| • สตช.โบ้ยพัลวันไม่ได้จัดทำโพล |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 28 พ.ย. 50 เวลา 09:34:20 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
|
“ธีรภัทร์” จวกสันติบาลจุ้นทำโพลชี้นำ
เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวก่อนเข้าประชุม ครม. กรณีที่มีการเผยแพร่โพลของตำรวจสันติบาล ที่ระบุว่าพรรคพลังประชาชนจะชนะเลือกตั้งได้ 219 เสียงว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นโพลของสันติบาล เพราะทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้เลย และไม่ทราบว่าตำรวจสันติบาลมีหน้าที่อะไรถึงไปทำโพล ถ้าเป็นโพลอย่างเป็นทางการจริงก็จะได้ถามไปยัง ผบ.ตร.ว่าตำรวจสันติบาลมีหน้าที่ทำโพลหรืออย่างไร เพราะผลโพลถือว่าชี้นำประชาชนต่อการเลือกตั้งแน่นอนอยู่แล้วไม่มากก็น้อย และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ถ้ายิ่งไปตอกย้ำในการตัดสินใจก็จะมีอิทธิพล เพราะเคยมีการทำวิจัยมาแล้ว ดังนั้น จึงมักจะมีโพลชี้นำออกมา เพื่อที่จะตอกย้ำประชาชนเป็นระยะๆ ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของการหาเสียงเลือกตั้ง อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น แต่เป็นการพยายามจะชักจูงเพื่อให้นำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ อย่างไรก็ตามไม่ทราบข้อมูลว่าใครจะไปจ้างใครทำโพล
สตช.อ้างแค่ประเมินสถานการณ์
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องโพลสันติบาลที่มีการเผยแพร่ออกมาทางสื่อมวลชน ไม่ใช่เป็นการทำโพลของตำรวจสันติบาลแต่อย่างใด หน้าที่ของตำรวจสันติบาลมีอย่างเดียวคือ การประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งในพื้นที่ว่าแต่ละเขตนั้นมีคู่แข่งกี่คนและอยู่ในระดับไหน เช่น อาจจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างคนที่ 1 กับคนที่ 2 และมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ตำรวจจำเป็นจะต้องใช้มาตรการในการเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับผู้สมัครหรือไม่ ข้อมูลในส่วนนี้เป็นข้อมูลที่ตำรวจสันติบาลต้องดำเนินการและทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ
“เป็นหน้าที่โดยตรงของตำรวจสันติบาลในการที่จะสืบสวนหาข่าวและรายงานมายัง สตช. ถ้าพบว่าพื้นที่ใดมีการแข่งขันกันสูง ระหว่างผู้สมัครคนใดคนหนึ่งนั้น ถือว่ามีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัย ต้องเข้าไปดำเนินการ คิดว่าข้อมูลตรงนี้อาจจะถูกแปลเป็นอย่างอื่นไปได้ เช่น ถ้ารายงานว่าผู้สมัครหมายเลขนี้กับหมายเลขนี้ แข่งขันกันอย่างดุเดือด แล้วก็มีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็อาจจะแปลเป็นว่าผู้สมัครคนใดมีคะแนนเสียงมาก ผู้สมัครคนใดมีคะแนนเสียงน้อย แต่ถือเป็นข้อมูลปกติของสันติบาล ที่ต้องดำเนินการในพื้นที่และประเมินสถานการณ์ แต่ ไม่ใช่โพลว่าใครจะได้รับเลือกตั้ง” โฆษก สตช.กล่าว ครั้งต่อไปไม่ให้มีการหลุดอีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงมีข้อมูลออกมาระบุว่าเป็นโพลสันติบาลเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ พล.ต.ท.พงศพัศตอบว่า ได้หารือกับ พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส. และโฆษก บช.ส.แล้ว ทุกคนปฏิเสธว่าไม่ใช่เป็นการทำโพล แต่การแปลความนั้นก็คงจะเป็นคนที่ได้รับข้อมูลไปแล้วแปลความออกมา เป็นข้อมูลที่ทางสันติบาลทำในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ทางสันติบาลยืนยันว่าไม่ได้มีการเปิดเผยและเป็นข้อมูลลับซึ่งนำมาเปิดเผยไม่ได้ เพราะสันติบาลก็ทำงานลับอยู่แล้ว เรื่องนี้ทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ก็ติงมาในที่ประชุม เพราะเมื่อเป็นข้อมูลแต่ถูกนำมาเปิดเผย ทำความเสียหายให้กับผู้สมัคร รับเลือกตั้ง หรือก่อให้เกิดความสับสนในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ครั้งต่อไปคงจะไม่มีอีกแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นมาต้องตรวจสอบว่าเป็นมาอย่างไร ใครมีความบกพร่องหรือไม่ ผบ.ตร.ได้สั่งการแล้วว่าให้ตรวจสอบ เป็นตำรวจสันติบาลแท้ๆ ยังปล่อยให้ข้อมูลลับหลุดรอดออกมาได้อย่างไร ทั้งนี้ ให้สันติบาลตรวจสอบกันเองว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นมีที่มาอย่างไร ใครบกพร่อง แล้วข้อมูลหลุดออกมาทางใด น่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้
สันติบาลออกประกาศแต่หลบหน้าสื่อฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้ออกประกาศเรื่องข้อมูลการประเมิน สถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้า ที่มีผู้ระบุว่าเป็นข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ขอให้สื่อมวลชนและบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ต่างๆใช้ดุลพินิจในการนำเสนอข้อมูล เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาลไม่เคยทำโพลประเมินผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด ทั้งนี้ ข้อมูลที่สื่อมวลชนได้รับอาจเนื่องมาจากบรรยากาศทางการเมืองค่อนข้างมีการแข่งขันกันอย่างสูงของพรรคการเมืองต่างๆ ทำให้มีการกระทำเพื่อหวังผลทางการเมือง การกล่าวอ้างแหล่งข้อมูลในเรื่องดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเอง จึงขอเรียนประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวขอเข้าพบ พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส. และ พล.ต.ต.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส. ในฐานะโฆษก บช.ส. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเอกสารฉบับดังกล่าวเป็นของ บช.ส.หรือไม่ แต่ได้รับการปฏิเสธ ขณะที่ พล.ต.ท.พงศพัศตอบเพียงว่า พยายามจะสอบถามข้อเท็จจริงจากทาง ผบช.ส. และโฆษก บช.ส. แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
|
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1332 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 28 พ.ย. 50
เวลา 09:34:20
|
