หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ยึด'ราชดำเนิน'ปักหลักสู้'

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ยึด'ราชดำเนิน'ปักหลักสู้'
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 27 พ.ค. 51 เวลา 10:36:14 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

ม็อบพันธมิตรฯ ยึดถนนราชดำเนินนอก ปักหลักชุมนุมแบบสันติด้านแกนนำไล่บี้ ยื่นหนังสือถอดถอน ปธ.สภา-ส.ส.ส.ว.มั่นใจภายในสัปดาห์นี้ล่ารายชื่อครบ 2 หมื่นคน "บักใส"ขู่ตำรวจไม่จับกุมพวกก่อกวน ระวังลงเอยแบบ “โอ๋ สืบ 6” ส่วน “สพรั่ง” ออกโรงแล้ว โผล่ฮึ่ม ๆ ไม่รับประกันการปฏิวัติ ระบุหากบ้านเมืองเกิดวิกฤติ ทหารคงอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ขณะที่ “บิ๊กป๊อก” ยืนยันไม่ได้สั่งเตรียมพร้อม “รอง ผบ.ตร” แจงเหตุห้ามเคลื่อนขบวน หวั่นตกเป็นเหยื่อมือที่ 3 สั่งควานหาตัวกลุ่มก่อกวนแล้ว เผยยอดผู้บาดเจ็บการปะทะกว่า 30 คน “นายกฯ สมัคร” อัดยับทำบ้านเมืองย่ำแย่ แต่ยังไม่คิดใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง อ้างไม่อยากโดนชี้หน้าเผด็จการ “สิงห์เหลิม” ลุยแจ้งความเล่นงาน “สนธิ” ปราศรัยหมิ่นประมาท พร้อมส่งทนายความตามฟ้องซ้ำที่ศาลจังหวัดเชียงราย “สุทิน” ปูดข่าว ลอบสังหาร “สนธิ-จำลอง-สุริยะใส” เตือนไม่จำเป็นอย่าออกต่างจังหวัดเด็ดขาด ส่วนตลาดหุ้นผวาปรับตัวลดลง หวั่นทัวริสต์เผ่นหนี

ภายหลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย 5 แกนนำคือนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ได้นัดรวมพลใหญ่ที่บริเวณอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย ช่วงบ่ายวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันคัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 พร้อมเรียกร้องให้ถอนญัตติการแก้รัฐธรรมนูญออกจากสภา จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ทางแกนนำเริ่มเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมมุ่งหน้าไปทำ เนียบรัฐบาลจึงทำให้เกิดการปะทะกับฝ่ายคัดค้านที่พยายามติดตามมาบริเวณท้ายขบวน โดยมีการไล่ขว้างปาสิ่งของทั้งก้อนอิฐไม้ขวดใส่กันอย่างดุเดือดจนบาดเจ็บหัวร้างข้างแตกกันไปทั้งสองฝ่ายเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.สั่งระดมกำลังตำรวจปราบจลาจล และ ตชด. มาสกัดกั้นเอาไว้บริเวณสะพานมัฆวานไม่ยอมให้ผ่านเด็ดขาดพร้อมขอให้สลายตัว สุดท้ายทางแกนนำเลยตัดสินใจปักหลักอยู่บริเวณ ถนนราชดำเนินนอก หน้าอาคารสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (ยูเอ็น)

ปักเต็นท์ยึดถนนราชดำเนิน

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ภายหลังกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ชุมนุมยืดเยื้อมาทั้งคืน เหลืออยู่บริเวณหน้าเวทีใหญ่ เพียงประมาณ 500 คน ปักหลักกันอยู่ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ บ้างก็กระจัดกระจายหลบนอนกันอยู่ใต้ต้นมะขามตามถนนราชดำเนินนอกไล่ลงไปจนถึงสี่แยก จปร. โดยมีกำลังตำรวจ และหน่วยปราบจลาจลบล็อกไม่ให้เคลื่อนออกไปไหน จากนั้นบรรดากองทัพธรรมเริ่มทยอยขนข้าวของอุปกรณ์เต็นท์ใหญ่มาตั้งเรียงรายเต็มถนนราชดำเนินนอกเพื่อหุงหาอาหารให้ผู้ชุมนุมรับประทานเอาแรงกัน นอกจากนี้มีการนำเต็นท์ขนาดเล็กประมาณ 30 เต็นท์มาตั้งกางไว้บนถนนเพื่อปักหลักประท้วงอยู่บนถนน

“มหา”ยันยึดหลักชุมนุมสันติ

พล.ต.จำลอง ประกาศว่าจะชุมนุมกันยืดเยื้อแบบไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และได้ข้อมูลมาด้วยว่า รัฐบาลจะใช้กฎหมาย กอ.รมน. จับกุม 5 แกนนำไปดำเนินคดีจึงอยากฝากไปถึง พล.ต.ท.อัศวิน ว่ารัฐบาลนี้อายุสั้นระวังรัฐบาลหน้าจะไม่เอาและขอตำหนิการทำงานของตำรวจในการควบคุมความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมที่ไม่ดำเนินการกลุ่มที่ออกมาปั่นป่วนการชุมนุม อีกทั้งยังมายับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมไปหน้าทำเนียบจึงส่งผลทำให้การจราจรติดขัด ทั้งนี้การชุมนุมจะยืดเยื้อต่อไปเป็นไปตามมติของผู้ชุมนุมที่ต้องการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนถึงที่สุด การชุมนุมนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ที่ให้ประชาชนมีหน้าที่พิทักษ์ชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ขอยืนยันว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสันติ

ชาวบ้านด่ายับจราจรติดขัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการปักหลัก ชุมนุมปิดถนนราชดำเนินนอกตั้งแต่สี่แยก จปร. ไปจนถึงเชิงสะพานมัฆวาน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในช่วงเช้าติดขัดตลอดทั้งบริเวณถนนโดยรอบถนนราชดำเนินยาวต่อเนื่องไปถึงฝั่งธนฯ และถนนเส้นอื่น ๆ เพราะอยู่ในช่วงเวลาเร่งด่วน เดือดร้อนตำรวจหลายพื้นที่ต้องจัดกำลังไปอำนวยการจราจรให้คล่องตัวขึ้น เนื่องจากเป็น วันทำงานและเป็นวันโรงเรียนเปิด ผู้ปกครอง ต้องขับรถไปส่งลูกหลาน หลายคนต้องเปลี่ยนเส้นทาง โดยผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคนต่างสวดยับกับพฤติกรรมปิดถนนชุมนุมของม็อบพันธมิตรฯเพราะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน บางคนที่ขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวถึงกับตะโกนต่อว่า ทำไมไม่ไปชุมนุมเรียกร้องที่ท้องสนามหลวงหรือที่อื่นไม่ใช่มาปิดบนถนนสร้างความเดือดร้อนให้สุจริตชนคนทำงานแบบนี้

ยอดผู้บาดเจ็บกว่า 30 คน

ขณะเดียวกันหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันของทั้งสองฝ่ายหลายระลอกตั้งแต่เริ่มการชุมนุมจนถึงกลางดึก จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจาก นายไกรจักร แก้วนิล ผอ.สำนักการแพทย์ (กทม.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หน่วยแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล ได้นำผู้บาดเจ็บประมาณ 30 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บหัวแตก ฟกช้ำ ดำเขียว แยกนำส่ง รพ.วชิรพยาบาล 20 คน ส่วนที่เหลือแยกกระจายส่งตาม รพ.หลายแห่งทั้งของรัฐและเอกชน อาทิ รพ.กลาง รพ.พระมงกุฎ รพ.เปาโลสะพานควาย ฯลฯ มีประมาณ 4-5 ราย ที่บาดเจ็บค่อนข้างรุนแรงแขน ขาแตก ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วชิระ 2 ราย ส่วนบาดเจ็บเล็กน้อยปฐมพยาบาลแล้วก็กลับบ้านได้

ไล่บี้เดินเกมยื่นถอดถอน

ส่วนที่บริเวณอาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมการรับมือกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีกำลังตำรวจปราบจลาจลกว่า 200 นาย มีโล่ กระบอง และแผงกั้นรั้วเหล็กเตรียมพร้อมป้องกันดูแลความเรียบร้อยบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายเทิดภูมิ ใจดี และนายสุริยะใส กตะศิลา พร้อมด้วยตัวแทนผู้ชุมนุมอีก 4 คน เดินทางมาที่ห้องรับรอง อาคาร 2 รัฐสภา เข้าพบนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ยื่นหนังสือขอแสดงตนในการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เพื่อถอดถอนประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. และ ส.ว. จำนวนหนึ่งที่ร่วมลงนามเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2550

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการมาแสดงตนในการที่จะรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนบุคคลดังกล่าวออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นความผิด 4 ข้อ โดยเฉพาะความผิดมาตรา 68 ที่พบว่าญัตติขอแก้ไขครั้งนี้ทั้งรูปแบบและวิธีการในการเสนอต่อรัฐสภาเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งฉบับจึงต้องขอใช้สิทธิตามมาตรา 164 โดยการลงลายมือชื่อเพื่อให้วุฒิสภามีมติตาม มาตรา 274 ให้ถอดถอนบุคคลตามมาตรา 270 ออกจากตำแหน่งต่อไป ขณะนี้มีรายชื่อประชาชนเกือบ 10,000 รายชื่อแล้วคาดว่าในวันนี้จะได้รายชื่อครบ

ปธ.วุฒิฯขอตรวจสอบ 2 วัน

ด้านนายประสพสุข กล่าวว่า วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะกระบวนการจากนี้ไปกลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องไปหารายชื่อประชาชนให้ครบ 20,000 รายชื่อ จากนั้นต้องส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการถอดถอนตามคำร้อง ซึ่งวุฒิสภามีหน้าที่พิจารณารายชื่อรวมถึงเอกสารความถูกต้องเท่านั้น คงใช้เวลา 2 วัน โดยในวันที่ 28 พ.ค. นี้จะส่งรายชื่อไปยังสำนักทะเบียนราษฎร และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป เมื่อถามว่าเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายประสพสุข ตอบว่า ก็เหมือนกับทุกคนที่เป็นห่วงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดี แต่ก็ต้องประคับประคองกันไว้ พูดกันด้วยเหตุด้วยผลก็จะไม่เป็นอะไร

จวกตร.ระวังซ้ำรอย“โอ๋ สืบ6”

นายสุริยะใส ผู้ประสานงานกลุ่มพันธ มิตรฯ กล่าวยืนยันว่า จะจัดชุมนุมอย่างยืดเยื้อต่อไปจนกว่าจะมีการถอนญัตติแก้ไขรัฐธรรม นูญออกจากสภาหรือทันทีที่ญัตตินี้เป็นโมฆะ โดยสัปดาห์นี้จะล่าชื่อประชาชนครบ 2 หมื่นคนเพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาได้สำเร็จ หนทางที่ยุติความขัดแย้งนั้นไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่นายสมัคร โทรศัพท์หานายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้สั่ง ส.ส. พรรคพลังประชาชนถอนชื่อออกเพียง 30 คนญัตตินี้ก็ตกไปแล้ว เมื่อถามถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในการชุมนุมวานนี้ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลใช้อำนาจประกาศใช้ พ.ร.บ. บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือไม่ นายสุริยะใส ตอบว่า พันธมิตรฯ ไม่ปรารถนาที่จะให้รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายนี้ หากอีกฝ่ายไม่ตามราวี ท้าตี ท้าต่อย หรือไปจัดชุมนุมที่สนามหลวงก็ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางตำรวจนครบาลได้แสดงความขอโทษต่อพันธมิตรฯ ในความหละหลวมซึ่งเราให้อภัยได้ แต่เหตุการณ์แบบนี้ต้องไม่มีอีก การที่ตำรวจปล่อยให้อีกฝ่ายวิ่งมาทุบตีอีกฝ่ายมันมากเกินไป หากตำรวจยังไม่ทำหน้าที่พันธมิตรฯอาจร้องต่อ ป.ป.ช. ในความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิจะถูกดำเนินการซ้ำรอยกรณีของ “โอ๋ สืบ 6”

แจงเหตุห้ามเคลื่อนขบวน

ที่ บช.น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ผบช.น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความสงบเรียบร้อยและสรุปผลการปฏิบัติงานของตำรวจเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมาโดยใช้เวลากว่า 1 ชม. จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจความพร้อมการปฏิบัติหน้าที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานฯ ใช้กำลัง ตร. ดูแล 12 กองร้อย และมีการเตรียมกำลังไว้เสริมอีก 4 กองร้อย นอกจากนี้ยังมีหน่วยสนับสนุนทางอากาศที่เตรียมไว้ที่ บช.ตชด.อีกจำนวนหนึ่ง

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า การควบคุม สถานการณ์ที่ผ่านมาตำรวจได้ใช้ความพยายามในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถโดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของกลุ่มผู้ชุมนุมและพยายามไม่ให้เกิดการปะทะระหว่างสองฝ่าย ส่วนการยับยั้งไม่ให้มีการเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาลนั้นเป็นการกระทำที่จำเป็น เนื่องจากตำรวจเห็นว่าแกนนำผู้ชุมนุมมีประสิทธิภาพในการควบคุมกำลังลดลงอาจเปิดช่องให้มือที่ 3 ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายได้เกรงว่าประชาชนจะไม่ปลอดภัย

สั่งตรวจสอบภาพมือป่วน

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าตำรวจละเว้นการปฏิบัติในกรณีที่เกิดการปะทะขว้างปาสิ่งของกันไม่เข้าระงับเหตุนั้น พล.ต.อ.วิเชียร ชี้แจงว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกครั้งต้องคำนึงถึงระดับความจำเป็นเร่งด่วนเป็นสำคัญอยู่แล้วอีก ทั้งยังต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ที่รับผิดชอบที่เกิดเหตุตรวจสอบย้อนหลังจากภาพที่บันทึกได้พร้อมประสานขอภาพเคลื่อนไหวภาพนิ่งจากสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ รวมถึงการสอบสวนผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อกวนสร้างความวุ่นวายเป็นรายบุคคลต่อไป ส่วนการจัดกำลังตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อยประเมิน วันต่อวันนั้น จะมีกำลังหลักคือตำรวจนครบาล 600 นาย สลับสับเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่กับกำลังเสริม

“ผบ.ทบ.”ย้ำไม่สั่งเตรียมพร้อม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ไม่ใช่เฉพาะตน แต่ทุกคนคงรู้สึกเช่นเดียวกันว่าเป็นสิ่งที่น่าห่วง ทั้งนี้หวังว่าเหตุการณ์คงจะไม่รุนแรง ดังนั้นคงต้องอยู่ที่ 2 ฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องเพิ่มความเข้มข้นเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นมา ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจมีการประสานขอกำลังไปช่วยดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ประสานเพื่อขอความร่วมมือจากทหาร แต่จากการประมาณการของตนมองว่าตำรวจน่าจะรักษาความสงบและดูแลความเรียบร้อยไว้ได้ เรามีการประสานงานกันตลอดก็รับทราบข่าวสารจากทางตำรวจเท่านั้นไม่ได้จัดกำลังออกไปปฏิบัติงานใด ๆ ทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่าเกรงว่าจะเกิด แบบเหตุการณ์พฤษภาทมิฬหรือไม่ ผบ.ทบ. ไม่ตอบพร้อมถามกลับว่ามีอะไรอีกหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า การปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายดูจะไม่มีการลดละ มองว่าน่าห่วงหรือไม่ ผบ.ทบ. ย้อนถามว่า “แล้วท่านล่ะห่วงหรือไม่ ผมก็ห่วง ประชาชนทุกคนก็เป็นห่วง ไปถามใครในตลาดก็เป็นห่วง ทุกคนก็เป็นห่วงทั้งนั้น ไม่ต้องถามผมก็ได้”

“สพรั่ง”โผล่หนุนกลุ่มรักชาติ

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นห่วงบ้านเมืองมากกว่าสถานการณ์เพราะสถานการณ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคนที่ออกมาเพราะเขาอาจเห็นว่าวิกฤติแล้ว และหากเขาออกมาเพราะรักชาติบ้านเมืองตนก็เห็นด้วย และหากเกิดเหตุการณ์ม็อบชนม็อบจริงคนที่นำม็อบมาชนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หลังจากสถานการณ์คลี่คลายผู้ที่รักษากฎกติกาต้องเป็นกลางเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เมื่อถามว่าเหตุการณ์จะบานปลายจนย้อนกลับเหมือนเหตุการณ์ก่อนวันที่ 19 ก.ย. 49 หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง ตอบว่า เป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ตามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตนมองว่าไม่เห็นจะต้องไปแก้ไขอะไร คนทั้งประเทศมองว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตนเอง

“อย่าลืมว่าคนรักชาติบ้านเมืองยังมีกำลังมากพอ เพียงแต่เขาเฝ้าดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่อยากเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือดหรือเห็นคนไทยต้องสังเวยชีวิต ตอนนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว”

ไม่รับประกันเหตุ “ปฏิวัติ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากสถานการณ์ขณะนี้คิดว่ามีเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า หากสถานการณ์หาทาง ออกไม่ได้ การเผชิญหน้าก็จะต้องเกิดขึ้น มีทางเดียวก็คือฝ่ายรักษาความมั่นคงจะต้องรับผิดชอบคลี่คลายสถานการณ์ การรักษาชาติบ้านเมืองให้อยู่ในสภาวะสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุดถือเป็นบทบาทของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องตัดสินใจทำเพราะทหารเพิกเฉยต่อสถานการณ์ไม่ได้ หากเกิดเหตุจลาจลบ้านเมืองวิกฤติทหารจะอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร ทหารจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ เมื่อถามอีกว่า แสดงว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปฏิวัติ พล.อ.สพรั่ง ตอบว่า เป็นไปตามผล ซึ่งผลมาจากเหตุ หากเหตุไม่ถูกต้อง ผลก็ไม่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้ตนไม่ขอรับรองหรือยืนยันว่าจะมีหรือไม่มีทั้งสิ้นเพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากหลายฝ่ายเกิดการต่อสู้ เข้าห้ำหั่นกัน ถึงตอนนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของทหารที่จะต้องปกป้องประเทศ

“หมัก”ชี้ส่งผลกระทบประเทศ

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก ประจำปี 2551 เพื่อรับฟังนโยบายของรัฐบาลและหารือเพื่อกำหนดยุทธ ศาสตร์ด้านนโยบายต่างประเทศ โดยมีเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยจาก 92 ประเทศเข้าร่วมประชุม ภายหลังการประชุมกว่า 3 ชม. นายสมัคร ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแน่นอนและในที่ประชุมได้มีเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำใน 3 ประเทศวิตกกังวลว่า ทำไมบ้านเมืองเป็นอย่างนี้และจะยุติได้เมื่อไหร่ อีกทั้งเกรงว่าสถานการณ์ชุมนุมดังกล่าวจะทำให้ประเทศที่มีแผนจะมาลงทุนในไทยเปลี่ยนใจ ทั้งนี้ยังไม่คิดเรื่องการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะตนไม่อยากถูกชี้หน้าว่าเป็นเผด็จการ แต่ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเข้ามาดูแล

เดินหน้าจัดลงประชามติ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อ จนกว่าสมาชิกรัฐสภาจะถอนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมัคร กล่าว ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า ก็บอกแล้วว่าจะจัดให้มีการลงประชามติ ทำไมรอไม่ได้ ใช้เวลาแค่ 45 วัน ถ้าเสียงส่วนใหญ่บอกว่าไม่แก้ก็ไม่แก้ แต่ ถ้าส่วนใหญ่บอกแก้ ก็แก้แล้วพันธมิตรฯ จะว่าอย่างไร อย่างไรก็ดีมีรายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า ช่วงหนึ่งของการประชุมนายสมัคร ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลจนถึงเวลา 02.00 น.

ด้านนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ประชุมมีเอกอัครราชทูตไทยที่ได้แสดงความวิตกกังวลถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เกรงว่าการชุมนุมจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศเพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ถ้าการชุมนุมนี้ยืดเยื้อต่อไป อาจจะส่งผลต่อจิตวิทยากับนักท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อเพราะตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้

“เฉลิม”แจ้งเอาผิด“สนธิ”หมิ่น

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย แถลงว่า ได้ยื่นเอกสารพร้อมหลักฐาน รวมทั้งรายงานบันทึกประจำวันที่เคยไปแจ้งความต่อ สน.แสมดำ ขณะถูกนายสนธิ ลิ้มทองกุล หมิ่นประมาทมีหลักฐานเป็นเนื้อหาการปราศรัยที่มีการหมิ่นประมาทตน เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมาบนเวทีพันธมิตรฯ นอกจากนี้ยังได้มอบให้นายอาวุธ ปรีชาวุธ ทนายความ ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเชียงราย ในเช้าวันที่ 27 พ.ค. การดำเนินการส่งฟ้องนายสนธิ ครั้งนี้ไม่ได้เป็นการข่มขู่หรือต่อรองเพื่อให้ยุติการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ และยังขอเสนอให้กลุ่มพันธมิตรฯ ไปชุมนุมที่บริเวณสวนลุมพินี ซึ่งสามารถเจรจาขอสถานที่กับพรรคประชาธิปัตย์ได้เพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

แฉปลุกระดมอ้างสถาบันอีก

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่ม นปก. กล่าวว่า เท่าที่ตนติดตามการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น มันเลยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้วเพราะแกนนำได้หยิบยกเรื่องจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ หรือระบอบประธานาธิบดีมาเป็นประเด็นถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะจะสร้างความแตกแยกในสังคม ไม่มีใครกล้าคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบสาธารณรัฐเพราะถ้าคิดอย่างนี้จะเป็นคนไทยไม่ได้ เราจะไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนแปลงการปกครองในลักษณะนี้อย่างเด็ดขาด และขอวิงวอนไปถึงแม่ทัพ นายกอง ขอให้ตั้งสติ ตั้งหลักว่าข้อกล่าวหาที่ตั้งขึ้นมานั้นสมควรเชื่อถือได้หรือไม่อย่าได้ไปหลงเชื่อ เพราะคนไทยหากคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองในลักษณะนั้น ถือว่าเลวร้ายที่สุด ใครที่เกิดเป็นคนไทยจะไม่มีทางกล้าคิดอย่างนั้น

ปูดข่าวล่าสังหาร 3 แกนนำ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนทราบข่าวมาว่ามีคนไม่พอใจกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนมากและถึงขั้นจะจัดตั้งเป็นหน่วยล่าสังหารแกนนำกลุ่มพันธ มิตรฯ โดยเฉพาะนายสนธิ พล.ต.จำลอง และนายสุริยะใส เพราะความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ กระทบถึงเรื่องปากท้องของคนในต่างจังหวัด เรื่องนี้นายสุริยะใส รู้ตัวเองดีว่าไม่ สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ ได้แม้บรรดาญาติพี่น้องยังโดนบอยคอต ขอเตือนบุคคลทั้ง 3 ว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าออกต่างจังหวัด

“ผมไม่ได้ขู่แต่อยากให้ทุกฝ่ายระมัดระวังตัว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นแล้วคนที่ลำบากก็คือรัฐบาล ผมกลัวว่าหากพันธมิตรฯ ก่อกวนไม่เลิกประชาชนในต่างจังหวัดจะเคลื่อนเข้ามา กท. ณ วันนี้ ส.ส. ยังพอห้ามได้เพราะเขายังรักรัฐบาลอยากให้ทำงานต่อ แต่กลัวว่าวันหนึ่งเราจะห้ามไม่อยู่”

นปช.แถลงโต้ไม่ได้ก่อกวน

ต่อมาช่วงบ่าย ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.เหวง โตจิราการ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และ นายสุชาติ นาคบางไทร ได้ร่วมกันแถลงข่าวปฏิเสธว่า นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมของพันธ มิตรฯ โดยบรรยากาศการแถลงข่าวค่อนข้างมีอารมณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามซักถามนายจรัล ว่าเหตุใดจึงปฏิเสธความรับผิดชอบในเมื่อนายสุชาติ ก็เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยบนเวทีต่อต้านพันธมิตรฯ อย่างไรก็ดีนายสุชาติ ชี้แจงว่าเราไม่อยากมีเรื่องเพราะตำรวจกั้นพวกเรากับพันธมิตรฯ ไว้ แต่คนของพันธมิตรฯ วิ่งมาตีพวกเราก่อน รวมทั้งยังไปไล่ตีประชาชนที่รอรถเมล์อยู่บริเวณนั้นด้วย

สื่อรัฐสภาโวยถูกคุกคาม

ในช่วงท้ายการแถลงข่าวเริ่มมีการปะทะคารมกับสื่อมวลชน จนนายสุชาติ ได้นำกล้องส่วนตัวขึ้นมาถ่ายรูปผู้สื่อข่าวหลายคนที่ตั้งคำถามต่อเนื่องอ้างถ่ายรูปจะเอาไปไว้ศึกษา จากนั้นบรรยากาศเป็นไปอย่างโกลาหล เมื่อผู้สื่อข่าวขอให้ลบภาพเพราะถือเป็นการคุกคามสื่อแต่นายสุชาติ ไม่ยอมสุดท้ายเลยต้องยุติการแถลงข่าว ขณะที่ นพ.เหวง พยายามไกล่เกลี่ยปัญหาทั้งสองฝ่าย รับปากว่าหากผู้สื่อข่าวจะแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐานว่ามีการถ่ายรูปผู้สื่อข่าวจริงก็พร้อมจะเป็นพยานให้ ภายหลังเสร็จสิ้นการ แถลง ผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้หารือร่วมกันและมีมติร่วมกันว่าจะดำเนินการแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต ไว้เป็นหลักฐานว่ามีเจตนาจะคุกคามสื่อ

รปภ.พันธมิตรรับมือกลุ่มจยย.

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงเย็น มีประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มถนนราชดำเนินนอก ช่วงระหว่างเชิงสะพานมัฆวานฯ ไปจนถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก โดยบรรดาแกนนำสลับผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีกล่าวโจมตีรัฐบาลรวมไปถึงนายจักรภพ อย่างไรก็ดี วันนี้ รปภ. ที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมที่อยู่ท้ายขบวนได้มีการเสริมเหล็กกั้นปิดขวางถนนเอาไว้ทุกช่อง นอกจากนี้ยังนำลวดสลิงมามัดขวางถนนเอาไว้ด้วย หลังจากมีกระแสข่าวว่าฝ่ายต่อต้านจะบุกมาก่อกวนซ้ำอีก ทาง รปภ. จึงต้องเตรียมพร้อมจัดหาหมวกกันน็อกเอามาไว้ใส่ป้องกันตัวด้วย

พล.ต.จำลอง ได้ขึ้นเวทีหลังจบการแสดงดนตรีของ “เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล” ประกาศ ขอความร่วมมือกับพ่อค้า แม่ค้า ที่มาขายของว่าให้งดจำหน่ายสุราและของมึนเมาพร้อมกับกำชับหน่วย รปภ. ถ้าพบเห็นบุคคลที่ดื่มสุราหรือของมึนเมาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดขอให้นำตัวออกไปจาก กลุ่มผู้ชุมนุมทันที และกำชับให้ผู้ร่วมชุมนุมเข้ามาอยู่ในเขตแผงรั้วกั้นเหล็กสีเหลืองโดยเฉพาะแถวประตูกองบัญชาการกองทัพบก เนื่องจากได้ข่าวว่ามีการรวบรวมมอเตอร์ไซค์กว่า 300 คัน พร้อมอุปกรณ์หลายชนิดที่จะมาทำอันตรายผู้ชุมนุม บอกข่าวตำรวจไว้แล้วแต่ถ้าไม่มารักษาความปลอดภัย แล้วเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชุมนุมเราจะฟ้องศาล เอาผิดตั้งแต่ ผบ.ตร. ผบช.น. จะฟ้องให้ติดคุก

กลุ่มต้านรวมตัวสนามหลวง

ขณะเดียวกันที่บริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งด้านหน้า ม.ธรรมศาสตร์ ได้มีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ได้รวมตัวกันเวลา 18.00 น. โดยมีนายสุชาติ นาคบางไทร เป็นแกนนำขึ้นปราศรัยบนเวทีเพื่อคัดค้านการชุมนุมของฝ่ายพันธมิตร นอกจากนี้ยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา มีประชา ชนมาร่วมฟังประมาณ 200-300 คน ทั้งนี้มีการแจกสัญลักษณ์ของกลุ่มเป็นผ้าสีน้ำเงินใช้โพกศีรษะเวลาจะเคลื่อนขบวน

หากไม่ยุติชุมนุมอาจสลาย

พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษก สตช. เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมอยู่บริเวณสะพานมัฆวานฯ เปิดเผยว่าตำรวจจะเข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วเพราะการกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเดือดร้อน เพราะการชุมนุมกีดขวางการจราจร คาดว่าการเจรจาน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะแกนนำพันธมิตรได้ยื่นเรื่องถอดถอน ส.ส. และ ส.ว. ต่อประธานวุฒิสภาแล้ว ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากยังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนใหญ่อีกก็อาจจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมหรืออาจใช้กำลังเคลื่อนย้ายการชุมนุม แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้มาตรการแบบไหน

กองทัพจับตา “ม็อบชนม็อบ”

มีรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคงว่า พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้หน่วยข่าวขึ้นตรงของกองทัพบกติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างใกล้ชิด นอกจาก นี้ยังมีการตั้งศูนย์บัญชาการติดตามและประเมินผลที่กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ทำหน้าที่การควบคุมดูแล โดยเบื้องต้นศูนย์ดังกล่าวรายงานว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯมีการลงขันจากภาคองค์กรภาครัฐวิสาหกิจ และคนในระดับสูงเพื่อจ้างประชาชนมาร่วมชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะชุมนุมต่อเนื่อง 3 วันทำการ ขณะที่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ได้มีการว่าจ้างชาวบ้านมาจาก จ.สมุทรปราการ และว่าจ้างจยย.รับจ้างมาก่อกวน รวมถึงมีการขว้างปาสิ่งของและอุจจาระใส่กลุ่มพันธมิตรฯเช่นกัน

ยอดหนุนญัตติเหลือ 134 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการจากสำนักงานเลขาธิการสภา ในการเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภา เข้าชื่อ 164 คน ยื่นญัตติ เมื่อตรวจสอบ เวลา 18.00 น. วันที่ 26 พ.ค. พบว่า มีการลงชื่อซ้ำ 5 คน อยู่ในระหว่างถูกพักปฏิบัติหน้าที่โดยคำสั่งของ กกต. มาร่วมเซ็นชื่อ 3 คน มีสมาชิกขอถอนชื่อทั้งสิ้น 22 คน แบ่ง เป็น ส.ว. 20 คน ส่วน ส.ส. 2 คน คือ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน และนางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัย นาท พรรคมัชฌิมาธิปไตย ทำให้ขณะนี้มีสมาชิกรัฐ สภาที่สนับสนุนญัตติอย่างถูกต้องจำนวน 134 คน และหากมีสมาชิกถอนรายชื่ออย่างน้อย 9 คนก็จะส่งผลให้ญัตติตกไปทันที

เล็งเอาผิด “ปชป-ปธ.วุฒิ”

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ส.ส.ส่วนหนึ่งได้มีการหารือกันและเตรียมที่จะทำหนังสือร้องเรียนต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทน ราษฎรในฐานะประธานรัฐสภา เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ มีพฤติ กรรมที่เข้าข่ายพยายามล้มล้างระบอบประชา ธิปไตยตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงนายประสพสุข บุญเดช ประธานสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นผู้รับเรื่องถอดถอนด้วย การกระทำความผิดตามมาตรา 68 นี้จะส่งผลทางอาญากับบุคคลที่กระทำความผิด รวมไปถึงการยุบพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งพวกผมมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนกลุ่มพันธ มิตรฯ คาดว่าจะสามารถส่งเรื่องให้ประธานรัฐ สภาดำเนินการได้ภายในสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นผวาปรับตัวลดลง

ที่กระทรวงการคลัง นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนบ้าง ดูได้จากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงนอกเหนือจากความไม่มั่นใจในราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ยังเกิดการชุมนุมที่หลายฝ่ายยังคาดเดาได้ ไม่ชัดเจน แต่ทั้งนี้เชื่อว่าถ้าเหตุการณ์ผ่านไปความ เชื่อมั่นน่าจะกลับคืนมา โดยเฉพาะการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดการใช้พลังงานในวันที่ 27 พ.ค. คงต้องติดตามดูว่าจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด

นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวทำให้เกิดความไม่แน่นอนในประเทศส่งผลให้นักธุรกิจและต่างประเทศชะลอการลงทุนเพื่อดูเหตุการณ์ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งทำให้รัฐต้องกลับมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแทนที่จะมาดูแลเรื่องเศรษฐกิจ โดยการประมาณการณ์เศรษฐ กิจในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ให้นโยบายการบริหารงานของรัฐเป็นบวก แต่ความเชื่อมั่นด้านการเมืองติดลบอยู่ คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมรายได้ในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 4.8-6% ส่วนเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 2 อาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ เพราะแรงกดดันราคาน้ำมันและอาหารที่สูงขึ้น โดยเงินเฟ้อทั่วไปเชื่อว่าจะเกิน 5% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.8-5%

หวั่นกระทบนักท่องเที่ยว

นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป็นห่วงสถานการณ์อย่างมากเพราะเมื่อเกิดความไม่สงบขึ้นจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวไทยของชาวต่างชาติด้วย หากเหตุการณ์ไม่สงบยืดเยื้อออกไปอีก ชาวต่างชาติอาจหันไปเที่ยวประเทศอื่นแทน เหมือนที่เคยเกิดเหตุการณ์ไม่สงบต้นปี 50 ทำให้นักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอย่าง จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ชะลอการเดินทางเข้าไทย ส่งผลให้ไทยเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวไปมาก

นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวไทย เพราะวิธีชุมนุมเช่นนี้ หลายประเทศก็ใช้เพื่อแสดงออกด้านประชาธิปไตย อีกทั้งการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ก็ยังไม่รุนแรงมากถึงขั้นใช้อาวุธเข้าหากัน แม้จะมีการขว้างปาสิ่งของบ้าง แต่ยังต้องการให้รัฐบาลคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น จะกระทบการท่องเที่ยวได้ โดยตลาดแรกที่กระทบคือ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งชอบความสงบ และปลอดภัย

พันธมิตรฯ ตจว.คึกคัก

ที่ จ.ชุมพร นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตย ภาคใต้ และนายสมบัติ สินลอย แกนนำพันธมิตรฯ ชุมพร ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลาง พร้อมทั้งสนับสนุนให้พันธมิตรฯ ทุกจังหวัดในภาคใต้จัดตั้งเวทีประชาธิปไตย เพื่อถ่ายทอดสดสัญญาณ จากเอเอสทีวีให้ประชาชนได้รับทราบบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะเดียวกันที่ศูนย์ข่าวเอเอสทีวี จ.ขอนแก่น ก็มีบรรดาประชาชนที่ให้การสนับสนุนพันธมิตรฯ ส่วนหนึ่ง เดินทางมาติดต่อซื้อจานดาวเทียมเพื่อไปเปิดชมการถ่ายทอดสดการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ใน กทม. นอกจากนี้มีบางกลุ่มลงทุนนั่งรถเมล์เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย.

 

ที่มา เดลินิวส์

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 982

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 27 พ.ค. 51 เวลา 10:36:14
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี