หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ทักษิณโฟนอินขอ พระบารมี หวังจะได้กลับไทย

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ทักษิณโฟนอินขอ พระบารมี หวังจะได้กลับไทย
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 02 พ.ย. 51 เวลา 10:06:47 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

 

 

 

หลังจากที่แม่ทัพภาคที่ 1 สั่งจับตาการชุมนุมทั้งของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จัดงานรวมพลคนเสื้อแดง ผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งมีจุดขายที่การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนหลายฝ่ายหวั่นเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งหนักขึ้น

 

ตร.มั่นใจรับมือกลุ่มเสื้อแดงได้

 

 บรรยากาศของงานความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 1 พ.ย. มีประชาชนสวมเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ อาทิ สมุทรปราการ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ทยอยเดินทางมาถึง ส่งผลให้การจราจรบริเวณโดยรอบเริ่มหนาแน่น แต่ยังไม่สามารถเข้าไปภายในสนามได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะเปิดประตูให้เข้าได้ในเวลา 08.00 น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ตำรวจนครบาล 4 จะเข้าตรวจวัตถุระเบิดก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ในฐานะกำกับดูเเลงานด้านจราจร กล่าวว่า จะไม่มีการปิดการจราจรบนถนนรามคำเเหง ด้านหน้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน เนื่องจากม็อบ นปช. จะเดินทางมาชุมนุมใหญ่ช่วงบ่าย และจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจร เนื่องจากเป็นการชุมนุมภายในสนามกีฬา

 

เชื่อ 2 กลุ่มจะไม่ก่อปัญหา

 

ด้าน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของ นปช. ในวันที่ 1 พ.ย.ว่า จากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่ม นปช. ไม่คิดที่จะทำอะไรให้เกิดความเสียหาย หรือคิดทำอะไรให้เกิดเรื่องขึ้นมา เพราะจะก่อให้เกิดการตำหนิจากสังคม คิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ทำอะไรให้เกิดปัญหากับคนในสังคม เพราะทุกฝ่ายจับตากลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ไม่ว่าจะมีการเปิดเวทีปราศรัย หรือการโฟนอินเข้ามาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการต้องการแสดงพลังของกลุ่มมากกว่า ไม่คิดว่าหลังการโฟนอินเข้ามา จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. หรือเป็นตัวที่จะเร่งเร้าให้เกิดความบ้าคลั่งของกลุ่ม นปช.

 

ห่วงมือที่สามฉวยโอกาส

 

พล. ต.ท.ธีระเดชกล่าวต่อว่า ที่เป็นห่วงของหน่วยข่าวคือ กลุ่มคอยจุดชนวนให้เกิดเหตุความรุนแรง เพื่อเร่งให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ ต้องดูว่าเมื่อมีระเบิดเกิดขึ้นใครได้ประโยชน์ คิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ได้กำชับตำรวจสันติบาลให้ลงทุกพื้นที่เพื่อหาข่าว ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. เชื่อว่าบริเวณทำเนียบรัฐบาลที่ตั้งของกลุ่มพันธมิตรฯ และสนามราชมังคลากีฬาสถานที่เปิดเวทีของกลุ่ม นปช.จะไม่มีเหตุการณ์ รุนแรง แต่ที่ห่วงในช่วงการเดินทางเข้ามาชุมนุม และจุดอื่นๆ อาจมีการปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุม และสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ที่ไม่หวังดี ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ประสานฝ่ายทหารเข้ามาช่วยดูแลพื้นที่สำคัญด้วย

 

ขอกำลังทหารช่วยตำรวจ

 

พล. ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. จัดชุดหาข่าวเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมอบหมายให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ประสานทหาร ขอสนับสนุนกำลังเข้ามาช่วยในการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากชุดควบคุมฝูงชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกำลังน้อย หากมีการเคลื่อนตัวของกลุ่ม นปช.ออกจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน จะทำให้ควบคุมได้ลำบาก เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขอกำลังทหารออกมาช่วยดูแลเพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่า จะไม่มีการเข้าปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ต้องยอมรับว่าบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีตทั้ง 2 ครั้ง ไม่ได้ร้องขอกำลังทหารออกมาทำให้เกิดปัญหา เพื่อให้ เกิดความสงบเรียบร้อยได้ประสานเรื่องการใช้กำลังกับกองทัพภาคที่ 1 เพื่อเข้ามาช่วยในการป้องกันสถานการณ์รุนแรง

 

จัดทีม รปภ.ผู้ใหญ่บ้านเมือง

 

พล. ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกเหตุการณ์มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเป็นห่วง เพราะมองไม่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก ผบ.เหล่าทัพ มีการประสานการทำงานที่ใกล้ชิด วันนี้ได้สั่งกำชับ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เพิ่มความเข้มในเรื่องของด่านตรวจจุดตรวจ ในช่วงกลางคืนทุกพื้นที่ โดยเน้นการตรวจค้นวัตถุระเบิดและอาวุธปืน เป็นมาตรการป้องปรามกลุ่มบุคคลที่ฉวยโอกาสเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความ รุนแรงในช่วงนี้ รวมทั้งได้กำชับให้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย 9 ตุลาการรัฐธรรมนูญและผู้ใหญ่ในบ้านเมือง รวมทั้งสถานที่ราชการสำคัญ ที่น่าเป็นห่วงคือการจงใจสร้างสถานการณ์ ซึ่งหาโอกาสเข้ามาทำ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ขอฝากพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสบุคคลหรือเหตุที่น่าสงสัยให้ ตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงในบ้านเมือง

 

ทหารช่วย ตร.เฝ้าสกัดผู้ชุมนุม

 

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ทหารและตำรวจจะช่วยกันดูแลในทุกพื้นที่ โดยทหารจะใช้กำลังจากกองทัพภาคที่ 1 เป็นหลัก ซึ่งในขั้นต้นกำลังที่เตรียมไว้จำนวน 17 กองร้อย ซึ่งเพียงพอต่อการดูแลความสงบ ส่วนการดำเนินการในเบื้องต้นของกองทัพ 1. ทางกองทัพได้ส่งกำลังทหารสารวัตรส่วนหนึ่งไปร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งในช่วงเย็นของวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขอกำลังสารวัตรทหาร เพื่อนำไปปฏิบัติงานในจุดทางแยกต่างๆ ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อในจุดที่อาจจะมีการปะทะเกิดขึ้น 2. มี การเฝ้าตรวจในพื้นที่ที่มีการชุมตลอดจนติดตามสถานการณ์ว่า จะมีแนวโน้มการเคลื่อนที่ไปเผชิญหน้ากันหรือไม่ เพื่อจะได้นำกำลังไปบล็อกเส้นทางต่างๆได้ทัน 3. หาก มีการเคลื่อนที่ที่จะมีทิศทางในการเคลื่อนไปเผชิญหน้ากัน ทหารต้องปฏิบัติภารกิจให้ทันก่อนกำลังสองฝ่ายจะเข้าใกล้กัน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงเพราะคงจะชี้แจงให้ผู้ชุมนุมทราบการ ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เป็นขั้นตอน

 

ศาลปฏิเสธสั่งแพร่คำพิพากษา

 

ส่วน ที่ศาลอาญา วันเดียวกัน นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาฯสำนักงานศาลยุติธรรม และนายประสงค์ มหาลี้ตระกูล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงว่า นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ไม่เคยมีคำสั่งหรือให้ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับกรณีของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งในเรื่องของการเฝ้าติดตามโทรศัพท์สายตรง (โฟนอิน) เข้ารายการความจริงวันนี้สัญจร วันที่ 1 พ.ย. และไม่ได้สั่งให้เผยแพร่คำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกลงในเว็บ ไซต์ ของศาลฎีกา โดยนายประสงค์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็น การแอบอ้างชื่อประธานศาลฎีกา และข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง

 

ปัดเฝ้าตาม “ทักษิณ” โฟนอิน

 

นาย สราวุธย้ำอีกว่า ประธานศาลฎีกาไม่ได้มีการสั่งการใดๆตามที่ตกเป็นข่าว และไม่มีการประชุมร่วมใดๆ ระหว่างประธานศาลฎีกา ผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรม และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งไม่มีการจัดตั้งคณะหนึ่งคณะใดขึ้นมาเฝ้าติดตามการโฟนอินของอดีตนายก รัฐมนตรี ส่วนการเผยแพร่คำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินในเว็บไซต์ของศาลฎีกา เมื่อศาลได้อ่านคำพิพากษาไปแล้ว กระบวนการขั้นตอนการนำมาเผยแพร่ถือเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

 

ฝากคนไทยช่วยดูแลศาล

 

ต่อ ข้อถามที่ว่า ประธานศาลฎีกาได้แสดงความกังวลและห่วงใยต่อกรณี พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวพาดพิงกระบวนการยุติธรรม กระทั่งสภาทนายความออกแถลงการณ์ตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า กระทำการลบหลู่ศาลยุติธรรม นายสราวุธกล่าวว่า การทำงานของศาลยุติธรรม เหตุผลต่างๆปรากฏอยู่ในคำพิพากษา โดยการทำงานของศาลยุติธรรมนั้น ไม่อาจออกมาตอบโต้หรือโต้เถียงกับคู่ความในคดีได้ เพราะศาลมีหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดคดี ที่มีความอิสระ และเป็นกลางในการทำหน้าที่ ดังนั้นศาลจึงไม่ใช่คู่กรณีของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เรามีหน้าที่ให้ ความเป็นธรรมแก่คู่ความ เมื่อถามย้ำว่าจะมีการตั้งคณะตรวจสอบกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวพาดพิงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นายสราวุธกล่าวว่า ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการใดๆขึ้นมาตรวจสอบ

 

“ทุก คนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่การแสดงความคิดเห็นนั้นจะเกิดผลเสียหายหรือกระทบต่อส่วนรวม ขอเรียนว่าศาลยุติธรรมเป็นองค์กรของส่วน รวมของประเทศ ที่ทุกคนจะช่วยกันรักษาองค์กรนี้ไว้เป็นสถาบันของชาติ เพราะอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยใช้ผ่านทางคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และศาล ดังนั้นจึงเป็นองค์กรที่สำคัญในการที่จะรักษาดุลยภาคในการปฏิบัติหน้าที่ ต่างๆของประเทศ จึงฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแล” นายสราวุธกล่าว

 

แจงคำ “ละเมิดอำนาจศาล”

 

ส่วน การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าถูกกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ นายสราวุธตอบว่า การจะละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เป็นการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษา คดี ซึ่งหากเป็นกรณีที่คดีกำลังเข้าสู่การพิจารณาของศาลการให้ความคิดเห็นใดๆ ลักษณะเป็นการชี้นำ เป็นการไม่สมควร และเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เมื่อถามว่าการปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณตอบโต้ผ่านสื่อมวลชนต่างๆเพียงฝ่ายเดียวแล้วจะทำให้กระบวนการ ยุติธรรมของไทยได้รับผลกระทบ ทางศาลมีมาตรการชี้แจงในเรื่องนี้หรือไม่ นายสราวุธกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี เพราะการทำหน้าที่ของศาล คำพิพากษาเป็นสิ่งที่อธิบายเหตุผลทั้งหมด ซึ่งศาลไม่สามารถออกมาโต้แย้งอะไรได้ และไม่ใช่คู่กรณี ที่จะโต้แย้งกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งด้วย

 

คนเสื้อแดงแห่มาล้นหลาม

 

ด้าน บรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่เดินทางมาอย่างล้นหลาม ทำให้ในเวลาเที่ยง เจ้าหน้าที่จำต้องเปิดประตูสนามฟุตบอล ให้ประชาชนที่สวมเสื้อแดงมาร่วมงาน ได้เข้าไปภายในก่อนเวลากำหนด เนื่องจากคนทยอยเดินทางมาในพื้นที่สนามราชมังคลาฯอย่างต่อเนื่องและเป็น จำนวนมากขึ้นจนถึงหลักหมื่นคน โดยตั้งแต่หน้าอาคารอินดอร์สเตเดียม ไปจนถึงสนามฟุตบอลได้มีกลุ่มองค์กรแนวร่วม นปช.หลายกลุ่ม อาทิ ชมรมคลับทักษิณ กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กลุ่มเพื่อนสมัคร กลุ่มวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ฯลฯ มาตั้งเต็นท์ออกร้านขายอาหาร และของที่ระลึกกันอย่างคึกคัก โดยของที่ระลึกที่มาจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่เขียนโดยบรรดาแกนนำ นปช. อย่างนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ฯลฯ อุปกรณ์ประกอบการชุมนุม ได้แก่ ตีนตบ แตรเสียง เสื้อสีแดงพิมพ์โลโก้รายการความจริงวันนี้ รวมทั้งสติ๊กเกอร์ “I Love Thaksin” ฯลฯ อย่างไรก็ตาม แม้ตามกำหนดเดิม กิจกรรมรายการความจริงวันนี้สัญจร จะเริ่มในเวลา 14.00 น. แต่ยังไม่ทันถึงเวลาดังกล่าว ก็มีแกนนำ นปช.บางส่วน ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นการโหมโรงเรียกความสนใจและสร้างความคึกคักให้กับผู้มา ร่วมงานกันตั้งแต่ก่อนบ่ายโมง

 

แม่ยายทักษิณดอดดูงาน

 

กระทั่งเวลา 14.00 น. ซึ่งมีการเปิดเวทีปราศรัยอย่างเป็นทางการ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง พิธีกรรายการ “ความจริงวันนี้” และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโชว์ตัวและรับดอกไม้ให้กำลังใจแฟนคลับ ขณะเดียวกันก็มีคนดังและคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยเดิม และพรรคพลังประชาชน เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตหัวหน้าพรรค ทรท.ที่มาออกบูธขายซีดีเพลงที่ขับร้องเอง นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ มาออกบูธขายหนังสือ พร้อมแจกลายเซ็น ฯลฯ แต่บุคคลที่เรียกความสนใจได้อย่างมากก็คือ นางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร หรือแม่ยาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้นั่งรถเบนซ์สีดำเข้ามาจอดในอาคาร จุดจอดรถสำหรับบุคคลวีไอพี แต่ยังไม่ทันได้ลงมาจากรถ ปรากฏว่าก็มีช่างภาพสื่อมวลชนที่อยู่ในจุดดังกล่าวเห็นและกรูเข้าไปถ่ายภาพ ทำให้ ตร.สันติบาลที่เข้ามารักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ เข้ามากัน และขอให้คนขับรถของนางพจนีย์ ขับออกไปจากสนามราชมังคลาฯทันที

 

ล่าชื่อถวายฎีกาช่วย “สมัคร”

 

นอก จากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าของสนามราชมังคลาฯ นอกจากจะมีสินค้าของกลุ่ม นปช. มาขายแล้ว ก็ยังมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชน เพื่อยื่นถวายฎีกาให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีหมิ่นประมาทนายสามารถ  ราชพลสิทธิ์  อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร   โดยมีประชาชนแห่มาลงชื่อจำนวนมาก พร้อมทั้งจะมีตัวแทน นปก.นำช่อดอกไม้ไปมอบเป็นกำลังใจให้นายสมัครที่บ้านพักอีกด้วย

 

ทหารรื้อเต็นท์ พธม.เพื่อสวนสนาม

 

ด้าน การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน มีทหารจำนวนหนึ่งได้เข้ามาช่วยรื้อเต็นท์ที่พักของกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งแต่แยกมิสกวัน จนถึงหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อใช้พื้นที่สำหรับซ้อม การสวนสนามในช่วงเย็น ด้านกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯก็ยังคงตรวจเข้มผู้เข้าออก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มการ์ดจำนวนมากเดินตระเวนสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดเช่นกันเพื่อ ป้องกันความปลอดภัย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยกันเดินทางเข้าในทำเนียบฯอย่างต่อเนื่อง

 

ผวาหนักขอรถเก่าทำบังเกอร์

 

นาย กิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดกลุ่มพันธมิตรฯ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจากวันนี้มีการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ของ นปช. เพื่อความไม่ประมาท ตนได้สั่งเพิ่มกำลังการ์ดมากกว่าเดิมหนึ่งเท่า หรือประมาณ 300 คน ดูแลพื้นที่ชุมนุมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพื้นที่สุ่มเสี่ยงอย่างบริเวณสะพานมัฆวานฯ สะพานชมัยมรุเชฐ หรือแยกมิสกวัน ได้มีการเพิ่มแผงเหล็กและประกาศขอบริจาครถบรรทุกเก่าๆ มาจอดขวางกันเป็นแนวบังเกอร์อีกชั้นหนึ่ง

 

แกนนำ พธม.ไม่ให้ราคา “ทักษิณ”

 

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นาย พิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข สามแกนนำพันธมิตรฯ ร่วมแถลงข่าวที่ห้องผู้สื่อข่าวภายในทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.จำลองกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ให้การ์ดพันธมิตรฯ และทหาร มาช่วยรื้อเต็นท์บริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ตรอกถนนลิขิต จนถึงสี่แยกมิสกวันเพื่อเปิดพื้นที่ให้สวนสนามทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวถามถึงการชุมนุมของ นปช.กลุ่มพันธมิตรฯ มีการเตรียมตัวป้องกันความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯอย่างไร พล.ต.จำลองกล่าวว่า ไม่ได้เตรียมตัวอะไร เพราะมีการเตรียมตัวล่วงหน้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำแนวป้องกันให้แข็งแรงขึ้นมากกว่าเก่า หรือการเพิ่มกำลังการ์ด ในส่วนของการขอกำลังของทหารจากกองทัพบกมาช่วยดูแลความปลอดภัยนั้น พันธมิตรฯได้ ขอผ่านสื่อไปแล้ว แต่ถ้าไม่ส่งมาก็ไม่เป็นไร เพราะพันธมิตรฯพึ่งตนเองมาตลอด อีกอย่างหนึ่งก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการชุมนุมของ นปช. เพราะเป็นการกระทำของพวกลิ่วล้อของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีบรรดานักการเมืองไปเกณฑ์ประชาชนมาฟังการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมองว่าไม่มีอะไรน่าเกรงกลัวหรือจะต้องป้องกันเป็นพิเศษ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีราคา เป็นเพียงนักการเมืองคนหนึ่งที่หนีคดีอาญา คดีการทุจริตที่ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ และไม่กังวลว่าจะทำให้มีประชาชนส่วนใหญ่ไปหลงเชื่ออดีตนายกฯ และจะมาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ

 

จี้สอบ “สมชาย” เรื่องคลิปฉาว

 

ด้าน นายสมศักดิ์กล่าวถึงคลิปวีดิโอที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่าความจริงเป็นอย่างไร นายสมชายจะต้องออกมาแสดงความเห็นว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะการเป็นผู้นำของประเทศจะต้องมีจริยธรรมสูงส่งกว่านักการเมืองและข้า ราชการประจำ เพราะตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ หมวด 3 ว่าด้วยจริยธรรมระบุว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม ซึ่งแม้แต่ ข้าราชการหากประพฤติผิดลูกผิดเมียยังต้องโดนไล่ออก ในกรณีนี้ในต่างประเทศถ้าเป็นถึงผู้นำลาออกไปแล้ว แต่นายสมชายไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ทำให้ มาตรฐานจริยธรรมของนักการเมืองไทยตกต่ำมากที่สุด เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาที่จะต้องนำเรื่องนี้ไปตรวจ สอบหาข้อสรุปว่าในคลิปวีดิโอเป็นใคร เพื่อนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณชน

 

โยนบาปเหตุรุนแรงเพราะ รบ.

 

นาย สมศักดิ์กล่าวเสริมว่า คนไทยส่วนใหญ่รู้ทันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีน้ำยา ครั้งนี้มาพูดเพื่ออ้อนคนไทยเท่านั้น และเชื่อว่าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะคนที่มาก็ถูกเกณฑ์มาทั้งนั้นไม่ได้มาด้วยใจ ซึ่งการที่รัฐบาลเรียกร้องไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เรื่องนี้เกิดจากรัฐบาลเองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 7 ตุลา และเหตุการณ์ปาระเบิด

 

ขู่ “เสธ.แดง” ทำผิดวินัยทหาร

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือ  เสธ.แดง  ผู้ทรงวุฒิกองทัพบก  ออก มาระบุว่าให้ พันธมิตรฯนำเด็กและผู้หญิงออกจากพื้นที่ชุมนุม เพื่อเตรียมรับเหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น หลัง พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมาคุยกับคนไทย พล.ต.จำลองกล่าวว่า การขู่แบบนี้ทั้งที่เป็นนายทหารรับราชการอยู่ น่าจะเข้าข่ายผิดวินัย เพราะฉะนั้นผู้บัญชาการของ เสธ.แดง จะต้องเรียกตัวไปสอบถาม เพราะหน้าที่ของนายทหารจะต้องดูแลรักษาความสงบให้กับประเทศและประชาชน ความรุนแรงหรือการนองเลือดจะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลตนพูดอย่างนี้ มาหลายครั้งแล้ว เพราะรัฐบาลมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน แต่รัฐบาลทำตรงกันข้ามมาตลอด

 

ย้ำมุกเก่ารัฐบาลต้องลาออก

 

ส่วน กรณีที่พรรคพลังประชาชนเสนอให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อยุติความแรงและแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ พล.ต.จำลองกล่าวว่า พลเอกเปรมเป็นถึงรัฐบุรุษจะออกมาหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลก็ทำให้ท่านไม่สบายใจหลายเรื่อง ซึ่งตนและแกนนำพร้อมจะเจรจากับทุกฝ่ายไม่จำเป็นต้องไปรบกวนท่าน ไม่ว่าเวทีไหนก็พร้อม เพราะเราไม่มีอะไรปิดบัง ซึ่งข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯก็ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องลาออกไป และไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่ว่าใครจะมาคุยก็มีจุดยืนที่แน่นอนมาโดยตลอด

 

ขู่ พธม.เจอสงครามเต็มรูปแบบ

 

ต่อมา  พล.ต.ขัตติยะ  สวัสดิผล  ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ทางรายการลับ ลวง พราง ผ่านสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงเหตุระเบิดที่บริเวณสะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้การ์ดกลุ่มพันธมิตรฯบาดเจ็บและเสียชีวิตว่า ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว พวกระเบิดป่วนเมือง หรือวางระเบิดทีเอ็นทีทางตู้โทรศัพท์ วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯเจออาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ต่อไปนี้จะเจอของจริง ขอเชิญชวนให้ลูกพาพ่อแม่ออกจากทำเนียบรัฐบาลให้หมด เพราะปัจจุบันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี สั่งอะไรไม่ได้ ไม่ว่าตำรวจหรือทหาร เหมือนกับนายกฯไม่มีค่าต้องหนีไปดอนเมือง สัญลักษณ์ของชาติถูกยึดมา 2 เดือนกว่า ทำให้ประเทศอับอาย วันนี้กลุ่มต่างๆจึงไม่พึ่งตำรวจทหารแล้ว เพราะทหารไม่ทำ และตำรวจตีค่าเป็นศูนย์ จึงเหลือแค่กองกำลังต่างๆที่ไม่ทราบฝ่าย ซึ่งเขาเอาจริง อย่างทหารพรานก็ขนอาวุธลงมาจากอีสาน เพราะเขารัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนักรบศรีวิชัยก็ขนอาวุธขึ้นมาจากใต้

 

กร้าวจะมีคนตายเพิ่มขึ้น

 

“ผม รู้ว่าจะเกิด แต่ผมจะบอก และเตือนให้ออกไปซะ พวกเขาไม่มีความชอบธรรมที่จะมายึดทำเนียบรัฐบาล ถนนราชดำเนิน และขณะนี้ไม่เห็นหัวนักรบศรีวิชัย เพราะใช้กระสอบทรายบังหมด เมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจและทหารช่วยนักรบศรีวิชัย แต่เชื่อว่า 4-5 วัน ตำรวจจะเริ่มเบื่อ และนักรบศรีวิชัยจะโดนทันที เพราะฐานเขาอยู่กับที่ เราจะโจมตียังไงก็ได้ ซึ่งคนที่เข้าตีมีกองกำลังหลายฝ่าย หรือเรียกว่า คนจองกฐินกลุ่มพันธมิตรฯ มีจำนวนมาก อย่างคนปาระเบิดป้อมยามฝ่ายหนึ่ง คนไล่ยิงพันธมิตรฯตายอีกฝ่ายหนึ่ง จากนี้ไปจะเจอสงครามเต็มรูปแบบแน่นอน แต่ม็อบพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่บั่นทอนสถาบัน และไม่เกี่ยวกับม็อบราชมังคลากีฬาสถาน ที่เป็นการแสดงพลังสีแดง เพื่อรักษาพลังประชาชน ทั้งนี้ ผมไม่เกี่ยวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ นักรบพระเจ้าตากสร้างขึ้นมาให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการฝึกตามหลักสูตรทหารใหม่ แต่จากนี้ไปจะตายทุกวัน ทั้งนี้หากเมื่อคืนตำรวจทหารไม่อยู่ ทุกอย่างจบตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค.แล้ว” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

 

นายกฯ พร้อมร่วมสานเสวนา

 

ใน วันเดียวกัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักใน จ.เชียงใหม่ ถึงสถานการณ์การเมืองว่า รู้สึกเป็นห่วง คิดว่าทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบบ้านเมือง เมื่อวานได้เชิญ ผบ.ตร. ผบช.น.มาประเมินสถานการณ์ เราจะไปห้ามใครไม่ให้ทำอะไรนั้นลำบาก ถ้าเขามีสิทธิก็ต้องว่ากันไป แต่ขอว่าใช้สิทธินั้นอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย อย่าไปละเมิดสิทธิของคนอื่น ระดมกำลังตำรวจให้ดูแลเป็นพิเศษ อย่าให้มือที่สามเข้ามาสอดแทรก และขอร้องใครก็ตาม อย่าไปสร้างสถานการณ์ ทำอะไรตามสิทธิที่มีอยู่ก็ทำไป บ้านเมืองบอบช้ำมามากทำอะไรนึกถึงส่วนรวม นึกถึงคนยากคนจน เขาต้องทำมาหากิน เมื่อวานนี้ก็มีท่านศาสตราจารย์พรชัยเข้าพบ พูดในทำนองว่าท่านมีเวทีประสานสัมมนาอยู่ ถามว่าพร้อมมั้ยที่จะให้ความร่วมมือ ตนก็บอกว่าพร้อม ท่านถามว่ามีใครมั้ยที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่พูดให้ทุกคนฟังและยอมรับ ก็บอกว่าอย่างอาจารย์สุเมธออกมาพูด ก็ยังถูกวิจารณ์ ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ได้ตอบในสภาแล้ว คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว

 

กลุ่มตีนตบเชียงใหม่บุกไล่ ปชป.

 

ส่วน บรรยากาศหน้าโรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสัมมนาของพรรคประชาธิปัตย์ สาขาภาคเหนือ ซึ่งตามกำหนดจะมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และนายไพฑูรย์ แก้วทอง และมีกระแสข่าวออกมาว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เดินทางไปร่วมด้วยนั้น ปรากฏว่าทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือ นปก.เชียงใหม่ ได้ออกกระจายเสียงทางวิทยุชุมชน ระดมพลคนเสื้อแดงประมาณ 300 คน เข้าปิดล้อมทางเข้าออกของโรงแรมและมีป้ายผ้าเขียนด่านายอภิสิทธิ์ด้วยถ้อยคำ ที่รุนแรง และใช้ตีนตบ โดยแกนนำกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงขับไล่ให้คนทั้งหมดออกไปจากเชียงใหม่ ต้องระดมตำรวจกว่า 100 นาย เข้ารักษาความสงบ โดยกลุ่ม นปก.ประกาศขู่จะบุกเข้าไปในโรงแรมหากคนของพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เลิกและออก จากโรงแรม ขณะเดียวกัน ยังได้ปลุกระดมออกอากาศทางวิทยุชุมชนอ้างว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยกเท้าใส่กลุ่ม นปก.เชียงใหม่ สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่ม นปก.ที่มาปิดล้อมโรงแรมเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังขีดเส้นตายให้พรรคประชาธิปัตย์ เลิกสัมมนาในช่วงบ่าย หากยังไม่เลิกก็จะบุกเข้าไปในห้องประชุมของโรงแรมทันที

 

“เทพเทือก” นกรู้หลบไม่มางาน

 

ขณะ เดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานเข้าไปสังเกตการณ์ ในห้องประชุมไม่พบว่ามีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯพรรค มาร่วมประชุมแต่อย่างใด มีเพียงแต่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่นั่งประชุมกันเพียงไม่กี่คน โดยมีนายไพฑูรย์ แก้วทอง ประธานสาขาภาคเหนือ จัดสัมมนาอยู่ และทราบว่านายสุเทพเดินทางมาถึงโรงแรมและได้ขับรถวนเวียนไปมา ก่อนที่จะขับรถผ่านไป ขณะที่กลุ่ม นปก.เชียงใหม่ ยังคงปิดล้อมโรงแรมอยู่ และทยอยเข้ามาสมทบเรื่อยๆ

 

กลุ่มห้าวปิดล้อมทางออก

 

ต่อมาเวลา 14.00 น. ทางกลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มาร่วมในการสัมมนา เปิดแถลงข่าวโดยแจ้งวัตถุประสงค์ของการสัมมนาว่า เป็นการพัฒนาขีดความสามารถของกรรมการสาขาพรรคและเจ้าหน้าที่สาขาพรรคเท่า นั้น ไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือมายั่วยุใดๆ ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาฯ นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ภายหลังแถลงข่าว สมาชิกพรรคทยอยกันขึ้นรถยนต์เดินทางกลับ แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงปิดทางออกไม่สามารถผ่านออกไปได้ นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ต้องลงไปเจรจายกมือไหว้ เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมเปิดทาง แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงยืนกรานจะขอให้นายสุเทพมาพบกลุ่มผู้ชุมนุม ในขณะที่นายนคร ชี้แจงว่านายสุเทพไม่ได้มาร่วมงาน หลังเจรจาอยู่นานกลุ่มคนเสื้อแดงจึงยอมเปิดทางให้ผู้ร่วมสัมมนาออกจากโรงแรม แต่ก็ยังใช้ตีนตบตีข้างรถและสาดน้ำใส่ กว่าจะผ่านออกไปได้ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล

 

ขุนพลเสื้อแดงเปิดฉากถล่มเผด็จการ

 

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. การปราศรัยบนเวทีได้เริ่มขึ้น โดยนายมานิต จิตต์จันทร์กลับ กรรมการบริหาร นปช. ขึ้นปราศรัยคนแรกมีเนื้อหาโจมตีกระบวนการยุติธรรม ตามด้วยนายก่อแก้ว พิกุลทอง กรรมการ บริหาร นปช. ที่ปราศรัยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการปิดสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เนื่องจากเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยและความสงบเรียบ ร้อยของประเทศ จากนั้นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ปราศรัยตอนหนึ่งมีใจความว่า วันนี้พวกเราแทบน้ำตาไหลที่เห็นประชาชนมามืดฟ้ามัวดิน แบบนี้หน้าไหนที่คิดจะยึดอำนาจพวกเราจะต่อต้านทันที ขอย้ำว่าจะต่อต้านทันที โปรดฟังอีกครั้งใครยึดอำนาจเราจะไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวงทันที ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัดให้รวมพลที่ศาลากลางก่อนเคลื่อน พลไปที่สนามหลวง หากเจอรถถัง หรือทหารถือปืนให้คนเสื้อแดงเข้าไปล้อม มีคนสงสัยใครตั้งชื่อรายการความจริงวันนี้นั้น คนที่ตั้งให้คือนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ส่วนที่เราได้ประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะโฟนอินมายังเวที ตกใจกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะพวกเผด็จการ ด่า พ.ต.ท.ทักษิณมา 3 ปี พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินไม่กี่นาทีทำท่าจะเป็นจะตาย

 

ขย่ม “สนธิ” เป็นพวกไร้เครดิต

 

นาย จตุพรกล่าวว่า กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณโฟนอินเข้ามาไม่มีปัญหา แต่ต้องพูดสารภาพผิดนั้น ขอให้นายอภิสิทธิ์ไปเกณฑ์ทหารให้เรียบร้อยก่อน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณทำประโยชน์ให้ประเทศมากมาย แต่การไม่ไปเกณฑ์ทหารถือเป็นคนไม่รักชาติ เหมือนกรณี คตส.ที่ตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เจอแบบนั้นบ้าง นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ คงติดคุกในคดี ปรส.แน่ ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เคลื่อนไหวกู้ชาตินั้น นายสนธิเป็นคนที่ล้มละลายยังมีหน้ามากู้ชาติอีก อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบตบหน้าผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เช่น ระบุว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ไปรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กระทำการบางอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ฉุนมากจึงไปออกที่รัฐบาล โดยกดดันให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ถ้า พล.อ.อนุพงษ์ไม่ฟ้องคดีหมิ่นนายสนธิที่กล่าวหา ขอให้มายืมเท้าตบไปตีปากนายสนธิได้

 

ยุพวกเสื้อแดงล้อมวงคนเสื้อเหลือง

 

นาย จตุพรกล่าวอีกว่า ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯ สวมเสื้อสีเหลืองนั้น ขอให้ถอดเสื้อเหลืองออก เพราะไม่ใช่สีของนายสนธิ แต่เป็นสีของคนไทยทั้งชาติ ต่อไปถ้าเห็นใครใส่เสื้อสีเหลืองขอให้คนใส่เสื้อสีแดงไปล้อมได้เลย นายสนธิเป็นใครถึงได้มีพฤติกรรมอย่างนี้ สรุปถ้าไม่ได้ เป็นอะไรมันคงเป็นบ้า ทั้งนี้  ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ชอบบอกว่ามีคนมาร่วมชุมนุมมาก  ความจริงคนมาแค่พันก็บอกมาหมื่น มาหมื่นก็บอกมาแสน ถ้าของจริงต้องที่นี้ที่มีคนมารวมพลังนับแสนคน ต่อไปนี้ขอประกาศว่ากูไม่กลัวมึง  โดยเราจะหารือกันหลังจากนี้ที่จะจัดเวทีสัญจรต่างจังหวัด ไปทุกภาคไม่เว้นภาคใต้ เราขอสัญญาใจจะปกป้องประชาธิปไตยจะขับไล่เผด็จการ

 

“อ๋อย” จวกแหลกทหารคิดทำ ปว.

 

จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ขึ้นเวที โดยประเดิมด้วยการร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา และได้กล่าวปราศรัยโจมตีการรัฐประหารอย่างดุเดือด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันต่อต้านการทำรัฐประหาร หากมีทหารออกมาอีก

 

“วีระ” เปิดวีทีอาร์ย้อนหลังอดีต

 

จนกระทั่งเวลา 20.25 น. เวลาที่แฟนคลับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รอคอยก็มาถึง เมื่อนายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า ตอนนี้ในทำเนียบรัฐบาลเหลือแต่พวกสัมภเวสีเท่านั้น เพราะประชาชนคนไทยทั้ง 63 ล้านคนมาชุมนุมที่นี้กันหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปจะมอบหมายเวลาทั้งหมดของตนให้นักโทษชายที่ถูกข่มเหงกดขี่จากอ ยุติธรรม จึงได้ติดต่อโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าขอพูดด้วยคนในเวทีคนเสื้อแดง สัก 10 นาทีเท่านั้น เพื่อคนที่ประชาชนรักปรากฏว่าเดือดร้อนกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตั้งแต่พลทหารจนถึงนายพล ตนบอกไปว่าส่วนตัวไม่มีปัญหา ผมขอรับผิดชอบทั้งหมด ประชาชนในวันนี้อยากเห็นนักโทษชายพูดหรือไม่ก่อนจะได้ยินเสียงสดๆขอให้ได้ชม วีทีอาร์ก่อน โดยระบุว่า เล่าเรื่องตั้งแต่การทำงานที่มีนโยบายที่ดีจนได้รับเสียงท่วมท้น 2 ครั้ง จนมีการทำลายล้างอย่างรุนแรงเพื่อหวังปิดฉากทักษิณและประชาธิปไตยให้สิ้นซาก เริ่มต้นจากข้อกล่าวว่า หาไม่จงรักภักดี แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงมีการวางแผนลอบสังหารแต่ก็ไม่สำเร็จอีก ต่อมาจึงเกิดรัฐประหาร มีการข่มเหงรังแกไม่ให้กลับมามีอำนาจอีก ต่อมากระบวนการตุลาภิวัตน์เดินหน้าเช็กบิลอย่างที่ตั้งธงไว้ ตบท้ายด้วยการเปิดเพลงคิดถึงเธอ

 

“ทักษิณ” โฟนอินข้ามชาติรัก ปชต.

 

จากนั้น ทักษิณกล่าว “สวัสดีท่านวีระและคนไทยทุกคน อยากบอกว่ารักประชาธิปไตยและรักความยุติธรรมเหลือเกิน วันนี้น่าชื่นใจมากที่มากันเยอะเหลือเกิน” วีระถามแทรกว่า ประชาชนเขารักท่านมากเหลือเกิน ทักษิณกล่าวว่า “ตรง นี้เป็นกำลังใจให้มากเลย เป็นกำลังใจให้หายทุกข์ได้ ผมอยู่ได้ทุกวันนี้มีคนบอกว่าคนที่โดนอย่างผมแค่รักษาลมหายใจได้ก็เก่งแล้ว ถ้าไม่ได้กำลังใจจากท่าน ผมคงอยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ผมคิดถึงพวกท่าน คิดถึงเวทีปราศรัย เพราะเวลาที่พูดเวทีปราศรัยเหมือนเอาหัวใจมาพูดกัน แล้วพวกท่านคิดถึงผมหรือไม่ครับ ผมคิดถึงเหลือเกิน แต่กลับไปไม่ได้ เขาสั่งจำคุกผม 2 ปี แต่อายุยาวนานถึง 10 ปี แล้วพี่น้องประชาชนจะเก็บผมไว้ต่างประเทศไว้นานขนาดนั้นเลยหรือครับ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเรื่องที่ผมจะมาพูดบนเวทีก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้น โธ่ ผมไม่ใช่หัวหน้าม็อบ”

 

ลั่นถูกกระบวนการยุติความเป็นธรรม

 

จากนั้นนายวีระพูดแทรกขึ้นมาว่า ตอนนี้คนทั้งประเทศลงมติกระบวนการยุติธรรมที่ใช้เป็นกระบวนการที่ใช้ไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า “ตรง นี้ถือเป็นกระบวนการที่ยุติความเป็นธรรม ลองคิดดูว่า นายกฯคนหนึ่งที่ทำงาน รัฐบาลมีกระแสดี ได้รับเลือกตั้งถล่มทลายกลับถูกลอบฆ่า โดนปฏิวัติ ปกติจะกระทำกันในช่วงที่รัฐบาลไม่ดี รัฐบาลนี้ไม่มีปัญหา แต่กลับถูกกระทำ ทำให้ประเทศเสียหาย โดยเอากระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นธรรมมาจัดการ

 

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า “สิ่ง ที่เกิดขึ้นผมไม่ได้รับความเป็นธรรม การไม่ได้รับความยุติธรรมทำให้ประชาชนต้องมารวมตัวกันต่อสู้ ผมและครอบครัวถูกทำร้าย ถูกอายัดทรัพย์ที่หามาได้ทั้งชีวิต ชีวิตครอบครัวกระสานซ่านเซ็น พ่อแม่ลูกอยู่คนละทิศ ละทาง แต่ความเดือดร้อนของผมและครอบครับยังไม่เทียบเท่าความเสียหายของประเทศ ผมเป็นพวกบ้างาน เป็นพวกไฮเปอร์แอ็คทีฟ ไม่มีอะไรก็กลัวสมองฝ่อ อยู่ต่างประเทศจึงไปซื้อทีมฟุตบอลมาทำก่อนขายให้กลุ่มบูอาบี้เพื่อเอาเงินมา จุนเจือครอบครัว ผู้นำหลายประเทศขอให้ผมไปเป็นราษฎรกิตติมศักดิ์ เพื่อไปแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศ ทำให้ใครก็ได้ในโลก แต่กลับทำให้ประเทศไทยไม่ได้

 

ขอพระบารมีพระเมตตาให้กลับบ้าน

 

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวด้วยว่า “ใครก็เอาผมกลับบ้านไม่ได้ นอกจากพระบารมีที่ทรงมีพระเมตตา หรือพลังจากประชาชนเท่านั้น” ขณะ ที่นายวีระพูดแทรกขึ้นมาว่า คงเป็นไปได้ในระยะอันใกล้ตรงนี้เป็นความร่วมมือโดยอาศัยพระบารมีบวกกับพลัง รากหญ้าที่เรียกว่า ราชประชาสมาสัย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดต่อว่า “ฟัง แล้วขนลุก เย็นเหมือนศิระพระบริบาล เอาละมาดูหน้าตาผมดีกว่าว่าโทรมขนาดไหน ไม่โทรมก็แย่แล้ว ตอนไปภาคอีสานชาวบ้านบอกว่าหล่อ แต่ตอนนี้ถ้าเห็นผมคงทักว่าแก่ไปเยอะแล้ว” จากนั้นเปิดวีทีอาร์พร้อมกับกล่าวทักทายประชาชนและขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจสนับสนุน

 

“ทักษิณ” ปลุกระดมต้านปฏิวัติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณได้โฟนอินเข้ามาในรายการ และปราศรัยกับผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 10 นาที พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวกับผู้ร่วมชุมนุมว่า ขอให้พี่น้องได้พบกับภาพและเสียงของตนจะดีกว่า จากนั้นภาพบนจอโปรเจกเตอร์ก็เปลี่ยนเป็นภาพ พ.ต.ท. ทักษิณในชุดสูทสีดำ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน และกล่าวว่า วันนี้อยากชี้แจงกับประชาชนว่า การรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อ 19 ก.ย. 2549 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอะไรบ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศที่มีความ เสียหายมาก จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เป็นอนาคต ซึ่งถูกทำลายหมดแล้ว มีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม เพราะความต้องการที่จะจัดการนักการเมืองคนหนึ่ง และพรรคการเมืองพรรคหน

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1377

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 02 พ.ย. 51 เวลา 10:06:47
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี