หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ลูกวัน เข้าสาธารณสุข เหลิมอุ้ม - ไม่มีคดี

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ลูกวัน เข้าสาธารณสุข เหลิมอุ้ม - ไม่มีคดี
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 23 ก.พ. 51 เวลา 10:00:50 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 


          "หมัก" อ้างหมดหน้าที่แล้ว ไม่เกี่ยว "ชนม์สวัสดิ์" ลาออกเก้าอี้เลขาฯ รมช. มหาดไทย เป็นเรื่องของพรรคเพื่อแผ่นดิน ฉุนถูกถามเรื่อง 6 ตุลาฯ ยังย้ำตายคนเดียว โบ้ยจำไม่ได้ 31 ปีที่แล้วพูดอะไรไปบ้าง "เหลิม" มอบนโยบายผู้ว่าฯทั่วประเทศ สั่งทุก 8 โมงเช้าให้ผู้ว่าฯมาพบที่บ้านวันละจังหวัด หงุดหงิด "ลูกวัน" ถูกจับโยง "ชนม์สวัสดิ์" ยันคนละคน คนละพรรคไม่เกี่ยวกัน "ชนม์สวัสดิ์" มีคดีติดตัว แต่ลูกชายบริสุทธิ์ผุดผ่องทุกคน "วัน"เข้าทำงานเลขาฯรมช.สาธารณสุขวันแรก ปลัดกระทรวงนำขรก.ตั้งแถวรอรับ น้ำตาคลอขอโอกาสสังคมทำงานชดเชยอดีต ก่อนถือพวงมาลัยเข้ากราบรมว."ไชยา" รมช.มอบหมายงานจัดเอกสารกับคอยเดินตาม

          "เลี้ยบ" ยกโพลไม่อยากให้ชำระ 6 ตุลาฯ หวั่นเป็นเรื่องการเมือง "อดิศร"หนุนบี้"หมัก"ขอโทษวีรชน รมว.กลาโหมแวบเข้า ทบ. ปิดห้องคุย"บิ๊กป๊อก"กว่า 2 ช.ม. ผบ.สส.มั่นใจบัญชีโยกย้ายนายทหารไม่มีปัญหา เพราะผู้นำที่มีปัญหากับทหาร แสดงว่าผู้นำคนนั้นมีปัญหา แบ่งเค้กประธานกมธ.สภาผู้แทนฯเรียบร้อย พปช.ได้ 14 คณะ ปชป. 11 คณะ ที่เหลือ 7 คณะพรรคเล็กไปแบ่งกัน กกต.ตั้งอนุกก.สอบร้องคัดค้าน"คำนูณ สิทธิสมาน"เป็นส.ว.สรรหา

"หมัก"โชว์ตัวทีมโฆษกรัฐบาล

          เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 ก.พ.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อมวลชนประจำสัปดาห์ โดยก่อนให้สัมภาษณ์นายสมัครแนะนำ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ และน.ส.ศุภรัตน์ นาค บุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ในโอกาสมาทำงานวันแรก

          ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านประกาศจะตรวจสอบรัฐ บาลอย่างเข้มข้น รัฐบาลจะรับมืออย่างไร โดยเฉพาะทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ นายสมัครกล่าวว่า ให้โอกาสโฆษกรัฐบาลทำงานก่อน ตนไม่ทราบว่างานจะออกมาอย่างไร แต่เชื่อว่าคนระดับนี้ทำงานได้ ขอให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่

อ้างหมดหน้าที่ไม่เกี่ยว"ชนม์สวัสดิ์"

          เมื่อถามถึงกรณีนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทยประกาศลาออก โดยให้เหตุผลไม่สบายใจที่สังคมกดดัน นายกฯกล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้ใครจะไปทำอะไรก็ทำ ถ้ารมต.จะเอาคนใหม่ก็ส่งชื่อมาเท่านั้นเอง เรื่องนี้ไม่มีอะไร เมื่อถามว่านายชนม์สวัสดิ์ลาออกแล้วจะเป็นแรงกดดันนายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยเลขานุการรมว.สาธารณสุข ทำงานลำบากหรือไม่ นายสมัครย้อนถามว่า พวกคุณอ่านที่เขาแถลงแล้วเข้าใจหรือไม่ เมื่อแถลงแล้วก็จบ ตนหมดหน้าที่แล้ว

          ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีข่าวแย่งชิงตำแหน่งประธานกรรมาธิการในสภาผู้แทนฯ พรรคพลังประชาชนมีหลักเกณฑ์พิจารณาเรื่องนี้อย่างไร นายสมัครกล่าวว่า แต่ละพรรคมีคณะกรรมการดำเนินการ ไม่ใช่ตนเป็นผู้ดำเนินการ มีกรรมการคอยดูแลกันอยู่ คงไม่ต้องพูดอะไร ส่วนที่มีข่าวว่าแย่งชิงตำแหน่งกันนั้น คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามว่าแสดงว่ามีแย่งชิงตำแหน่งกันอย่างที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า ตำแหน่งน้อย แต่คนมาก เป็นเรื่องธรรมดา แต่ทำไมต้องลงข่าวอย่างนั้นก็รู้กันอยู่แล้วว่ามันเป็นอย่างนั้น หรือพวกคุณต้องการลงข่าวประจาน

อึ้งเจอภาพถ่ายกับ"ประภาส"

          ต่อข้อถามว่านายกฯเคยระบุว่าจะเดินสายไปพบประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ เริ่มที่ขอนแก่นเป็นจังหวัดแรก นายกฯกล่าวว่า ขณะนี้กำหนดวันแล้ว แต่ยังไม่บอก จะเลือกวันหยุดเพื่อจะได้ดูงานทั้งวัน ปัญหาคือบางจังหวัดมีโครงการดำเนินการไว้แล้ว แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลก็ยกเลิก คิดว่าไม่เป็นธรรมกับท้องถิ่นและจังหวัดนั้น จะไปดูแลว่าเป็นอย่างไร พบปะประชาชนบ้าง จะให้นั่งหมกอย่างนี้ได้อย่างไร เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เตรียมยื่นกระทู้ถามเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 นายสมัครกล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกี่ยวกับตน ขอให้ยื่นมาก่อน ตนตอบชัดเจนแล้วว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว

          ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์นำภาพถ่ายนายกฯถ่ายคู่กับจอมพลประภาส จารุเสถียร อดีตผู้นำทหารผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ต.ค.มาเปิดเผยด้วย นายสมัครกล่าวว่า ตนยังไม่เห็น ไปเอามาให้ดูหน่อย ไปยืนกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อผู้สื่อข่าวยื่นหนังสือพิมพ์ให้ดู นายสมัครถึงกับอึ้ง และกล่าวว่า "โอ้โห นั่นผมเหรอ ผมยังไม่รู้เลย ไปยืนที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไมผมถึงจำไม่ได้ ไหนกางหนังสือพิมพ์ให้ดูหน่อย ผมไม่เห็น ผมไม่ได้รับรูปนี้" จากนั้นนายสมัครบอกให้ผู้สื่อข่าวถามเรื่องอื่น

อ้างผ่านมา31ปีจำคำพูดตัวเองไม่ได้

          ต่อข้อถามว่ายังยืนยันว่าไปยืนที่สนามหลวงและเห็นคนตายเพียงคนเดียวใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า รู้หรือไม่ว่าข่าวออกมาบอกว่ามีคนถูกเผาที่สนามหลวง ใครก็ไปดูว่าจริงหรือไม่ ว่ามีการเอายางมาวางแล้วจุดไฟเผา ใครๆก็ไปดูทั้งนั้น ตนอยู่กทม.ก็ไปดู หรือสื่อคิดว่ามากกว่า 1 คน เมื่อถามว่านายกฯเคยไปพูดกับนักศึกษาไทยในฝรั่งเศส เมื่อปี2520 ว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นายสมัครกล่าวว่า "เวลานี้ผ่านมาแล้ว 31 ปี ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าพูดไปอย่างนั้น ทำไมผมพูดอย่างนั้นก็ไม่ทราบ"

          เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ว่ามีคนตายมากกว่า 1 คน นายกฯกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า ตนบอกแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ก็จะไม่พูดและเชื่อว่าไม่ใช่ความเสียหาย ที่พูดไปอย่างนั้น ตนพูดกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อเขาถาม ตนก็ตอบ เป็นสิทธิเสรีภาพของตนแท้ๆ เมื่อถามว่าจะไปตอบกระทู้ของฝ่ายค้านด้วยตัวเองหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า บอกแล้วว่าไม่พูดเรื่องนี้ ไม่ตอบแล้ว พอแล้ว

          จากนั้นนายสมัครกล่าวถึงแนวทางจัดระเบียบสื่อว่า จะดูแลสื่อของรัฐที่เคยพูดจาประจบประแจงรายงานข่าวรัฐบาลจะต้องเลิก ให้เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา เช่น ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ให้รายงานข่าวตรงไปตรงมา ไม่ต้องมากระแซะรัฐบาล อย่างนี้ไม่น่าเป็นปัญหา ส่วนปัญหาดาวเทียม หรือสถานีเคเบิล ไม่ใช่ของรัฐ คงมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล

"วิเชียรโชติ" ไม่รู้เรื่องใบสั่งฮ่องกง

          ด้านพล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในตำแหน่งนี้อาจมีแรงปะทะมากว่า ไม่หนักใจ เพราะรับราชการมา ไม่น่ามีปัญหา เคยทำงานด้านการข่าวและจึงเข้าใจด้านประชาสัมพันธ์ เรื่องปะทะ คือการต่อสู้ แต่คงไม่ต่อสู้กับใคร สิ่งใดที่เป็นความจริงก็พูดความจริง สิ่งใดเป็นเท็จก็ต้องว่าไปตามนั้น ดังนั้นการทำงานต้องบริสุทธิ์ใจ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ระยะทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน สื่อจะเป็นกระจกสะท้อนว่าควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร สิ่งไหนมีประโยชน์ก็จะแก้ไข หากไม่มีประโยชน์ต้องคุยกัน

          เมื่อถามว่าใครติดต่อให้รับตำแหน่งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เมื่อตอนสมัครรับเลือกตั้ง ตนเกือบได้เป็นส.ส. หลังจากนั้นพอมีรัฐบาลก็ให้กรอกแบบฟอร์มว่าใครสามารถทำงานด้านไหนได้ ตนเพิ่งทราบจากสื่อที่โทรศัพท์ไปบอก และเมื่อมีมติครม.ออกมาวันที่ 20 ก.พ.ก็พบว่าเป็นจริง ต่อข้อถามว่าเพราะมีใบสั่งจากฮ่องกงหรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติกล่าวว่า ไม่ทราบ ตนทราบทีหลังสื่อด้วยซ้ำ และยังไม่ได้เจอใคร หรือผู้ใหญ่คนไหน เชื่อว่านายกฯปลื้มตน เพราะเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีเสนอชื่อที่ปรึกษาและเลขาฯรมต. นายกฯบอกว่าเหตุใดจึงไม่เสนอชื่อตน ที่เป็นอดีตกรรมการป.ป.ช. ดังนั้นเชื่อว่านายกฯรู้ว่าใครเป็นอย่างไร ส่วนตัวเชื่อว่านายกฯไม่มีปัญหา

"ณัฐวุฒิ" ยกทีมงานลบด้อยภาษา

          ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯอีกคน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพลักษณ์ความเป็นแกนนำนปก.ว่า ไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานรองโฆษก และไม่จำเป็นต้องลบล้างภาพลักษณ์ดังกล่าว ตนภาคภูมิใจที่ร่วมกับประชาชนหลายแสนคนต่อสู้ ต่อต้านเผด็จการ ยินดีให้เป็นภาพลักษณ์ตลอดไป

          ผู้สื่อข่าวถามว่าอาจมีปัญหาเรื่องใช้ภาษาต่างประเทศติดต่อสื่อสาร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนไม่มองว่าเป็นปัญหาเพราะทำงานร่วมกันเป็นทีม เชื่อมั่นการ นำของพล.ต.ท.วิเชียรโชติ ส่วนคดีความของนปก.ยังมีคดีหมิ่นประมาทที่จะไปรายงานตัวสัปดาห์หน้า เมื่อถามว่านายชนม์สวัสดิ์คำนึงถึงกระแสสังคมจึงลาออกไป นายณัฐวุฒิกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม กรณีนายชนม์สวัสดิ์เป็นวาระส่วนตัวแต่ละคนย่อมมีปัจจัยการตัดสินใจแตกต่างกัน

"เหลิม" ประชุมมอบนโยบายผู้ว่าฯ

          เมื่อเวลา 10.00 น.ที่วิทยาลัยการปกครอง คลอง 6 ปทุมธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ และนายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย เป็นประธานประชุมผู้ว่าฯทั่วประเทศเพื่อมอบนโยบายการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนมาจากเลือกตั้งตามระบอบประ ชาธิปไตย ไม่เคยคิดมานั่งตำแหน่งรมว.มหาดไทยเพื่อสับโขกข้าราชการ แต่ข้าราชการมหาดไทยต้องช่วยเหลือตนด้วย เพราะทีมงานมีแค่ 2 คน ที่เหลือใช้องคาพยพของมหาดไทยทั้งหมด วันนี้โพลออกมาเชื่อมั่นตนน้อยที่สุด จึงต้องขอความร่วมมือ ถ้าท่านทำงานดี ตนก็ได้หน้า ที่มาๆด้วยใจตั้งใจรับใช้ประเทศชาติประชาชน แต่บุคลิกตนอาจแข็งกร้าวไปหน่อย เพราะเป็นอดีตตำรวจ ตนตั้งใจมานานแล้วว่าต้องการเป็นรมว.มหาดไทย

          "วันหนึ่งตอนเวลา 16.00 น. รมว.มหาดไทยสมัยนั้นเรียกผมไปพบที่ห้องทำงาน ท่านถือแก้วบรั่นดี กินเหล้าตั้งแต่ 4 โมงเย็น ในห้องมีพ่อค้าอยู่ 4-5 คน เรียกผมเข้าไปด่าอยู่ 15 นาที ด่าว่าเป็นโจร ผมบอกว่าผมเป็นตำรวจ ผมใส่เครื่องแบบ ด่าเสร็จก็ไล่ผมออกมา ผมถามท่านว่าเรียกมาแล้วก็ไล่ผม อย่างนี้เรียกมาทำไม ผมจึงบอกท่านว่าจะเป็นนักการเมือง แล้วจะมาเป็นรมว.มหาดไทย ที่คิดอย่างนี้ไม่ใช่คับแค้นทางจิตใจ ยากไร้ทางวัตถุ แต่คิดมาตลอด ไม่ว่าอย่างไรก็คิดจนถึงขั้นคิดว่าไม่มีโอกาสแล้ว แต่ผมเป็นคนท้าทาย ที่มานั่งตรงนี้เตรียมพร้อมมาหลายสิบปี" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

8 โมง ให้ผู้ว่าฯเข้าบ้านวันละจังหวัด

          ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ที่บอกว่าไม่ให้ผู้ว่าฯไปหาที่บ้าน เพราะไม่ต้องการให้เกิดเสียงวิจารณ์หรือครหาใดๆ ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติ แต่ตอนนี้มีแนวคิดใหม่ให้ผู้ว่าฯมาหาที่บ้านวันละคน โดยปลัดกระทรวงไปดูเวลาว่างของผู้ว่าฯแต่ละคน มาแล้วพูดอัดเทปไว้ว่าจังหวัดเป็นอย่างไร ปัญหามีอะไร ไม่ว่าตนจะออกจากบ้านตอนไหน 08.00 น.ผู้ว่าฯต้องพร้อมที่บ้านตน นั่งรถออกมาด้วยกัน กินข้าวกลางวันกัน แล้วตอนบ่ายค่อยกลับ จะทำอย่างนี้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ทำไปเรื่อยๆจนครบ 75 จังหวัดเพื่อให้รู้ว่าแต่ละจังหวัดมีปัญหาหรือมีรูปแบบใดๆ

          รมว. มหาดไทยกล่าวว่า ขอให้ตั้งใจทำงาน วันนี้การเมืองไม่มีอะไร อยู่ครบ 4 ปีตามระบบ ข้าราชการไม่ต้องกลัวถูกโยกย้าย เมื่อตอนตนเข้ามา มีคนมาบอกให้ย้ายคนนั้นคนนี้ ตนบอกว่าย้ายได้อย่างไร ถ้าย้ายต้องย้ายทั้ง 75 จังหวัด หรือย้ายทั้งกระทรวง ขอให้ลืมเรื่องทุกอย่างแล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน อย่าระแวง การเมืองมันจบไปตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.แล้ว ไม่มีล้างบาง ไม่มีสิงห์ดำ สิงห์แดง มีแต่สิงห์เหลิม

"สิทธิชัย" ได้ใบลา "ชนม์สวัสดิ์" แล้ว

          ขณะที่นายสิทธิชัย รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายชนม์สวัสดิ์ประกาศลาออกจากผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทย ว่า ทราบเรื่องจากนายวัฒนา อัศวเหม ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 21 ก.พ. และเช้าวันที่ 22 ก.พ.ได้รับหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ โดยนายชนม์สวัสดิ์ระบุสาเหตุเพื่อให้เกิดความสบายใจและให้คดีความที่ยังมีอยู่สิ้นสุดก่อน จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

          นายสิทธิชัยกล่าวว่า การตัดสินใจลาออกครั้งนี้ไม่ได้มีแรงกดดันจากพรรคพลังประชาชน หรือกลุ่มการเมืองต่างๆในพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่นายชนม์สวัสดิ์ตัดสินใจเอง ซึ่งน่าเสียดาย เพราะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เคยเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรปราการ เมื่อลาออกแล้วพรรคจะต้องประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาว่าจะให้บุคคลใดรับตำแหน่งแทน ซึ่งมีเวลาเพราะต้องเสนอครม.อนุมัติ

"เหลิม" ฉุนถูกโยงถึง "ลูกวัน"

          ระหว่างนั้นร.ต.อ.เฉลิม รมว.มหาดไทย กล่าวขึ้นว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อแผ่นดิน ตนคงไม่วิจารณ์ เมื่อถามว่าการลาออกของนายชนม์สวัสดิ์จะกดดันนายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยเลขานุการรมว.สาธารณสุขหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่เกี่ยวกัน จริงๆแล้วคิดว่าจะไม่พูดถึง แต่ขอพูดครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วจะไม่พูดอีกว่ากรณีของนายชนม์สวัสดิ์นั้นมีคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 4 ปี จากความผิดเรื่องทุจริตเลือกตั้ง คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างอุทธรณ์ รวมทั้งมีคดีเรื่องดูหมิ่นและขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน อยู่ระหว่างพิจารณาคดี โดยหลักตามรัฐธรรมนูญให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด แต่กรณีนายวันนั้นไม่มีคดีติดตัว ไม่มีคดีใดเลย หรือก่อนหน้านี้จะเคยมีเรื่องขึ้นศาล แต่พิพากษายกฟ้อง จึงเป็นคนละกรณีกัน

          จากนั้นร.ต.อ.เฉลิมกล่าวกับผู้ว่าฯว่า ขณะนี้สื่อมวล ชนลงข่าวลูกชายนายวัฒนา อัศวเหม กับลูกชายตน กรณีนายชนม์สวัสดิ์ลาออกจากตำแหน่ง แล้วมีโทรศัพท์เข้าไปด่าครอบครัวตนตามสื่อต่างๆว่าลูกชายไม่มีสปิริต ทั้งที่นายวันไม่มีคดีอะไรติดตัว รวมทั้งหาว่าเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด ตนกลัวว่าผู้ว่าฯจะรังเกียจเพราะไม่รู้รายละเอียด อย่างนายดวง อยู่บำรุง ซึ่งเคยถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนานั้น ศาลพิพากษายกฟ้อง ไม่ใช่ยกฟ้องโดยยกประโยชน์ให้จำเลย แต่ยกฟ้องเพราะพยานบุคคลกับพยานทางวิทยาศาสตร์ไม่ตรงกัน แต่คนก็ด่ากัน แต่ขอให้ผู้ว่าฯอย่ากลัว และลังเลพฤติกรรมของตน ที่ต้องเปิดใจเพราะตนต้องหวังพึ่งพวกท่านทุกคนทำงาน

ปลัด สธ. ตั้งแถวรับ "วัน" เข้ากระทรวง

          วันเดียวกันเวลา 09.00 น.นายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยเลขานุการรมว.สาธารณสุข เข้าทำงานกระทรวงสาธารณ สุขวันแรก โดยมีน.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและข้าราชการระดับสูงรอต้อนรับ นายวันเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่าขอขอบคุณผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชา ชนที่ให้โอกาสมาทำงาน และกราบขอขอบคุณนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข ที่เมตตา ในอดีตอาจเคยทำอะไรผิดพลาด บกพร่อง ทำให้ประชาชน สื่อมวลชนไม่สบายใจ ขอใช้โอกาสนี้กราบขออภัยไว้ด้วย ให้โอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ชดเชยชดใช้สังคมด้วย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายวันพูดถึงตรงนี้ได้ยกมือไหว้ขอโทษในสภาพน้ำตาคลอเบ้า

ไม่มีความเห็น "ชนม์สวัสดิ์" ทิ้งเก้าอี้

          เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ขอลาออกจากผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทย ถือว่าสร้างความกดดันหรือไม่ นายวันกล่าวว่า ไม่เกี่ยวเพราะคน ละพรรคกัน นายชนม์สวัสดิ์อยู่พรรคเพื่อแผ่นดิน ตนอยู่พรรคพลังประชาชน ไม่มีความเห็น และไม่ได้กดดันเพราะตนไม่มีคดี ถึงแม้จะเคยมีแต่ปัจจุบันไม่มีคดีแล้ว เมื่อถามว่าจะใช้โอกาสนี้ลบล้างภาพลักษณ์ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง นายวันกล่าวว่า ทุกคนต้องมีอดีต ขอโอกาสให้ตนด้วย ส่วนภาพลักษณ์คงไม่ต้องปรับ เมื่อเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น วัยก็สอนเอง ตนเป็นคนเรียนรู้เร็ว

          ต่อข้อถามว่าบิดาให้ข้อคิดการทำงานอย่างไร นายวันกล่าวว่า พ่อเพียงแต่บอกว่าทำให้ดีที่สุด ตั้งใจทำงาน ชดเชยสังคม เมื่อถามว่ารมว.สาธารณสุขมีแนวคิดให้เป็นพรีเซ็นเตอร์เลิกเหล้าเลิกบุหรี่ นายวันกล่าวว่า ต้องหารืออีกที เพราะยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และตนก็เลิกๆหยุดๆ แต่ไม่ 100% อาจไม่เหมาะสมในจุดนี้ แต่รู้จักน้องๆดาราหลายคนที่พฤติกรรมภาพพจน์ดี น่าจะเป็นแบบอย่างได้ จะชักชวนเข้ามา ส่วนงานในกระทรวงนั้น อยู่ที่รมว.สาธารณสุขจะสั่ง ตนเป็นลูกน้องก็แล้วแต่รมว.สาธารณสุข

          ต่อข้อถามถึงการถูกโจมตีในเว็บไซต์ นายวันกล่าวว่า ชินแล้ว เป็นธรรมดาในแวดวงการเมือง ต้องโดนอยู่แล้ว ไม่สนใจ เป็นนักการเมืองต้องอดทนให้ได้ ทั้งนี้ชีวิตตนถูกกดดันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แต่มีความอดทนพอ

ถือพวงมาลัยเข้ากราบ "ไชยา"

          จากนั้นนายวันนำพวงมาลัยเข้ากราบนายไชยาที่ห้องทำงานรมว.สาธารณสุข นายไชยากล่าวกับทีมที่ปรึกษาว่า "ดารามาอยู่ เป็นไงดูแล้วหน่วยก้านดีไหม" จากนั้นนายไชยามอบนโยบายให้คณะทำงานว่า กระทรวงต้องทำงานเชิงรุก เพราะมีโรคอุบัติใหม่มากขึ้น ตนพร้อมทำงานแล้ว มีทีมที่ปรึกษา และเลขานุการครบถ้วน เชื่อว่าจะเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรให้ดีที่สุด

          "ตำแหน่งทางการเมืองไม่จีรังยั่งยืน ดังนั้นควรสร้างคุณงามความดีจะดีกว่า ผมไม่นั่งอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตเหมือนปลัดที่อีก 2 ปีก็เกษียณแล้ว คนที่จะมารับไม้ต่อจะเป็นข้อเปรียบเทียบได้ ดังนั้นจึงต้องทำสิ่งดีๆไว้เพื่อเป็นแบบอย่างในการทำงานต่อไป วันนี้ไม่มีความกดดันเพราะมาด้วยความตั้งใจจริง" นายไชยากล่าว

          นายไชยากล่าวถึงแนวคิดให้นายวันเป็นพรีเซ็นเตอร์เลิกเหล้า-สูบบุหรี่ว่า ยังไม่ได้คุยกัน รวมถึงเรื่องค่าตัวด้วย ไม่รู้ว่าค่าตัวแพงหรือไม่ เหตุที่ตั้งใจมอบงานพรีเซ็นเตอร์ให้เพราะเห็นหน่วยก้านดี มีความหล่อ สมาร์ตอยู่ระดับต้นๆ การเป็นพรีเซ็นเตอร์ต้องเลิกให้ได้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเสียภาพพจน์ แต่การเลิกเหล้า-บุหรี่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เหมือนเล่นฟุตบอลต้องฟิตซ้อม ไม่เช่นนั้นก็แพ้ อย่างตนสูบบุหรี่ พยายามลด เลิก ทุกวันนี้หันมาพึ่งหมากฝรั่งอยู่ จนติดหมากฝรั่งแทน ต้องยอมรับว่าคนที่เลิกบุหรี่ได้ถือว่าเก่ง

รมช.มอบงานเดินตาม-จัดเอกสาร

          ด้านนายชวรัตน์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหน้านายวัน รู้จักเพียงบิดานายวันเท่านั้น ส่วนการมอบหมายงานนั้น เบื้องต้นคงให้ฝึกงาน ทำหน้าที่ติดตามรมต. เพื่อจัดเอกสารการประชุมและปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายก่อน 3 เดือน ต่อข้อถามว่ากระแสสังคมมองนายวันเชิงลบนั้น นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่วิตกกังวล เพราะนายวันทำงานให้กระทรวง ไม่ได้ทำงานให้ตน ฉะนั้นการทำงานจะเป็นเครื่องตัดสินได้ดีที่สุด

          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำงานวันแรกของนายวันว่า เจ้าหน้าที่จัดโต๊ะทำงานใหม่ ผู้ติดตามช่วยกันดูทิศทางที่เป็นสิริมงคล โดยย้ายโต๊ะทำงานหันหน้าออกประตู เพราะเป็นทิศที่ดี จากนั้นนายวันและผู้ติดตามไปรับประทานอาหารร่วมกันที่โรงอาหารใต้อาคารสำนักงานปลัดกระทรวง ร่วมกับข้าราชการ โดยสั่งข้าวมันไก่เมนูที่ชอบรับประทาน

"เลี้ยบ" เปรียบตัวเอง "ลี้กิมฮวง"

          ที่ทำเนียบรัฐบาล น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเว็บไซต์ไฮ-ทักษิณวิจารณ์เรื่องในพรรคว่า เรื่องนี้ตนพยายามไม่สนใจ ไม่ขอรับรู้อีกต่อไป เพราะถึงแม้จะเป็นเลขาธิการพรรคแต่ไม่มีใครวิจารณ์หรือพูดประเด็นนี้ให้ฟัง

          "ผมตอนนี้เหมือนลี้กิมฮวง ที่ไม่มีกลุ่ม ไม่มีก้อน อยู่คนเดียวไม่รู้จะพูดกับใคร แม้ว่าในพรรคจะมีกลุ่มมีก๊วนก็ตาม และผมไม่มีส.ส.อีสานใต้คนใดมาเข้ากลุ่มอย่างที่มีข่าว เพราะตอนนี้เหมือนอยู่อย่างโดดเดี่ยว" น.พ.สุรพงษ์กล่าว

          จากนั้นเวลา 13.45 น. น.พ.สุรพงษ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงปัญหาภายในพรรคจากเว็บไซต์ไฮ-ทักษิณว่า คงไม่มี เพราะไม่ได้เป็นเว็บไซต์ของพรรค เป็นความเห็นของผู้เขียนบทความ ยืนยันว่าไม่ใช่ความเห็นคนในพรรค ส่วนการแต่งตั้งที่ปรึกษาและเลขาฯรมต. รวมถึงประธานกรรมาธิการ ต้องหารือกันภายในพรรค ยอม รับว่าพรรคมีส.ส.จำนวนมาก จึงมีผู้เสนอตัวทำงานมาก กรรมการบริหารพรรคมีหน้าที่ตัดสินใจและถือเป็นที่สุด

แจงเหตุ พปช.สวนกระแสบ่อยครั้ง

          ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจึงเลือกคนที่สังคมมีความคลางแคลงใจเข้ามาทำงานทั้งที่ตอนหาเสียงพรรคมีบุคลากรมากมาย น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า การตัดสินใจมาจากที่ประชุมพรรค บางครั้งตนก็เห็นไม่ตรงกับที่ประชุม แต่ต้องเคารพการตัดสินในเสียงข้างมาก ต้องเคารพมติ เมื่อถามว่านายกฯเคยระบุว่าตำแหน่งต่างๆทบทวนได้ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า แม้แต่นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคก็มีเพียงเสียงเดียว ไม่ได้หมายความว่าหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรคตัดสินใจอย่างไรต้องเป็นไปตามนั้นทั้งหมด ต้องพูดคุยโดยใช้เหตุผล เมื่อมีมติอย่างไรต้องยอมรับ

          ต่อข้อถามว่ามีเหตุการณ์กระทบความรู้สึกของสังคมบ่อยครั้ง เกรงจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า คิดว่าพรรคต้องรับฟังข้อเสนอแนะของสังคมเพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ ยอมรับว่าการตัดสินใจหลายครั้งมีความผิดพลาด และต้องนำไปแก้ไขในโอกาสต่อไป เมื่อถามว่าก่อนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินการใดๆควรคำนึงถึงหน้าตาของรัฐบาลหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้พรรคร่วมเป็นรัฐบาลแล้วต้องคำนึงถึงการทำงานเป็นทีม ประสานกันเป็นเอกภาพ ซึ่งพูดคุยกันหลายครั้งว่าต้องให้สังคมยอมรับ แต่ต้องยอมรับว่าพรรคการเมืองปัจจุบันมีความอ่อนแอ ไม่สามารถสร้างพรรคที่เข้มแข็งได้ภายใต้กติกาปัจจุบันซึ่งอยากจะแก้ไขในโอกาสต่อไป

อ้างโพลไม่อยากให้ชำระ 6 ต.ค.

          เมื่อถามว่าเหตุใดจึงไม่นำคนที่มีความสามารถมีความเหมาะสมมาช่วยงาน น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า การ เมืองมีข้อจำกัด แต่หวังว่าระบบการเมืองภายใต้รัฐ ธรรมนูญฉบับนี้จะได้รับการแก้ไขต่อไป เมื่อถามว่านายชนม์สวัสดิ์ประกาศไม่รับตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทย เพราะกระแสสังคมไม่ยอมรับ จะนำมาเป็นเงื่อนไขเพื่อแก้ไขในครั้งนี้เลยหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดการตัดสินใจ แต่การรับฟังกระแสสังคมเป็นเรื่องดี ซึ่งจะนำมาพิจารณาในส่วนของพรรคพลังประชาชนด้วย ต้องเรียนรู้ข้อดีของคนอื่นเพื่อปรับปรุง บางเรื่องทำได้เร็วก็ควรทำทันที

          ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี 6 ต.ค.2519 ต้องปรับปรุงด้วยหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องเศร้าสลดของประวัติศาสตร์ ไม่อยากเห็นโศกนาฏกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก มีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้พูดคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นช่วงเย็นวันที่ 5 ต.ค.ถึงเช้ามืดวันที่ 6 ต.ค.2519 เพราะมีรายละเอียดมาก ในฐานะที่ตนเป็นนักศึกษาและอยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น ก็รู้ในมุมมองของนักศึกษา และอยากเห็นการรวบรวมข้อมูล แต่ไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นทางการเมือง ตนอ่านผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่เอแบคโพลจัดทำ ปรากฏว่า กว่าร้อยละ 30 ไม่อยากเห็นการชำระประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนหนึ่งเบื่อหน่าย ไม่อยากเห็นความขัดแย้งในสังคมเกิดขึ้นอีก แต่หากจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาหารือต้องเป็นไปในทางสร้างสรรค์ เพื่อเป็นบทเรียนในการป้องกันปัญหา

หากผู้ที่ทำผิดพลาดขอโทษก็ดี

          ต่อข้อถามว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดการโต้เถียงเพราะมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ และนายกฯไม่ยอมตอบให้ชัดเจน น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมุมมองของใคร ในความเห็นของผู้สื่อข่าวก็เป็นเรื่องหนึ่ง ญาติผู้เสียชีวิตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ข้อมูลที่นายกฯมีอาจเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ หากจะรวบรวมต้องมีสติและเป็นกลาง มาดูว่าใครผิดตรงไหนบ้าง ตนเชื่อว่าไม่ได้มีคนผิดคนเดียว เมื่อถามว่าแต่ฝ่ายค้านยังไม่ยอมยุติเรื่องนี้ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ฝ่ายใดจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ต้องตั้งใจดี ไม่ให้นำมาเป็นประเด็นหรือเครื่องมือทางการเมือง เพราะประชาชนจะไม่เห็นด้วยแน่นอน

          เมื่อถามว่าเรื่องนี้นายกฯหรือบุคคลอื่นต้องออกมากล่าวคำขอโทษหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าหากข้อมูลชัดเจนและผู้ที่มีความผิดพลาดขณะนั้นออกมาขอโทษก็จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมองจากทุกมุม ซึ่งในมุมของนักศึกษา เชื่อว่ายังไม่ครบถ้วน อยากจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน นายกฯเองยังบอกว่าอยากจะได้ข้อมูล ซึ่งตนเห็นว่าฝ่ายที่เป็นกลาง ไม่ว่าสภาฯหรือบุคคลอื่น น่าจะรวบรวมข้อมูลเพื่อให้เป็นกลางก็จะเป็นเรื่องที่ดี

"สมชัย" อัดอนุฯสรุปมั่วสอบ "ยงยุทธ"

          ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงผลสอบสวนกรณีทุจริตเลือกตั้งจ.เชียงรายของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนฯว่า เท่าที่ดูผลสรุปสำนวนฉบับที่นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน เสนอมา เห็นว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากสำนวนที่สันติบาลทำ เพราะนำสำนวนที่สันติบาลทำไว้แล้วมาถามว่าพยานจะยืนยันหรือไม่ ซึ่งพยานบางส่วนที่เคยให้การว่านายยงยุทธทำผิดกลับคำให้การ แต่บางคนยังยืนยันเหมือนเดิม แต่ก็คนเดียว

          ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้กำนันซึ่งเป็นพยานส่วนใหญ่ยืนยันว่าได้รับเงิน 2 หมื่นบาทจากนายยงยุทธจริง นายสมชัยกล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ไปตีกันเสียเรื่องใหญ่โต ตีกันจนเละเทะ พูดไปเดี๋ยวหาว่าสำนวนรั่ว ไม่อยากพูด อย่างซีดีที่ว่าเป็นหลักฐานนั้น มันไม่จำเป็น ถ่ายหรือไม่ถ่ายมาก็ได้ ไม่จำเป็น ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ไปพูดกันจนเป็นเรื่องใหญ่โต พูดกันว่าจัดฉาก มันอาจจะจัดบ้าง แต่ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญที่ต้องพิจารณา ดังนั้นการจะให้ส่งซีดีไปให้พฐ. ตรวจสอบนั้น จึงไม่จำเป็นเพราะมีตั๋วเครื่องบิน และก็ยอมรับว่าได้ไปพูดคุยกันจริง แต่ไม่ได้นัดหมายไว้ก่อน สาระสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ไปนั่งพูดนั่งวิจารณ์ มันไม่ใช่

          นายสมชัยกล่าวอีกว่า พยานปากสุดท้ายที่นายยงยุทธขอนำมาสืบเพิ่มเติมซึ่งเป็นตำรวจนั้น ไม่ทราบว่าจนถึงขณะนี้คณะอนุกรรมการสอบเสร็จหรือยัง แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะนำมาสอบหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และระหว่างที่กกต.ยังไม่พิจารณาสำนวนนี้ นายยงยุทธมีสิทธิ์ทำหนังสือขอนำพยานมาสอบเพิ่มเติมได้ แต่ขึ้นกับกกต.ว่าจะพิจารณาให้แค่ไหน อย่างไร

"อนุกรรมการสรุปผลสอบสวนมาแล้วมันก็ไม่สำคัญ เพราะบางทีสรุปมั่วๆก็มี" นายสมชัยกล่าว

          นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนนายยงยุทธว่า กกต.จะพิจารณาเรื่องนี้วันที่ 26 ก.พ. ทั้งนี้กกต.ตั้งคณะอนุกรรม การสอบสวนนายยงยุทธอีกหนึ่งสำนวนกรณีหมิ่นเจ้าหน้าที่ทหาร แต่คงไม่นำเรื่องนี้มาพิจารณาพร้อมกัน

"ยุทธ" สีเทาแต่มีสิทธิมีตำแหน่ง

          นายสมชัยกล่าวต่อว่า แม้ที่มาของสำนวนทุจริตจ. เชียงรายจะเหมือนไม่ถูกต้อง เพราะสอบสวนครั้งแรกเป็นคณะกรรมการสอบสวนของสันติบาล แต่เมื่อกกต. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนใหม่ โดยมีนายสุวิทย์เป็นประธาน ถือว่าการสอบสวนสำนวนนี้ถูกต้องตามระเบียบสืบสวนสอบสวนแล้ว ส่วนที่พรรคพลังประชา ชนระบุจะร้องให้คดีทุจริตเลือกตั้งที่สันติบาลเป็นผู้ดำเนินการเป็นโมฆะนั้น ยอมรับว่าในชั้นแรกให้สันติบาลดำเนินการ แต่ต่อมาตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบ สวนที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งมีหลายสำนวนที่ดำเนินการเช่นนี้ ไม่ใช่ทุกสำนวนเป็นการดำเนินการของสันติบาล ยืนยันว่าไม่ได้สนใจสำนวนใดสำนวนหนึ่งโดยเฉพาะ

          นายสมชัยกล่าวว่า คดีนี้บางคนบอกว่าทำไมกกต. ไม่รีบสอยลงมา นั่นมองเอาความสะใจของแต่ละคน ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร คนนี้เมื่อก่อนอาจจะไม่ค่อยดี สีเทา บัดนี้จะทำความดีเสียหน่อย จะไม่ให้โอกาสหรือ ถ้าทำความดี อาจทำได้ดีกว่าคนอื่นก็ได้ เพราะรู้ว่าความชั่วเป็นอย่างไร และจะไม่ทำอีก บางคนไม่เคยทำความชั่ว ไม่รู้ แยกไม่ถูก ใช่ว่าจะดีกว่าเสมอไป นายยงยุทธ เรารู้ว่าเป็นสีเทาแต่มีสิทธิ์จะมีตำแหน่งเป็นอะไรต่างๆ แต่มาบอกว่าให้กกต.เอาสีเทาออกไป ซึ่งทำไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ อยากถามว่าทำไมพวกคุณไม่เขียนกฎหมายห้ามเอาไว้ จะได้หมดปัญหา เราเป็นกกต. ขนาดอยู่ตรงกลางยังโดนเสียน่วม

ไร้สาระสั่งสอบ พปช. นอมินี ทรท.

          "กกต.จะตัดสินสำนวนใดต้องดูให้รอบคอบ ต้องนำกฎหมายมาประกอบว่าผิดตรงไหน เหมือนกับองคุลิมาลฆ่าคนตั้ง 999 คน แต่พอครั้งที่พัน ไม่ทำก็ไปกล่าวหาว่า เป็นโจร เอาหินไปขว้าง จนองคุลิมาลบรรลุธรรม ดังนั้นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมจะทำให้ประชา ชนลุกฮือ ทำให้ประเทศชาติไม่สงบสุข บางครั้งคนอดอยากยังทนได้ แต่ถ้าถูกรังแกมันทนไม่ได้ คดีคุณยงยุทธหากพิจารณาแล้วไม่มีเหตุสำคัญถึงขนาดจะต้องเลือกตั้งใหม่ เราก็สั่งให้ยุติเรื่องก็ได้ อย่าเอาภาพมัวๆของเขาผูกกับกฎหมายแล้วไปตัดสินเขา แต่ต้องขึ้นกับที่ประชุมกกต.ว่าจะเห็นอย่างไร" นายสมชัยกล่าว และว่า สำนวนร้องคัดค้านทุจริตเลือกตั้งนั้น มีจำนวนมากที่กกต.ยังไม่ได้พิจารณา เพราะเดิมมีไม่กี่ร้อยเรื่อง ขณะนี้เข้ามาอีก 400 กว่าเรื่องที่เข้ามา

          นายสมชัยกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ที่มีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธานว่า ไร้สาระ บางคนบอกว่าไม่รู้จะตั้งกรรมการสอบทำไม เปิดกฎหมายเท่าไร มันไม่มีคำว่านอมินี เมื่อถามว่าแสดงว่าผลสรุปมีแนวโน้มว่าไม่ผิดใช่หรือไม่ นายสมชัยหัวเราะก่อนกล่าวว่า กกต.ยังไม่ได้ประชุมเลย

ทรท. เป็น พปช. มีสิทธิตามกฎหมาย

          "สมมติ ผมเป็นเมืองๆหนึ่งมีเงินทุน แล้วผมเอาเงิน ทุนทุกอย่างไปให้บุคคลหนึ่งที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง เมื่อเขามีเงินมีทุน เขาก็เป็นใหญ่ในเมืองนั้น ผมสามารถควบคุมเขาได้ และผมมีอำนาจในเมืองนั้น แต่กฎหมายของเราเขียนห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติมาช่วยหาเสียง หรือเอาทุนจากต่างชาติมาใช้หาเสียง แต่ไม่ได้ห้ามคนไทย เพราะตามหลักของรัฐธรรมนูญแล้วคนไทยต้องเท่าเทียมกัน โดยหลักแล้วเขาคงรักเมืองไทย เพราะในกฎหมายหากเป็นชาวต่างชาติทำผิดกฎหมายไทย สามารถเนรเทศออกนอกประเทศได้ แต่นี่เป็นคนไทยจะไปเนรเทศคงไม่ได้ ถ้าผิดต้องมาขึ้นศาลไทย จะไปด่าว่าเนรคุณหรือไม่เนรคุณเขาก็คือคนไทย" นายสมชัยกล่าว

          นายสมชัยกล่าวด้วยว่า ตามหลักต้องเข้าใจว่าพรรคพลังประชาชนก็คือพรรคไทยรักไทยเดิม แต่เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ทำได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองควบคุม คนเหล่านี้ถือเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร แต่เมื่อมีกฎหมายพรรคการเมือง ก็รวมเอาคนที่มีความคิดเดียวกันมาดำเนินกิจการทางการเมือง และการที่มีกฎหมายตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิด สมาชิกที่เหลืออยู่จะตั้งบุคคลขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารพรรคได้ แต่พรรคไทยรักไทยอยู่ไม่ได้เพราะพรรคถูกยุบแล้วใช้ชื่อเดิมไม่ได้ เลยย้ายไปอยู่พรรคพลังประชาชน ที่จริงแล้วชื่อคนชื่อพรรคไม่สำคัญเพราะเป็นนามธรรม ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่สมาชิกพรรคและอุดมการณ์ของพรรคยังเหมือนเดิม

ทุกพรรคแบ่งเค้กปธ. กมธ.

          เมื่อเวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ผู้แทนพรรคการเมืองประชุมเพื่อพิจารณาคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาผู้แทนฯ โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 เป็นประธาน จากนั้นนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยภายหลังประชุมกว่า 4 ช.ม.ว่า ทุกพรรคส่งตัวแทนที่มีอำนาจเต็มมาแสดงความคิดเห็น โดยเสนอให้ทุกพรรคเลือกกรรมาธิการที่ต้องการ ซึ่งพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์เลือกคณะกรรมาธิการซ้ำกัน 6 คณะ เมื่อไม่ได้ข้อยุติ ประธานที่ประชุมจึงใช้วิธีจับสลาก ได้ผลสรุปดังนี้

          พรรคพลังประชาชน 14 คณะ ได้แก่ 1.คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนฯ 2.คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน 3.คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ 4.คณะกรรมาธิการการทหาร 5.คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น 6.คณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด 7.คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน 8.คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา 9.คณะกรรมาธิ การการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 10.คณะกรรมาธิ การการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 11.คณะกรรมาธิ การการสาธารณสุข 12.คณะกรรมาธิการสื่อสารมวลชนและข้อมูลข่าวสาร 13.คณะกรรมาธิการการคมนาคม และ14.คณะกรรมาธิการการแรงงาน

          พรรคประชาธิปัตย์ 11 คณะ 1.คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน 2.คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรีผู้สูงอายุและคนพิการ 3.คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค 4.คณะกรรมาธิการการตำรวจ 5.คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ 6.คณะกรรมาธิการติดตามผลการ ปฏบัติตามมติของสภาผู้แทนราษฎร 7.คณะกรรมาธิ การการปกครอง 8.คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ 9.คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ 10.คณะกรรมาธิการการศึกษา และ11. คณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม

          พรรคชาติไทย 2 คณะ 1.คณะกรรมาธิการการ เกษตรและสหกรณ์ 2.คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว, พรรคเพื่อแผ่นดิน 2 คณะ 1.คณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม และ2.คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม, พรรคมัชฌิมาธิปไตย 1 คณะ คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คณะ คณะกรรมาธิการการพลังงาน และพรรคประชาราช 1 คณะ คณะกรรมาธิการการกีฬา

รช. ตั้งเลขาฯติ้ง-ปธ. กมธ. พลังงาน

          รายงานข่าวจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เปิดเผยว่า พรรคแต่งตั้งนายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผอ.องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ รับหน้าที่เลขานุการรมว.พลังงานของพล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ ซึ่งยังอยู่ระหว่างลาออกจากตำแหน่งผอ.องค์การคลังสินค้า ส่วนประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนฯ มอบให้น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.นครราชสีมา พรรครวมใจไทยฯ รับตำแหน่งนี้

"ยุทธ" แจงข่าวไปพบ "แม้ว" ที่จีน

          ที่รัฐสภา นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนฯ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นกระทู้ถามนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯถึงความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 ว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิที่ทำได้ เมื่อถามว่ากระทู้ถามของพรรคฝ่ายค้านจะเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลหรือไม่ นายงยุทธกล่าวว่า ต้องถามรองประธานสภาฯที่ได้แบ่งงานรับผิดชอบไปแล้ว ถ้าอยู่ในเกณฑ์หรือเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจประชาชนสามารถบรรจุเป็นวาระได้ เรื่องอะไรเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอยู่ในหลักเกณฑ์ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งก็ทำได้ แต่ถ้าที่ไม่อยู่ในเกณฑ์บริหารราชการแผ่นดินก็มาดูกัน ส่วนจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของนายกฯหรือไม่ ไม่ขอขยายความต่อ การทำหน้าที่ประธานรัฐสภาคือรับหรือไม่รับเท่านั้น ส่วนทัศนคติต่างๆเป็นหน้าที่ของผู้ฟังและประชาชน

          เมื่อถามถึงรายงานข่าวจากกกต.ที่จะตั้งคณะกรรม การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผอ.สำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม ยื่นคำร้องกรณีนายยงยุทธปราศรัยว่าถูกนายทหารและกองทัพคุกคาม เป็นเหตุให้กองทัพเสื่อมเสีย นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ขอพูดเพราะโดนหลายข้อกล่าวหา เป็นที่รู้กันว่าตนเป็นเป้า หากบ้านเมืองสงบแล้ว จะไม่มองไปข้างหลัง มองไปแต่ข้างหน้า เท่าที่ทราบมีอีก 8 ข้อกล่าวหาที่ต้องชี้แจงไปเรื่อยๆ

          นายยงยุทธกล่าวถึงข่าวจะเดินทางไปพบพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศจีน เพื่อหาทางออก หากกกต.ให้ใบแดงว่า "เป็นเพียงกระแสข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เท่านั้น เป็นข่าวปล่อย ถ้าจะไปวันไหนแล้ว ผมจะโทร.บอก จะให้โทรศัพท์ไปแจ้งที่ไหน"

บัวแก้วพิจารณาคืนพาสปอร์ตแดง

          รายงานข่าวระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการคืนหนังสือเดินทางการทูต(พาสปอร์ตแดง) แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยกรมการกงสุลรับผิดชอบพิจารณาในข้อกฎหมายและระเบียบ ขณะนี้ถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงผู้ต้องหาและยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงไม่ขัดกับระเบียบที่จะคืนพาสปอร์ตแดงให้ ที่กระทรวงการต่างประเทศถอนพาสปอร์แดงของพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว เพราะเป็น นโยบายของรัฐบาลที่แล้ว แต่เมื่อนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ขอให้พิจารณาเรื่องนี้ทางกระทรวงก็ต้องพิจารณา ทั้งนี้กระทรวงจะไม่แถลงผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการ เพราะถือว่าเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตามหากศาลพิจารณาคดีพ.ต.ท.ทักษิณว่ามีความผิดและไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยได้ก็ไม่เกี่ยวกับพาสปอร์ตแดง และที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศไม่เคยถอนพาสปอร์ตแดงกับอดีตนายกฯคนใดเลยยกเว้นพ.ต.ท.ทักษิณ

"อดิศร" หนุนบี้ "หมัก" ขอโทษ 6 ต.ค.

          นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตคนเดือนตุลาฯ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์เตรียมตั้งกระทู้ถามนายสมัครที่ระบุว่าเหตุการณ์ 6 ต.ค. เห็นผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวว่า 6 ต.ค.เป็นประวัติศาสตร์ที่อัปยศที่สุด เป็นข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีผู้บริสุทธิ์สูญเสียจำนวนมาก ส่วนใครจะรับผิดชอบอย่างไรต้องเป็นไปตามประวัติศาสตร์ ขอเรียกร้องชำระประวัติศาสตร์ แทนที่จะมาพูดกันรายวันเช่นนี้ โดยเฉพาะนายสมัครที่พูดว่าเห็นคนตายเพียงคนเดียวถือว่าคลาดเคลื่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนตายคนเดียว

          ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าปัญหาจะบานปลายหรือไม่ เพราะล่าสุดองค์การนักศึกษาธรรมศาสตร์(อมธ.)เรียกร้องนายสมัครขอโทษและเลิกบิดเบือนประวัติศาสตร์ นายอดิศรกล่าวว่าตรงนี้ต้องขอบคุณองค์การต่างๆที่เรียกร้องเช่นนั้น ทำถูกต้องแล้ว เพราะหากผู้นำทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องออกมาขอโทษ ตนยืนยันได้ว่าเกิดเหตุรุนแรงจริงๆ มีการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

          "คนอื่นไม่พูดเรื่องนี้ไม่เป็นไร แต่ผมในฐานะคนเดือนตุลาฯ ถ้าไม่มี 6 ตุลาฯก็ไม่มีอดิศร วันนี้ผมไม่เห็นด้วยที่นายสมัครพูดกรณี 6 ตุลาฯเช่นนี้ เพราะการแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องมองรอบด้าน ขณะที่ฝ่ายค้านเองต้องเตือนว่าอย่าฉกฉวยโอกาสทางการเมือง ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยพูด ไม่มีความคิดอยู่ในหัวที่จะชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลาฯ แต่กลับพยายามใช้ประเด็นนี้โค่นล้มรัฐบาล ตรงนี้ต้องเตือนว่าอย่าทำให้ประวัติศาสตร์มัวหมอง" นายอดิศรกล่าว

          นายอดิศรกล่าวด้วยว่า หากผู้นำประเทศมีพฤติกรรมไม่เอียงหูฟังใครเลยอย่างนี้จะเป็นผู้นำได้อย่างไร เหตุการณ์นี้จะสงบได้หากนายกฯพูดอะไรผิดต้องรู้จักขอโทษ อย่าอ้างอายุความมาพูดเรื่อยเปื่อย ความสูญเสียของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม ถ้านายสมัครบอกว่าเห็นคนตายเพียงคนเดียว ตนอยากบอกว่าเป็นผู้สูญเสียคนหนึ่ง เพราะน้องชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ต.ค. ถามว่าใครรับผิดชอบ

คตส. เร่งปิดคดี "หมัก" รถดับเพลิง

          วันเดียวกันนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของกทม. กล่าวถึงนายสมัคร นายกฯ ประกาศว่าถ้าไม่บริสุทธิ์จริงไม่สามารถเดินมาได้ถึงขนาดนี้ว่า ความจริงอยากจะเร่งสรุปคดีนี้ แต่มันมีอาถรรพ์ ทำงานมาตั้งแต่อายุ 27 ปีคดีนี้ยากที่สุด แต่จะพยายามทำงานเต็มที่ คงสรุปไม่ทันเดือนมิ.ย. เพราะต้องรื้อสอบสัญญาในส่วนของผู้ขายใหม่ ระหว่างนี้ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือกระทรวงการต่างประเทศ ให้ติดต่ออดีตเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยตอบคำถามที่อนุกรรมการไต่สวนฯต้องการทราบ และนายสมัครก็อ้างอดีตทูตคนนี้เป็นพยานด้วย

          ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการคตส. ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนหวยบนดินเปิดเผยว่า ล่าสุดอัยการสูงสุดส่งสำนวนกลับมาคตส.แล้ว ส่วนความคืบหน้าอยู่ระหว่างร่างสำนวนเสนอที่ประชุมใหญ่คตส. ฟ้องผู้เกี่ยวข้องต่อศาลเองวันที่ 25 ก.พ. จากนั้นทีมทนายความจะนำมาปรับสำนวนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเสนอต่อที่ประชุมคตส.อีกครั้งวันที่ 3 มี.ค. เพื่อให้มีมติส่งสำนวนฟ้องต่อศาลต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีหวยบนดินที่เป็นรมต.ร่วมรัฐบาลนายสมัคร มีน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายอนุรักษ์ จุรีมาศ และนางอุไรวรรณ เทียนทอง

"สพรั่ง" ย้ำตอนนี้ไม่รู้จัก "บิ๊กบัง"

          วันเดียวกันพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตผู้ช่วยเลขาธิการคมช. ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้เปลี่ยนสีหรือมีลับลมคมใน ยังเป็นตัวของตัวเอง และมีเหตุผล ที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้กันในเกม ไม่ใช่ผลประโยชน์ขัดกันเป็นส่วนตัว ทุกอย่างยังเป็นสพรั่งคนเดิม

          เมื่อถามว่าไม่มีปัญหากับพ.ต.ท.ทักษิณเป็นการส่วนตัวใช่หรือไม่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ไม่ได้สรรเสริญเยินยอใคร เมื่อพรรคพลังประชาชนเข้ามา และไม่เอาความดีใส่ตัวเอาความชั่วใส่คนอื่น เมื่อถามถึงคำให้สัมภาษณ์ที่ว่านักการเมืองบางคนเลว และคนใกล้ชิดทำให้เสียหายหมายถึงใคร พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า เป็นอีกบทเรียนที่ทำให้ผู้ใหญ่ในอดีตเสียไป ไม่ได้เจตนาสื่อถึงใคร ที่ผ่านมาสถานการณ์ขณะนั้นเป็นความขัดแย้งกันก่อนทหารเข้ามา

          เมื่อถามว่ายังยืนยันว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ไม่พูดถึงชื่อใคร แต่พูดถึงความเลว ความเลวไปอยู่ในตัวใครคนนั้นก็เลว ตัวเองไม่ใช่ศาล แต่ถ้าตัวเองเปลี่ยนสีก็ไร้ค่า น่าขยะแขยง ที่ผ่านมาไม่เสียใจกับการปฏิวัติ ไม่กลัวถูกเช็กบิล ไม่มีอะไรต้องกลัว

          เมื่อถามถึงท่าทีต่อพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ต่างคนต่างอยู่ เหมือนคนไม่เคยรู้จัก เหมือนเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันวันแรก เดินสวนกันไม่ทักทาย ความรู้สึกเป็นแบบนั้น

"หมัก" เข้าทบ.ปิดห้องคุย "บิ๊กป๊อก"

          เวลา 17.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ส.ส. พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และทูตทหารประเทศต่างๆ ตรวจเยี่ยมและชมการฝึกแก้ปัญหาก่อการร้ายสากล พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า การฝึกครั้งนี้มีผู้แทนหน่วยราชการต่างๆ และผู้ช่วยทูตทหารจาก 21 ประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์

          ผู้สื่อข่าวถามว่าการฝึกครั้งนี้เพื่อเตรียมรับการกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ไม่ใช่ การฝึกครั้งนี้เพื่อต่อต้านก่อการร้าย ไม่ได้เน้นตัวบุคคล เมื่อถามว่าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารหากไม่ลงตัวจะเกิดปัญหาหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ตามหลักในตำราระบุว่า ผู้นำที่มีปัญหากับทหาร คือผู้นำที่มีปัญหา เพราะทหารปกครองง่ายและมีวินัยที่สุด และฝึกมาให้จงรักภักดีต่อผู้บังคับบัญชา เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้จะเข้าตำราผู้นำมีปัญหากับทหารหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ไม่มี เพราะทุกคนเข้าใจดีและมีความหวังดี เมื่อถามถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯและรมว.กลาโหม หารือกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะอยู่นอกกรอบการแถลงข่าวต้านการก่อการร้ายสากล

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. นายสมัครหารือเป็นการส่วนตัวกับพล.อ.อนุพงษ์ที่กองทัพบก นาน 2 ชั่วโมงครึ่ง


ข้อมูลและภาพประกอบจาก

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1104

แสดงความคิดเห็น โดย กรรมกรข่าว IP: Hide ip , วันที่ 23 ก.พ. 51 เวลา 10:00:50
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี