กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับผลคะแนนเลือกตั้งจากทุกจังหวัดแล้ว กกต.ก็ได้ ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ รวมทั้งได้ประชุมเพื่อพิจารณาแจกใบเหลือง ใบแดงให้กับผู้สมัคร ส.ส.ที่ทุจริตการเลือกตั้ง
กกต.แถลงผลทางการ พปช.วิน 233 คน
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.แถลงว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการว่า ได้รับแจ้งผลคะแนนจากทุกจังหวัดแล้ว โดยพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งมี 7 พรรค แบ่งเป็น พรรคพลังประชาชน ได้ ส.ส.แบบสัดส่วน 34 คน แบบแบ่งเขต 199 คน รวม 233 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. แบบสัดส่วน 33 คน แบบแบ่งเขต 132 คน รวม 165 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ ส.ส.แบบสัดส่วน 7 คน แบบแบ่งเขต 17 คน รวม 24 คน พรรคชาติไทย ได้ ส.ส.แบบสัดส่วน 4 คน แบบแบ่งเขต 33 คน รวม 37 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้ ส.ส.แบบสัดส่วน 1 คน แบบแบ่งเขต 8 คน รวม 9 คน พรรคประชาราช ได้ ส.ส.แบบสัดส่วน 1 คน แบบแบ่งเขต 4 คน รวม 5 คน และพรรคมัชฌิมาธิปไตยไม่ได้ ส.ส.แบบสัดส่วน ส่วนแบบแบ่งเขตได้ ส.ส. 7 คน
คนใช้สิทธิมากสุดเป็นประวัติการณ์
นายอภิชาตกล่าวต่อว่า สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีจำนวนทั้งสิ้น 44,002,593 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 32,759,009 คน คิดเป็น 74.45% ถือเป็นการใช้สิทธิมากสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนบัตรเสีย แบ่งเป็น แบบสัดส่วน 5.57% แบบแบ่งเขต 2.55% ถือว่าน่าพอใจ เพราะ กกต.ตั้งเป้าบัตรเสียแบบแบ่งเขตไว้ไม่เกิน 3% และบัตรเสียแบบแบ่งเขตครั้งนี้ยังน้อยกว่าการเลือกตั้งปี 2544 ที่มีถึง 10.01% และปี 2548 มี 5.99% ส่วนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบ่งเป็น แบบสัดส่วน 2.85% แบบแบ่งเขต 4.57%
กำหนดวันจัดเลือกตั้งใหม่ 13 ม.ค.
สำหรับสถิติจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ ลำพูน 88.90% ส่วนจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุดคือ จังหวัดสกลนคร 66.73% ส่วนจังหวัดที่มีบัตรเสียแบบแบ่งเขตมากที่สุดคือ จังหวัดสิงห์บุรี 6.64% น้อยที่สุดคือ มหาสารคาม 1.12% สำหรับบัตรเสียแบบสัดส่วนมากที่สุดคือ จังหวัดตาก 9.06% น้อยที่สุดคือสมุทรสงคราม 2.54% ส่วนจังหวัดที่มีบัตรประสงค์ไม่ลงคะแนนมากที่สุดแบบสัดส่วนคือ อยุธยา 5.05% แบบแบ่งเขต คือจังหวัดภูเก็ต 9.90% ทั้งนี้ กกต.จะประกาศรับรองผลได้กรณีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน ภายใน 7 วันทำการ คือ 4 ม.ค. 2551 ส่วนผู้ที่มีเรื่องร้องคัดค้านและต้องเลือกตั้งใหม่ กกต.จะดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ซึ่งหากต้องเลือกตั้งใหม่ กกต.กำหนดวันไว้ในวันที่ 13 ม.ค. 2551
เร่งทยอยวินิจฉัยแดงเหลืองได้ก่อน 4 ม.ค.
เมื่อถามถึงยอดรวมสำนวนทุจริตการเลือกตั้ง นายอภิชาตกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทยอยส่งเรื่องเข้าที่ประชุม กกต. จึงไม่ทราบยอดรวม อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันนี้ได้ พิจารณากรณีผู้สมัครพรรคพลังประชาชน จ้างคนไปฟังปราศรัย ที่ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา แล้ว น่าจะวินิจฉัยเสร็จภายในบ่ายนี้ ทั้งนี้บ่ายนี้มี 15 เรื่อง จะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. ส่วนจำนวนว่าที่ ส.ส.ที่ไม่ถูกร้องเรียน ก็มีเป็นส่วนใหญ่ ก็จะประกาศรับรองผลได้ใน 7 วัน ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงยอดรวมสำนวนทุจริตเลือกตั้ง พรรคใดมีมากที่สุด นายอภิชาตกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ไม่ได้ แยกถึงขนาดนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ทยอยส่งเรื่องมาเรื่อยๆ แต่เมื่อเช้าผมให้เจ้าหน้าที่ปรับปรุงการทำงานแล้ว โดยทุกเรื่องที่รับเป็นเรื่องร้องเรียน ให้นำลงคอมพิวเตอร์ ลิงก์ไปถึงห้องทำงานผม” เมื่อถามว่า จะทยอยให้ใบแดงใบเหลือง หรือจะประกาศเป็นลอต นายอภิชาตตอบว่า หากสำนวนมีพยานหลักฐานครบ และควรเชื่อได้ว่ามีการทุจริต ก็จะทยอยๆวินิจฉัยและประกาศออกมาเรื่อยๆ และมีโอกาสจะให้ใบแดง ใบเหลือง กับว่าที่ ส.ส.ได้ก่อนวันที่ 4 ม.ค. 2551
กกต.เสนอ ครม.เลือก ส.ว. 2 มี.ค.
นายอภิชาตกล่าวด้วยว่า ในช่วงเช้า กกต.ได้ พิจารณาร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ว.เสร็จแล้ว และเตรียมส่ง ครม. ซึ่ง กกต.เสนอวันเลือกตั้งไว้วันที่ 2 มี.ค. 2551 ส่วนการสรรหา ส.ว. จะมีการประชุมประธานองค์กรอิสระและประธานศาลต่างๆที่เป็นกรรมการสรรหาในวันที่ 26 ธ.ค. ที่สำนักงาน กกต.
แจก 3 ใบเหลืองแรกเด็ก พปช.โคราช
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง และเพิกถอนสิทธิผู้ที่ทุจริตการเลือกตั้ง หรือใบแดงใบเหลือง ต่อมาเวลา 18.00 น. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงข่าวภายหลังการประชุม กกต. ว่า วันนี้ กกต.ได้พิจารณาสำนวนเรื่องร้องคัดค้านจำนวนทั้งสิ้น 10 สำนวน ซึ่งเป็นเรื่องร้องเรียนก่อนการเลือกตั้ง โดยมีมติยกคำร้อง 3 สำนวน และอยู่ในระหว่างการพิจารณา 1 สำนวน ส่วนที่มีมติแล้ว 6 สำนวน ประกอบด้วย กรณีที่หนึ่ง กกต.มีมติ 4 ต่อ 1 สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา เนื่องจากหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่าผู้ได้รับการเลือกตั้งทั้ง 3 คนของพรรคพลังประชาชน คือ นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด นางลินดา เชิดชัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้รับประโยชน์จากการที่นายตี๋ แซ่เหล็ก เตรียมจ่ายเงินขนคนไปฟังปราศรัย และได้รับประโยชน์จากการที่หัวคะแนนบริจาคเงินให้วัด และมีมติให้แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายตี๋ โดยการสั่งเลือกตั้งใหม่ดังกล่าวจะรอเขตเลือกตั้งอื่นๆ และไปเลือกตั้งใหม่ในวันเดียวกันคือวันที่ 13 ม.ค.
นัดแจ้งว่าที่ ส.ส.พปช.4-ปชป.2
นายสุทธิพลกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กกต.ยังมีมติให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและเชิญผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งมาชี้แจงรวม 3 กรณี คือ กรณีเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ลำปาง ให้มีการเชิญว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ประกอบด้วยนายกิตติกร โล่ห์สุนทร นายธนาธร โล่ห์สุนทร นาย วาสิต พยัคฆ์บุตร ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการให้ทรัพย์สินเป็นเงินบนเวที ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 53 (1) ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. และเขตเลือกตั้งที่ 4 จ.บุรีรัมย์ ให้มีการเชิญนายโสภณ ซารัมย์ ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน เข้ามาชี้แจงกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้องเรียนว่าให้ทรัพย์สินตามมาตรา 53 (1) ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส่วนกรณีเขตเลือกตั้งที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช ให้มีการเชิญนายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ว่าที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาชี้แจงเนื่องจากถูกนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน กล่าวหาว่ากระทำการใส่ร้ายทำให้เกิดความเข้าใจผิดในคะแนนนิยม ถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 53 (5) ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดให้มาชี้แจงภายในวันที่ 27 ธ.ค.
ตั้ง กก.สืบสวนกรณีแจกซีดีที่ศรีสะเกษ
นายสุทธิพลยังกล่าวอีกว่า กกต.ยังมีมติมอบหมายให้เลขาฯ กกต.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนลงไปตรวจสอบกรณีมีการคัดค้านที่เขต 1 จ.ศรีสะเกษ ที่นายธเนศ เครือรัตน์ นายปวีณ แซ่จึง ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน และนายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชาชน กระทำการแจกจ่ายซีดี 1 ปีที่หายไปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดมาตรา 53 หรือไม่ และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายพรรคการเมืองที่เข้าข่ายให้ยุบพรรคหรือไม่ โดยเมื่อทราบผลให้รายงานต่อ กกต.โดยเร็ว
“ประแสง” อ่วม กกต.ฟันหลายกระทง
นายสุทธิพลกล่าวว่า กกต.มีมติให้แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายประแสง มงคลศิริ อดีตผู้สมัคร ส.ส. อุทัยธานี พรรคพลังประชาชน ที่แม้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แต่การกระทำก่อนหน้านั้นคือการแจกจ่ายซีดี พ.ต.ท.ทักษิณถือว่าเป็นทรัพย์สิน เข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 53 (1) และการไปรณรงค์หาเสียงที่ จ.สุพรรณบุรี โดยที่รถหาเสียงไม่ได้มีการระบุว่าตนเองเป็นผู้สมัคร จ.อุทัยธานี ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน จ.สุพรรณบุรีเข้าใจผิดในคะแนนนิยมเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 53 (5) รวมทั้งจากการที่มีการบันทึกภาพถ่ายการมาปราศรัยหาเสียงของนายประแสงที่บริเวณหน้าสำนักงาน กกต.และที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบว่ามีเนื้อหาที่ดูหมิ่น กกต. จึงให้แจ้งความดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดยความผิดในคดีเลือกตั้งนั้นมีบทลงโทษกำหนดไว้ในมาตรา 137 ว่าให้มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสน และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี
ระบุคำร้องทุจริตสูงกว่า 100 สำนวน
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ส่วนที่ยกคำร้องมีทั้งสิ้น 3 สำนวน ประกอบด้วย อุดรธานี เขต 2 บุรีรัมย์ เขต 4 และสุรินทร์ เขต 3 อย่างไรก็ตาม ยังมีสำนวนการร้องเรียนที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งที่ กกต.ยังไม่ได้พิจารณาอีก 100 กว่าสำนวน ส่วนหลังการลงคะแนนเลือกตั้งแล้วยังมีสำนวนเรื่องร้องเรียนเข้ามาอีกมาก ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปยอดได้
ยันไม่คิดจ้องถล่มพรรคใดพรรคหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาของ กกต.อาจถูกมองว่าจ้องเล่นงานพรรคพลังประชาชน นายสุทธิพลตอบว่า เรื่องที่ กกต.พิจารณาวันนี้ หากสื่อพิจารณาให้ดีจะค่อนข้างชัดเจนว่ามีพยานหลักฐาน และมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ขอย้ำว่า กกต.ไม่ได้ทำเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ว่ากันไปตามหลักฐาน อย่างกรณีเขต 3 จ.นครราชสีมา จะเห็นได้ว่า กกต.ไม่ได้แจกใบแดง สื่อเองก็เห็นว่าหากหลักฐานไม่ถึงผู้สมัคร กกต.ไม่แจกใบแดงอยู่แล้ว และ กกต.ก็ไม่ได้ด่วนสรุป แต่ยังให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหามาพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ อย่ามองว่า กกต. จ้องถล่มพรรคใดพรรคหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐานที่เข้ามา ในวันพรุ่งนี้ กกต.จะพิจารณาสำนวนร้องเรียนและร้องคัดค้านตั้งแต่เวลา 09.30 น.
“สดศรี” ระบุมติ 4 ต่อ 1 ให้ใบเหลือง
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 17.45 น. นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุม กกต. มีมติ 4 ต่อ 1 ให้ ใบเหลืองแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 3 ใบ แก่ผู้สมัคร 3 คน ที่ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา เนื่องจากน่าเชื่อว่าใช้เงินจูงใจ ทั้งเรื่องขนคนไปฟังปราศรัยและบริจาคเงินเข้าวัด ทั้งนี้ ตามขั้นตอนแล้ว กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งได้ตั้งเอาไว้ว่าจะให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 13 ม.ค.
ควานหาตัวการแจกเงินที่โคราช
นางสดศรีกล่าวว่า ต้องมีการตามตัวและลงโทษนายตี๋ แซ่เหล็ก ในคดีอาญา ขณะนี้หนีไปแล้ว อย่างไรก็ตามผู้สมัครทั้ง 3 คน ไม่ได้ถูกตัดสิทธิเพราะไม่ได้ให้ใบแดง ทั้งนี้ เป็นเพราะข้อมูลหลักฐานไม่สามารถเอาผิดกับผู้สมัครได้สักเท่าไร เมื่อถามว่า ยังไม่สามารถเอาผิดสาวไปถึงพรรคการเมืองใช่หรือไม่ นางสดศรีตอบว่า ไม่ได้สาวยาวไปถึงขนาดนั้น เพราะตอนนี้ได้แค่ใบเหลือง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือไม่นั้นไม่ต้องสอบสวนต่อแล้ว คดีนี้ยุติแล้ว “นายตี๋ยังโยงไปไม่ถึง เพราะเป็นแค่หัวคะแนนเฉยๆ หัวคะแนนของใครก็ยังไม่รู้ เพราะหลักฐานยังไม่ชัดเจน” เมื่อถามว่า เมื่อแจกใบเหลืองไปแล้ว ผู้สมัครจะคัดค้านได้หรือไม่ นางสดศรีตอบว่า ไม่มีกระบวนการดังกล่าว เนื่องจาก กกต.ยังไม่ประกาศผล มีเพียงการได้รับแจ้งผลการเลือกตั้ง การให้ใบเหลืองตอนนี้จึงไม่ต้องมีขั้นตอนไปถึงศาล
ไม่เร่งแจกใบแดง-เหลืองแบบสะใจ
ทางด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกต่างชื่นชมยินดีที่เรามีประชาธิปไตยแล้ว ดังนั้นไม่ว่าพรรคใดจะได้รับใบแดงใบเหลืองก็เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายและประชาธิปไตย และไม่ใช่สิ่งที่ตนถือว่าเป็นสาระสำคัญที่จะต้องรีบทำโดยด่วน หรือจะต้องรีบให้ได้ เพราะการให้ ใบเหลืองใบแดงอย่างรวดเร็วอย่างสะใจนั้น หลายฝ่ายมองว่าไม่เป็นธรรมจึงให้ศาลเป็นผู้ให้ใบเหลืองหรือใบแดง แต่ฝ่ายสืบสวนฯ เห็นว่าหากเป็นเช่นนั้น กกต.คงไม่สามารถควบคุมการเลือกตั้งได้ จึงได้ชี้แจงกับกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการฯ จึงให้เขี้ยวมาหนึ่งอันเพื่อควบคุมการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อให้คุณให้โทษแก่พรรคหนึ่ง พรรคใด
เร่งสอบคดี จนท.ลำปางโดนตะปูเรือใบ
ส่วนภาพรวมของการให้ใบเหลืองใบแดงจะปรากฏให้เห็นเมื่อใดนั้น นายสมชัยกล่าวว่า คิดว่าไม่เกิน 15 วัน จะต้องรู้เรื่อง เพราะหลังจากนั้นจะไม่ทันกาล หลังจากนั้นควรเป็นเรื่องภายหลังที่ตั้งรัฐบาลและสภา จากนั้น กกต.จึงค่อยมาสอย และจัดการคนไม่ดีให้ออกไปทีหลัง อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กกต.จะพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงอย่างเที่ยงธรรม เมื่อถามย้ำว่า จะมีใบแดงหรือไม่ นายสมชัยตอบว่า มีแน่นอน ถ้าตั้งธงไว้ก่อนจะเสียหาย ทั้งนี้ในการพิจารณาของ กกต.จะนำสำนวนก่อนหน้านี้รวมเข้าพิจารณาด้วย โดยเฉพาะ 10 สำนวนเก่าก่อนหน้านี้ และเท่าที่จำได้การประชุมวันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะมีการนำกรณีการทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.ลำปางเข้าประชุมด้วย และต้องรีบลงไปสอบสวน โดยคนที่ลงไปสอบเรื่องนี้นั้น โดนตะปูเรือใบและหลายๆอย่างด้วย แต่ไม่อยากพูดต่อไปแล้ว เพราะถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ปัดพิจารณาคดีทุจริตไม่เกี่ยวตั้งรัฐบาล
ก่อนหน้านี้นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วมฯ กล่าวเช่นเดียวกันว่า กกต.จะเร่งพิจารณาสำนวนการร้องเรียนให้เสร็จภายในเดือนนี้ การพิจารณาของ กกต.ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาล และกรอบเวลาที่กำหนดจะไม่ส่งผลกดดันต่อการพิจารณาของ กกต. แต่เชื่อว่าการพิจารณาของ กกต.จะทันกับการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ม.ค.2551
คนขายเหล้าวันเลือกตั้งมากที่สุด
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร.ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.มค.1 และผอ.ศรส.ลต.ตร. แถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-25 ธ.ค.มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษให้ดำเนินคดีตามกฎหมายรวม 343 คดี ผู้ต้องหา 377 คน แบ่งเป็นรู้ตัวผู้กระทำผิด 334 คดี, ไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด 9 คดี จังหวัด ที่มีสถิติการกระทำความผิดสูงสุด อันดับ 1 คือ กทม. จำนวน 55 คดี ผู้ต้องหา 70 คน รองลงมาคือ จ.ชลบุรี จำนวน 48 คดี ผู้ต้องหา 48 คน และ จ.ภูเก็ต จำนวน 22 คดี ผู้ต้องหา 30 คน ซึ่งข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดคือ จำหน่ายจ่ายแจกสุรา 265 คดี และทำลายบัตร 35 คดี เป็นที่น่าสังเกตว่าการกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายจ่ายแจกสุราในวันเลือกตั้งล่วงหน้าสูงถึง 185 คดี ส่วนวันเลือกตั้งทั่วไปมี 80 คดีนั้น เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ประชาชนไม่ทราบข้อห้ามดังกล่าว
สำหรับการรายงานเหตุการณ์กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ใด รวม 52 เรื่อง แบ่งเป็นกฎหมายเลือกตั้ง 37 เรื่อง ประกอบด้วยให้เงิน 19 คดี วางแผ่นพับ 1 คดี ปิดแผ่นป้าย 3 คดี ใส่ร้าย 5 คดี กกต.ทุจริต 1 คดี แจกทรัพย์สิน 3 คดี อ้างหลักฐานเท็จ 1 คดี กระทำเท็จ 1 คดี หลอกลวง 1 คดี ใช้สิทธิผู้อื่น 2 คดี และกฎหมายอื่น 15 เรื่อง ประกอบด้วย ขัดรัฐธรรมนูญ 1 คดี ข่มขู่ 3 คดี ทำลายป้าย 8 คดี แจ้งเท็จ 1 คดี ทำให้ เสียทรัพย์ 1 คดี เดือดร้อนรำคาญ 1 คดี
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
