สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

          วานนี้ (29 ก.ย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ว่า บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำแต่ละประเทศ ที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เป็นไปด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จากการที่ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างผู้นำประเทศต่างๆ เขาก็เข้าใจทุกอย่างว่าเราดำเนินการตามขั้นตอน และก็มีผู้นำกลุ่มประเทศอียูบางคนได้สอบถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเข้าไปซื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่านำเงินจากไหนมาซื้อ 

          "ผู้นำอียูบางท่านได้พูดด้วยซ้ำไปว่า เรื่องที่คุณทักษิณไปซื้อทีมฟุตบอลที่อังกฤษ ทุกคนรู้ว่ามันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ ซึ่งใครที่จะมีเงินไปซื้อทีมฟุตบอลที่อังกฤษได้ ในความรู้สึกของนักการเมืองในอียูเขาก็ถามว่า คุณทักษิณทำงานอะไร ผมก็ตอบเขาไปว่าเป็นเจ้าของบริษัทโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเขาบอกว่าต้องรวยมากๆ นะถึงจะซื้อทีมฟุตบอลในอังกฤษได้ นี่คือสิ่งที่เขาถาม ผมไม่ได้เป็นคนพูดเอง เขาก็บอกเองว่า มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นทั้งคำถามและคำตอบอยู่ในตัว" นายกรัฐมนตรี กล่าว

          ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ท่าทีของประเทศต่างๆ ต่อตัวนายกรัฐมนตรีในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาตินั้น นานาประเทศโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เข้าใจต่อสถานการณ์ในประเทศไทยเป็นอย่างดี และไม่ได้รู้สึกรังเกียจตามที่หลายฝ่ายกังวล ว่าจะเป็นปัญหาหลังประเทศไทยผ่านการปฏิวัติรัฐประหาร หรือทำให้ต่างประเทศเกิดความไม่เชื่อมั่นได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังมีความเคลื่อนไหวต่างๆ อยู่ในขณะนี้ก็ตาม 

          นอกจากนี้ กลุ่มประเทศในอียูไม่ได้มีการสอบถามถึงการที่จะเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในปลายปีนี้ เพียงแต่ตนได้อธิบายและชี้แจงว่า ไทยพร้อมที่จะให้อียูเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งภายใต้กรอบกฎหมายของไทย


ข้อมูลจาก
 

ข่าวจากกระปุกดอทคอม