคียง เมื่อถามว่าจะมีการหารือกับแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบที่ประชาชนไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า กระทรวงมหาดไทยจะต้องรวบรวมเหตุผลทั้งหมด ในส่วนของกองทัพ แม่ทัพภาคที่ 2 จะสรุปผลให้ทราบอีกครั้ง จี้ มท.ไปจัดการ ผวจ.ไม่รับร่าง เมื่อถามว่า จะเรียกแม่ทัพภาคที่ 2 มาชี้แจงหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า เขาต้องมาเล่าให้ฟังว่าเหตุผลเป็นอย่างไร เป็นเรื่องธรรมดา ขณะนี้ยังไม่ได้มาเล่าให้ฟัง แม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องมารายงานให้ฟังอยู่แล้วถือเป็นธรรมเนียมของการทำงาน เมื่อถามว่า มีการคาดโทษกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่สีแดงที่ประชาชนไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่มี ตนไม่เคยกำหนดพื้นที่สีแดง สีเขียว สีเหลือง ถือว่าทุกที่ก็ทำงานไปตามกรอบของงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีเสรีในการปฏิบัติตามกรอบนโยบายของรัฐบาล และของกระทรวงมหาดไทย เมื่อถามว่า แสดงว่าการทำงานของแม่ทัพภาคที่ 2 ถือว่าทำงานได้อย่างเต็มที่แล้วในการทำความเข้าใจกับประชาชน พล.อ.สนธิตอบว่า แม่ทัพภาคที่ 2 คงทำได้ไม่หมด เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยก็จะต้องว่าไป เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่มีความผิดใช่หรือไม่ และไม่จำเป็นจะต้องถูกย้ายออกนอกพื้นที่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า “โอ้ยไม่มีๆ อย่าเอาไปเกี่ยวโยงกันคนละอย่างกัน คนทำงานข้าราชการเสียขวัญหมด ผมถือว่าทุกคนทำดีที่สุดแล้ว ทั้งนี้ ถือว่าเรื่องของรัฐธรรมนูญจบไปแล้ว” รับคำหนักแน่นเลือกตั้งปลายปีนี้ เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งภายในปลายปีนี้ ประธาน คมช.ตอบว่ายืนยันครับ ทั้งนี้สิ่งที่บอกว่าจะมีเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่ทำให้ไม่มีการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.นี้ เพราะเราประเมินว่าปลายปีนี้จะมีการเลือกตั้ง เมื่อถามว่ายืนยันว่าจะไม่มีการปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า มันเป็นคนละเรื่องกันแต่สิ่งที่ตนบอกว่ามีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นปัจจัยทำให้ความพร้อมการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปมีหลายอย่าง เช่น การแข่งขันกีฬา และเป็นเดือนที่เฉลิมฉลอง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลัก ย้ำไม่มีปฏิวัติบ้านเมืองสงบแล้ว เมื่อถามว่า ประชาชนเกรงว่าจะเกิดปฏิวัติซ้ำเกิดขึ้นเพราะภาวะตลาดหุ้นได้ตกลงหลายจุดในวันนี้ พล.อ.สนธิตอบว่า “โธ่ใครจะไปปฏิวัติ” เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองต้องการให้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะว่าเรามีรัฐธรรมนูญแล้ว พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่เกี่ยวกันเลย อย่าไปโยงเรื่องของความมั่นคงกับเรื่องของการเมือง ในภาวะที่บ้านเมืองเรียบร้อยอย่างนี้ เชื่อได้ว่าทหารที่ไหนทำแสดงว่าขาดปัญญา “ผมบอกแล้วว่าเรื่องการเมืองกับเรื่องความมั่นคงจะต้องแยกออกจากกัน ประเทศไหนก็ตามที่ขาดความมั่นคง ประเทศนั้นจะไม่มีความเป็นไทหมายถึงไม่มีความเป็นเอกราช หรือไม่มีความสงบสุข เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าจะต้องแยกเรื่องของการเมือง กับความมั่นคงออกจากกันให้ดี ดังนั้น คนที่ทำหน้าที่รักษาความมั่นคง ต้องหามาตรการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้ได้ เพราะความสงบเรียบร้อยจะนำไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของประชาชน” การันตีรัฐบาลจัดเลือกตั้งยุติธรรม เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่าผลโหวตการลงประชามติเป็นการเลือกข้างระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า กับ คมช. พล.อ.สนธิตอบว่า อย่าเอามาปะปนกัน แยกกัน ไม่อย่างนั้นแล้วบ้านเมืองจะไม่สงบ จะต้องหันกลับมามองในภาพดีๆบ้าง ตอนนี้เรากำลังเดินไปสู่ประชาธิปไตย เมื่อถามว่า คมช.จะต้องมีการปรับแผนอะไรหรือไม่ เพราะผลจากการลงประชามติแสดงให้เห็นว่ากลุ่มอำนาจเก่ามีพลังอยู่ พล.อ.สนธิตอบว่าคงไม่ ในส่วนของ คมช. เรามองว่า รัฐบาลมีความยุติธรรม ถึงแม้ว่าจะมี พ.ร.บ.ที่จะไปเชิญให้ประชาชนไปรับร่าง รธน. แต่ครม.ก็มีมติให้ข้าราชการทำตัวเป็นกลาง เรื่องนี้ถือว่าแฟร์มาก ส่วนผลการลงประชามติที่ออกมารู้สึกพอใจ เพราะเป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้ เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ หากเลือกตั้งแล้วกลุ่มอำนาจเก่าจะกลับมา ผบ.ทบ.ตอบว่า ไม่ห่วง เราเป็นประเทศประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นอำนาจสิทธิมันมีก็จะต้องว่าไปตามนั้น ใครทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นคนที่ยังผิดอยู่ก็จะต้องว่าไปตามผิด เมื่อถามว่าหมายถึงกลุ่มไหนจะเข้ามาบริหารประเทศได้ใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่มีปัญหามันอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้เลือก และตัดสินใจ เมื่อถามว่า การเลือกตั้งอำนาจยังอยู่ที่ คมช. จะให้ความยุติธรรมเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.สนธิตอบว่า เมื่อมีการเลือกตั้งรัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่จะมีหน้าที่ในการกำกับดูแลในการเลือกตั้ง ซึ่งเขาให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลชุดนี้ถือว่าเป็นรัฐบาลที่เป็นกลาง ตนยืนยันอย่างนั้น ปฏิเสธมัชฌิมาเป็นนอมินีทหาร เมื่อถามถึงกรณีมีข้อสังเกตว่าการรวมตัวของกลุ่มมัชฌิมากับกลุ่มรวมใจไทย จะเป็นการตั้งพรรคนอมินีให้กับทหาร พล.อ.สนธิตอบว่า คิดว่าเรื่องนี้สื่อมวลชนต้องไปศึกษาคนทั้ง 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ทั้งนี้คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่า ยืนยันว่ากลุ่มนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับทหารลงไปเล่นการเมือง ประธานคมช.ตอบว่า ต้องไปถามเขา เพราะยังไม่ได้คุยกับตน เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรครักชาติ ตั้งขึ้นเพื่อให้ทหารมาเล่นการเมืองหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่าบอกแล้วว่าไม่ทราบ เรื่องอนาคตการเมืองยังไม่พูด หลัง 30 กันยายนค่อยมาคุยกัน เมื่อถามว่า ร.อ. ขจิตได้ทาบทามให้เข้าสังกัดพรรครักชาติแล้วหรือยัง พล.อ.สนธิกล่าวปฏิเสธว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เลี่ยงพูด ผบ.ทบ.คนใหม่ ส่วนเรื่องความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2550 นั้น พล.อ.สนธิตอบว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้ทำ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ต้องมีอายุราชการอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นการตัดสิทธิ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.ออกจากแคนดิเดต พล.อ.สนธิตอบว่า เรื่องที่นายกฯพูดตนยังไม่ทราบ คมช.ครึกครื้นตีกอล์ฟฉลอง รธน. ขณะเดียวกัน ที่สนามกอล์ฟกรีนวัลเล่ย์คันทรีคลับ ได้มีการจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟประเพณีกองทัพไทย ครั้งที่ 23 โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็น เจ้าภาพ โดยมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้แทน ผบ.ตร. เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน โดย พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ให้สัมภาษณ์ว่า ต่อไปก็เข้าสู่ขั้นตอนของการเลือกตั้ง ส่วนผลประชามตินั้นยังบอกไม่ได้ว่าก้ำกึ่งอย่างไร เพราะมีคนไม่มาออกเสียงกันมาก เมื่อถามว่าคะแนนเสียงที่ห่างกันแค่ 4 ล้านกว่าเสียง ถือว่า คมช.พ่ายแพ้ต่อการลงประชามติหรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อเสียงส่วนใหญ่ยอมรับก็จบ เตรียมการเลือกตั้งต่อไป ตรงจุดนั้นไม่ควรหันไปดูแล้ว ดูข้างหน้าดีกว่า อนาคตอยู่ที่ประชาชนจะลงคะแนนในการเลือกตั้ง “ธีรภัทร์” ปัดเชือด ผวจ.พื้นที่สีแดง ทางด้านนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวที่รัฐบาลและ คมช. ได้คาดโทษผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดที่ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่น่าใช่ เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯเป็นของกระทรวงมหาดไทย ที่จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ เชื่อว่าตัวเลขประชามติคงมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายน้อย เพราะรัฐมนตรีต้องคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาลและความเหมาะสม ดังนั้น ผวจ. นายอำเภอ ข้าราชการไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีการโยกย้ายก่อนเดือน ก.ย. ส่วนผลการลงประชามติในภาคอีสานนั้น เข้าใจว่าเป็นฐานของกลุ่มอำนาจเก่า มีเรื่องการใช้หัวคะแนน การบิดเบือนเจตนารมณ์ รัฐธรรมนูญ การใช้เงิน ซึ่งเราต้องนำมาวิเคราะห์ต่อไป ในภาพรวมถือว่าน่าพอใจ มีประชาชนออกมาใช้สิทธิเกินร้อยละ 50 แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ที่ร้อยละ 60 ส่วนการจัดพิธีฉลองร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ต้องรอหารือผู้เกี่ยวข้องก่อน ยอมรับ “ทักษิณ” มีผลต่อประชามติ ผู้สื่อข่าวถามว่า นักวิชาการบางส่วนมองว่า สาเหตุหนึ่งที่ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องปากท้องได้ นายธีรภัทร์ตอบว่า เป็นเหตุผลที่เบาที่สุด น่าจะมาจากเหตุผลอื่นมากกว่า เช่น การไม่เข้าใจเนื้อหาที่ถูกบิดเบือน การใช้เงิน และยังมีปัจจัยเรื่องประชาชนยังนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณรวมอยู่ด้วย แต่คิดว่าไม่เกิน 20% ซึ่งผลที่ออกมาคงส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ส.ส.บ้างเล็กน้อย แต่ไม่น่าหนักใจอะไร เพราะเป็นคนละสนามกัน ส่วนการตรวจสอบต้นตอจดหมายที่มีเนื้อหาโจมตีประธานองคมนตรีนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้าไปตรวจสอบว่ามาจากแหล่งใด เชื่อว่าการลงประชามติจะไม่นำไปสู่ความแตกแยก ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ยึดหลักธรรมาภิบาล คนเลวไม่อาจเข้ามาปกครองและเบี่ยงเบนให้เกิดความไม่ถูกต้องได้และคงเป็นไปไม่ได้ที่ พ.ต.ท. ทักษิณจะกลับมามีอำนาจได้อีก ปลัดมหาดไทยยันไม่ลงโทษ ผวจ. วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทยนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีข่าว คมช.สั่งการให้ลงโทษผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีประชาชนออกเสียงลงประชามติน้อยกว่าเป้าหมาย และจังหวัดที่มีจำนวนผู้รับร่างรัฐธรรมนูญน้อยกว่าผู้ไม่รับร่างฯ ว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้คาดโทษหรือลงโทษ ผวจ.ที่มีประชาชนออกไปใช้สิทธิลงประชามติน้อยตามที่มีข่าว มีแต่แสดงความชื่นชม ผวจ. นายอำเภอรวมทั้งผู้นำท้องถิ่นในทุกพื้นที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ผลลัพธ์ที่ออกมาหลายจังหวัดมีประชาชนไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้ชี้นำประชาชน เพราะหากเป็นการชี้นำจริงผลที่ออกมาไม่น่าจะเป็นเช่นนี้ ส่วนบางจังหวัดที่มีประชาชนไปใช้สิทธิลงประชามติน้อย ทางกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ตำหนิจังหวัดใดทั้งสิ้น ถึงฤดูย้าย ผวจ.ไม่เกี่ยวผลประชามติ นายพงศ์โพยมกล่าวว่า เนื่องจากปีนี้มีข้าราชการระดับ 10 เกษียณอายุราชการประมาณ 20 คน การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งนั้น จะพิจารณาจากอาวุโส และความรู้ความสามารถเป็นหลัก ไม่ควรนำไปโยงกับการลงประชามติ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนกรณีที่มีการกังวลกันเรื่องสิงห์ดำ-สิงห์แดงในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 นั้น ต้องคอยดูกันต่อไป สำหรับตำแหน่งสำคัญที่จะว่างลง เช่น อธิบดีกรมการปกครองนั้น จะต้องพิจารณาจากความเหมาะสมหลายด้านทั้งเรื่องของความสามารถและอาวุโส ซึ่งมีผู้ที่เหมาะสมหลายคน ทั้งนี้ ผู้ที่จะมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ไม่จำเป็นต้องเป็นอธิบดีหรือรองปลัดกระทรวงมาก่อนเพราะในอดีตอย่างสมัยนายพิศาล มูลศาสตร์สาทร ก็ขึ้นมาจาก ผวจ.ได้ ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1310 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 22 ส.ค. 50
เวลา 10:17:29
|
