"สนธิ” ปลุกฝันปชช.ร่วมกันต่อสู้ บอกช่วง พ.ย.ความฝันเป็นจริงชนะแน่ อัด ”สล้าง” ตกหลุมกิเลสอยากสร้างผลงานสลาย พธม.ให้สำเร็จ หวังเพียงปูนบำเหน็จนั่งเก้าอี้รองนายกด้าน “จำลอง” ย้ำร่วมชุมนุมค้านแก้รัฐธรรมนูญ แฉทำเพื่อ ”ทักษิณ” ลูกสมุน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นเวทีปราศรัยต่อประชาชนที่ร่วม ชุมนุม ว่า ทุกคนล้วนมีความฝันตั้งแต่วัยเด็กอยากจะมีความเจริญในหน้าที่การงาน
อย่างไรก็ตามความฝันของเราเริ่มเป็นจริงในวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ใช่มาต่อสู้เพียงเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีติดคุก ซึ่งจะไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะทุกอย่างที่ฝันเอาไว้หลายๆอย่างหลายเรื่อง น่าจะเป็นจริงอีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
“ผมอยากบอกว่า ขณะนี้หลายเรื่องที่ทุกคนได้ฝันเอาไว้ที่ มาร่วมต่อสู้เพื่อชาติ เหลืออีกเพียง 100 เมตรสุดท้ายที่เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ หากจะทำฝันให้เป็นจริงได้รับชัยชนะ ขอให้ทุกคนเดินหน้าต่อไป หากพิจารณาการเปลี่ยนตัวเล่นอย่าง
เช่น การนำเอาพล.ต.อ.สล้าง บุญนาค อดีตรองผบ.ตร. มาแล้วประกาศว่า เขามีกองกำลังอยู่จะนำเข้ามาทำการสลายชาวพันธมิตร ถามว่าจะเอามาจากไหน ต้องบอกว่า พล.ต.อ.สล้างนั้นตกอยู่ในกิเลส มีคนบอกว่าถ้าทำสำเร็จจะให้นั่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงหรือที่ปรึกษาด้าน ความมั่นคง” นายสนธิ กล่าว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเดินหน้าส.ส.ร. 3 ว่า เป็นเพียงการต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทำเพื่อกลุ่มตัวเอง ไม่ใช่เพื่อชาติแต่อย่างใด ต่างจากพันธมิตรฯที่ทำเพื่อประเทศชาติ พร้อมกับย้ำว่า พันธมิตรฯยังย้ำจุดหมายเดิมที่คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นอยากเรียกร้องให้ทุกคนได้ร่วมชุมนุมด้วยกันอีกต่อไป
ด้าน นาย พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยต่อประชาชนที่ร่วมชุมนุมว่า ภายหลังเหตุการณ์สลายชุมนุมพันธมิตรในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มียอดเงินบริจาคเพื่อพันธมิตรฯได้ใช้ในการต่อสู้จำนวนรวมกว่า 34 ล้านบาท และอยากบอกว่า
ขณะนี้สถานการณ์การเมืองถือเป็นจุดที่มีการใช้เล่ห์มาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เมื่อเสร็จแล้วก็จะแก้บางมาตรา เช่น มาตรา 237 , 190 เพื่อช่วยกลุ่ม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
และไปช่วยเหลือนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานเท่านั้น ดังนั้นการมาต่อสู้ร่วมกันเป็นเวลา 150 วัน เพื่อต้องการการเมืองใหม่ ซึ่งต้องมาช่วยมาร่วมกันทำ เพราะจะไปหวังกับนักการเมืองเก่า รูปแบบการเมืองเก่าอีกคงไม่ได้
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก