| • บุญรอด สั่งทหารกลับเข้ากรมกอง |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 28 ธ.ค. 50 เวลา 10:28:52 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
|
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (27 ธ.ค.) ที่บ้านเกษะโกมล พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.วีรวิทย์ คูสำราญ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุญยะประดับ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.มนตรี ชมภูจันทร์ เสธ.ทบ. เข้าอวยพร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2551
จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผบ. เหล่าทัพ และนายทหารระดับสูง ได้เข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม โดย พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ขอขอบคุณความร่วมมือที่ทุกคนมอบให้ ในการนำกระทรวงกลาโหมไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะผู้อยู่แนวหน้าที่มีหมวกอีกใบหนึ่ง เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ มีความเสียสละ และทุ่มเทที่จะทำงานให้กับชาติบ้านเมือง ทำให้ผลงานที่ออกมาดีระดับหนึ่ง ในฐานะรัฐบาลชั่วคราว เพื่อนำพาประเทศมาถึงจุดนี้ จนกระทั่งมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อไปนี้เราจะถอยกลับเข้าที่มั่นของเรา คือกลับเข้ากรม กอง ปล่อยให้เป็นเรื่องทางการเมืองว่ากันต่อไป เราจะระลึกและยึดมั่นในพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้มีความรัก ความสามัคคี ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต เห็นแก่ชาติบ้านเมือง
ผบ.ทบ.พร้อมถูกปลดออกจากเก้าอี้
จากนั้น พล.อ.บุญรอดให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ การเมืองว่า ตอนนี้ปล่อยวางแล้ว ที่พูดอะไรจะเกิดก็เกิด ไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว หน้าที่ของเราจบลงแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะฟอร์มรัฐบาลมาบริหารประเทศ ทหารจะกลับกรมกอง ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง เมื่อถามว่าแสดงว่าทหารไม่กลัวการถูกเช็กบิลจากฝ่ายการเมือง พล.อ.บุญรอดตอบว่า ที่ผ่านมาเราทำในสิ่งถูกต้อง ฉะนั้นเมื่อทำในสิ่งถูกต้องก็ไม่กลัวอะไร เมื่อถามว่าการที่บอกว่าปล่อยวาง แสดงว่าในอนาคตอะไรจะเกิดก็ให้เกิดขึ้น พล.อ.บุญรอดตอบว่า เป็นวิวัฒนาการการเมืองไทย ปล่อยให้เขาจัดการกันเอง จะล้มลุกคลุกคลาน สักวันหนึ่งก็จะลุกขึ้นมายืนได้ เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าฝ่ายการเมืองจะเช็กบิล โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. อาจจะถูกปลด พล.อ.บุญรอดตอบว่า ใครจะปลดก็ปลดไป แต่ภาพรวมของทหารอยากให้อยู่ในความสามัคคี ร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คิดว่าเรื่องที่จะทำให้กองทัพแตกแยก เสียขวัญไม่มี อะไรเกิดทุกคนยอมรับ เมื่อถามว่าวันนี้รู้สึกว่าทหารโดดเดี่ยวหรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เราถอยกลับมาจากจังหวะที่ถูกต้องเมื่อได้แค่นี้เราก็ถอยกลับ หากทหารกลับเข้ากรมกอง วางตัวดีจะเป็นที่น่าเกรงขาม ทำให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีต่อไป
หยุดวิจารณ์เชียร์ ปชป.ตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าในอนาคต การเมืองจะเข้ามาแทรกแซงการทหาร พล.อ.บุญรอดตอบว่า ปัจจุบัน การเมืองไม่ได้เข้ามาแทรกแซง แต่อนาคตขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย ได้บอกแล้วว่าไม่อยากให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง และทหารก็จะไม่วิ่งเข้าหานักการเมือง ตบมือข้างเดียวคงทำไม่ได้ เมื่อถามว่า จะมีการป้องกันอย่างไรไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงกองทัพ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาแต่ละคน พูดง่ายๆ ทหารเหมือนแม่ไก่ ผู้ใต้บังคับบัญชาเหมือนลูกไก่ ฉะนั้นแม่ไก่จะเรียกลูกไก่ก็ได้ ส่วนกรณีที่วิเคราะห์ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำจัดรัฐบาลนั้นเป็นความเห็นส่วนตัว ด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้คิดไปแนะนำ แต่เมื่อมีคนออกมาทักท้วงว่ามีตำแหน่งเป็น รมว.กลาโหมพูดแบบนี้ไม่เหมาะสมก็ขอไม่พูดอีก ส่วนพรรคพลังประชาชนกลับมาเป็นรัฐบาลแล้วจะสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมืองหรือไม่นั้น ตอนนี้ประชาชนให้ ความไว้วางใจพรรคพลังประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง จึงมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจัดตั้งรัฐบาลแล้วจะไปได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับเข้ามาแล้วทำให้ประเทศดีขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในวันที่ 2-3 ม.ค. 2551 จะไม่ช้าเกินไป คาดว่าในวันที่ 23 ม.ค. 51 จะเปิดสภาได้ ถ้าหากไม่มีใบแดงมากเกินไป
ไม่รับปากว่าทหารจะไม่ทำปฏิวัติ
เมื่อถามว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง ประชาชนต้องยอมรับกับการตัดสินใจของประชาชนเอง พล.อ.บุญรอดตอบว่า ถูกต้อง เพราะเมื่อประชาชนตัดสินใจ และมีเหตุการณ์ อะไรเกิดขึ้น ก็จะต้องมีอะไรเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงก็ จะต้องเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยการเมือง จะต้องจับตาดู เมื่อถามว่าปีหน้ามีหลายคนเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์การปะทะกันของคนสองกลุ่ม ทหารจะออกมาดูแลหรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิด ทหารก็ไม่อยากให้เกิด ก็ภาวนาไม่ให้เกิด ทหารทุกคนตั้งใจไม่อยากจะให้มันเกิด แต่ถ้ามีอุบัติเหตุขึ้น ทหารจะออกมาได้มีอยู่สองลักษณะคือ เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการรักษาความสงบตามการประกาศภาวะฉุกเฉิน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ทหารอาจจะมีความจำเป็นรักษาสถานการณ์ ไม่ให้มันลุกลามได้ ถือเป็นสิ่งสุดท้าย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ และเราก็จะไม่ให้ไปถึงจุดนั้น เมื่อถามว่า แนวทางสุดท้ายคือการปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ที่พูดคืออย่างนั้น แต่เชื่อว่าไม่เกิด เพราะผู้บังคับบัญชาทุกคนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าจะไม่เกิด ยืนยันในหลักการว่าจะไม่เกิด เหมือนกับภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้ ทุกอย่างเป็นสัจธรรม
เตือน “สนธิ” ปล่อยวางทางการเมือง
เมื่อถามว่า หากทหารจะออกมาอยู่ภายใต้การสั่งการของรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ครับ คือการประกาศภาวะฉุกเฉิน หากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ทั้งนี้หากเกินขีดความสามารถของตำรวจ ทหารก็จะต้องออกมา โดยจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เชื่อว่าคงไม่ถึงจุดนั้น เพราะทุกคนรอคอยกันมา 1 ปีเต็ม ถึงอย่างไรก็จะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะต้องถูลู่ถูกังกันไป เมื่อถามว่า ได้เสนอแนะหรือเตือนให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกฯ ปล่อยวางทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า เตือน แต่ พล.อ.สนธิก็ปล่อยวางอยู่แล้ว เมื่อถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เหมาะสมที่จะนั่งตำแหน่งนายกฯในสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ทุกคนเหมาะสมทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุมสภากลาโหม ได้มีการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่าง รมว.กลาโหม กับ ผบ.เหล่าทัพ โดยมี พล.อ.สนธิมาร่วมสมทบภายหลัง พล.อ.สนธิกล่าวสั้นๆก่อนขึ้นไปร่วมรับประทานอาหารว่า “ไม่มีอะไร มารับประทานอาหารกับ รมว.กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพเท่านั้น” ทั้งนี้ ภายหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พล.อ.สนธิให้นายทหารคนสนิทนำรถเปล่าออกไปก่อน แล้วบอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายกลับไปแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวออกไปจากกระทรวง ก็นำรถกลับมารับ พล.อ.สนธิอีกรอบ
หวั่นกองทัพถูกการเมืองแทรกแซง
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรักษาการประธาน คมช. กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิมาร่วมรับประทานอาหารกับผู้นำเหล่าทัพว่า มานั่งคุยเฉยๆ ทั้งนี้ ไม่มีการหารือเรื่องการรับมือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่จะเดินทางกลับประเทศ ไม่มีใครห้าม เพียงแต่ไม่พร้อมจะกลับมาเอง เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เสนอตัวดูแลกองทัพ หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาปลดทหารในกองทัพ จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากองทัพหนุนพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า ต้องขอบคุณ ตอนนี้ทุกพรรคพร้อมแสดงความห่วงใย เพราะกองทัพเป็นของประเทศไทย ไม่ใช่ของใครหรือพรรคไหน ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.สนธิเป็นห่วงว่า การเมืองจะมาแทรกแซงกองทัพ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า เขามีโอกาสที่จะแทรกแซงได้ เพราะกองทัพคือองค์กรในกระทรวงกลาโหม รัฐบาลสามารถดูแลกำกับได้ แต่ต้องอยู่ในความยุติธรรม ส่วน คุณสมบัติของ รมว.กลาโหม ควรเป็นผู้มีความรู้ ภูมิปัญญา ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด มีความเหมาะสมหรือไม่ ผบ.ทอ.ตอบว่า ใครก็ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.ระบุว่าไม่แคร์ว่าใครมาเป็นรัฐบาล แล้วจะมีการปลดออกจากตำแหน่ง พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า กองทัพอากาศก็เช่นกัน ใครจะปลดก็ปลดได้ ถ้ามีความผิด
|
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1414 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 28 ธ.ค. 50
เวลา 10:28:52
|
