| • ปาบึ้ม! ข้างเวทีพันธมิตรเจ็บ 3 |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 11 พ.ย. 51 เวลา 10:23:57 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลังจากที่ประเทศอังกฤษตัดสินใจถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการ “โฟนอิน” ข้ามประเทศเข้ามาในรายการ “ความจริงวันนี้สัญจร” ครั้งที่ 2 ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นั้น
ไม่กังวล “ทักษิณ” ถูกถอนพาสปอร์ต
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และผู้จัดรายการ “ความจริงวันนี้” ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกอังกฤษถอนวีซ่าว่า ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล พ.ต.ท. ทักษิณยังมีพาสปอร์ตและวีซ่าอีกหลายประเทศ การที่อังกฤษถอนวีซ่าอาจจะมีข้อดี ทำให้นำเหตุผลดังกล่าว เพื่อไปขอลี้ภัยได้ เพราะอังกฤษถือเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย และรู้อยู่แล้วประเทศไทยถูกกระทำรัฐประหารสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ยังมาถอนวีซ่าอีก เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวว่าเหตุผลการถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาจากการโฟนอินเข้ารายการความจริงวันนี้เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายจตุพรตอบว่า อังกฤษเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย เป็นประเทศมีความเป็นศิวิไลซ์ ไม่ควรนำเรื่องนี้มาอ้างเป็นเหตุการถอนวีซ่า ไม่เหมือนบางประเทศที่งี่เง่า วันนี้ใครจะพูดอย่างไรก็ช่าง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก อีกไม่นานเชื่อว่าปัญหาต่างๆจะคลี่คลาย เพราะพลังประชาชนที่ท่านพูดไว้ในช่วงโฟนอินนั้น ตรงนั้นเป็นเรื่องที่มีขั้นตอน ตรงนั้นจะต้องมาดูว่าจะทำอย่างไร เพราะอยู่ที่ว่าขอเพียงท่านพร้อม พวกเราก็พร้อม ส่วนกรณีที่รายการความจริงวันนี้สัญจรครั้งที่ 3 ที่จะจัดที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินเข้ามาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับท่าน เราพร้อมเสมอที่จะให้โฟนอิน
“พัลลภ” จวกพันธมิตรเลอะเทอะ
วันเดียวกัน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เปิดเผยภายหลังเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ตนเกิดความสับสน เพราะประเทศชาติไม่มีความมั่นคง เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง เป็นก๊กเป็นเหล่า และทำท่าจะเกิดสงครามกลางเมือง ตนไม่อยากเห็น ในสายตาคนไทยด้วยกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อน จปร.7 ได้หารือและล็อบบี้ให้ตนไปช่วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ตนจึงได้คุยกับเพื่อนว่า การเมืองใหม่ที่เสนอกันขึ้นมา จะเสนอเข้าสู่อำนาจรัฐได้อย่างไร ถ้าไม่มีอำนาจรัฐก็ไม่สามารถไปได้ และในเมื่อไม่มีปฏิวัติรัฐประหาร รัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะทุกคนนิ่งกันหมด จึงบอกไปว่า กลุ่มพันธมิตรฯวันนี้เริ่มเลอะเทอะโดยเอาไสยศาสตร์ คาถาอาคมเข้ามาเล่น โดยเฉพาะการเอาผ้าอนามัยมาถูที่ฐานพระบรมรูปทรงม้า (ร.5) เรื่องนี้ ตนรับไม่ได้ เพราะประชาชนทั้งประเทศสักการะพระ บรมรูป ร.5 โดยเฉพาะผู้ที่จบ จปร.ถือว่าเป็นพระบิดา
จับเข่าคุย “ทักษิณ” ยันจงรักภักดี 100%
พล.อ.พัลลภกล่าวอีกว่า ในการเดินทางไปประเทศจีนกับเพื่อนร่วมรุ่น จปร.7 ประมาณ 3-4 คน บังเอิญรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ประเทศจีน ก็ติดต่อขอเข้าพบ เพราะอยากเจอ เพื่อที่จะถามเรื่องที่มีคนกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่มีคนกล่าวหาว่าท่านไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงเรื่องที่ท่านถูกกล่าวหาอยู่เบื้องหลัง ความวุ่นวายในประเทศทุกวันนี้ และจะทำอย่างไรให้ ประเทศได้อยู่อย่างสันติสุข พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่า มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และผมก็เชื่ออย่างนั้น เพราะพวกเราที่จบมาจากโรงเรียนทหาร ตำรวจ ถูกหล่อหลอมมาให้ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านก็ถามผมกลับมาว่าเชื่อหรือไม่ จากการที่ผมสังเกตด้วยจากคำพูด สีหน้า ลักษณะท่าทาง ผมมีความเชื่อ และมีอย่างหนึ่งท่านก็บอกว่า กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ พ.ต.ท.ทักษิณยังย้ำอีกว่า ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เพราะจบมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เคยสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน
บ้านเมืองจะสงบถ้า พธม.ยุติบทบาท
เมื่อถามว่า ได้ถาม พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ที่ถูกกล่าวหาในเรื่องความไม่จงรักภักดี พล.อ.พัลลภกล่าวว่าพูดง่ายๆ พ.ต.ท.ทักษิณเฮิร์ตและวอรี่กับเรื่องนี้มาก ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เคารพต่อสถาบัน และต้องการเปลี่ยนแปลงสถาบัน พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่าไม่เคยคิดสักนิดเดียว ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณย้ำว่าเรื่องการกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งหมด สำหรับปัญหาเรื่องความแตกแยกของคนในชาตินั้น ตนและท่านมีความเห็นตรงกัน คือไม่อยากเห็นคนไทยต้องหาฆ่ากันและเกิดความแตกแยก จึงถามไปว่าจะยุติปัญหาได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่ามีทางเดียว ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯยุติบทบาท ก็จะทำให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พล.ต.อ. สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ยุติบทบาทลง ทุกอย่างก็จะยุติลง แต่ปัญหาขณะนี้อยู่ที่กลุ่มพันธมิตรฯ รัฐบาลก็จะต้องบริหารประเทศไป เพราะว่ารัฐบาลเข้ามาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และได้รับการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างถูกต้อง ถ้าไม่ไว้ใจรัฐบาล องค์กรตรวจสอบในวันนี้มีเยอะ ก็สามารถตรวจสอบและดำเนินคดีได้ นี่คือคำตอบที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้บอกกับตน
ระบุ “จำลอง” ไปไกลเกินกว่าจะคุย
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้แนวทางในการแก้ไขปัญหากลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้คำว่าถ้ากลุ่มพันธมิตรฯยุติเท่านั้น ส่วนแนวทางไม่ได้พูดถึง เพียงแต่ว่าตนมีประสบการณ์เยอะ ให้ไปคิดเองว่าจะยุติอย่างไร สามารถคุยกับ พล.ต.จำลอง ได้หรือไม่ ตนจึงบอกว่า พล.ต.จำลองวันนี้ไปไกลแล้วคุยกันไม่รู้เรื่อง จะพูดอย่างไรเขาก็คงไม่ฟัง ตนก็พยายามจะคุยกับ พล.ต.จำลอง หากมีโอกาส ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ขาด พล.ต.จำลองไปคน ก็คิดว่าจะทำให้สถานการณ์แกว่ง เพราะแกนนำที่แท้จริงมีเพียงแต่ พล.ต.จำลอง กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล เท่านั้น
อดีตนายกฯพร้อมกลับไทยมาสู้คดี
“พ.ต.ท.ทักษิณมีความเป็นห่วงประเทศชาติมาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เพราะทั่วโลกประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ ฉะนั้นประเทศไทยจะลำบาก ทั้งปีนี้และปีหน้าจะรุนแรง ถ้าบริหารจัดการไม่ได้ประเทศชาติจะลำบาก ท่านมีความเป็นห่วง ส่วนเรื่องคดีของ พ.ต.ท. ทักษิณนั้น ท่านบอกว่าไม่มีปัญหา ขอให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เป็นปกติ ต้องรอให้เป็นปกติก่อนเขาจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศถอนพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ท่านก็บอกว่าไม่มีปัญหา เพราะยังมีอีกหลายประเทศที่ยังรองรับเขาอยู่ ตอนนี้ต้องขอเวลานิดหนึ่ง แล้วจะกลับมาเคลียร์ปัญหาทั้งหมด” พล.อ.พัลลภกล่าว
ฉะพันธมิตรฯชอบแอบอ้างสถาบัน
พล.อ.พัลลภกล่าวว่า โอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยเป็นไปได้สูง แต่จะต้องรอระยะเวลาสักนิดหนึ่ง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง เพราะขณะนี้มันไม่ถูกต้อง พูดง่ายๆว่ามีการใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย อย่างกลุ่มพันธมิตรฯ ใช้กฎหมู่บังคับโน้นบังคับนี้ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ฉะนั้นในการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังลำบาก แต่ท่านก็ติดตามการเมืองไทยอยู่ตลอด เพราะยังมีความเป็นห่วงและวอรี่เรื่องสถาบันมาก เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะยุติบทบาทลงอย่างไร พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ต้องยุติด้วยข้อกฎหมาย เพราะวันนี้ที่เขาอ้างมามันไม่ใช่ เช่น อ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับไปยึดทำเนียบรัฐบาลและสร้างบังเกอร์ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ดีต่อประเทศ ยิ่งกว่าสงครามเวียดนามเสียอีก เหมือนอยู่ในสภาวะสงคราม ไม่สง่างามต่อประเทศ คนที่มาเที่ยวก็ไม่อยากจะมา และคนก็ไม่อยากมาลงทุน วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯพยายามอ้างสถาบันมาโดยตลอด ทหารเคยมีคำขวัญที่ว่าอย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน วันนี้เลอะเทอะกันไปใหญ่ เราจะไปทำอะไรเขาไม่ได้ รวมถึงการปิดเส้นทางเสด็จ พระราชดำเนิน ไหนว่าจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เรื่องนี้ประชาชนโดยทั่วไปรับไม่ได้
ทหารเข็ดขยาดปฏิวัติชาติเสียหาย
เมื่อถามว่า มองบทบาทของกองทัพตอนนี้อย่างไร พล.อ.พัลลภกล่าวว่า บทบาทของทหารในขณะนี้อยู่ในสภาวะลำบาก เพราะการปฏิวัติที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว ทำให้ทหารจะต้องระวังตัวมาก ทหารจะออกมาทำอะไรก็ยากมากที่จะเข้ามาแก้ไข เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะให้นโยบาย ทหารเองก็คิดว่าทุกคนพร้อมอยากเห็นบ้านเมืองสันติสุขแต่อยู่ในสภาวะที่ทำ อะไรไม่ได้ เมื่อถามว่า ถ้าหากมีการปะทะกันของประชาชน ทหารจะต้องออกมาระงับเหตุการณ์ใช่หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ทหารจะต้องออกมาแน่ แต่จะต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน โดยทหารจะออกมาในลักษณะควบคุมเหตุการณ์ มากกว่าทำการปฏิวัติ เพราะบทเรียนคราวที่แล้ว ทำให้ทหารเข็ดขยาดประเทศชาติเสียหาย
เห็นใจสมชายบริหารชาติบนความกดดัน
เมื่อถามว่า มองบทบาทผู้นำทหารอย่างไร พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ผบ.เหล่าทัพทุกคนเป็นคนดีใช้ได้ แต่ถูกเรียกร้องจากกลุ่มพันธมิตรฯให้ทหารทำการปฏิวัติ ซึ่งมีทั้งชมและด่า ทั้งนี้ เรื่องการปฏิวัติทหารจะไม่ทำ น่าเห็นใจ ผบ.เหล่าทัพที่ถูกกดดัน ฉะนั้น ทางที่ดีที่สุด ผบ.เหล่าทัพจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมที่จะเข้ามาระงับเหตุการณ์หากเกิดการจลาจล หรือนองเลือดระหว่างประชาชนกับประชาชน แนวความคิดที่ทหารจะปฏิวัติแทนที่สงครามจะเล็ก ก็จะกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่จะทำให้ประเทศชาติเสียหายบอบช้ำไปมากกว่านี้ ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐบาลอยู่ภายใต้การกดดันแบบนี้ทำอะไรก็ไม่ได้ มีแต่คนด่า ตอนนี้อยู่อย่างลำบาก ภาวะการเป็นผู้นำจะต้องอดทนสูง น่าเห็นใจนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
โหรทำนายปี 52 มีเหตุย้อนรอย 14 ต.ค.
ขณะเดียวกัน นายเก่งกาจ จงใจพระ โหรชื่อดัง ได้ออกมากล่าวถึงดวงเมืองไทยในขณะนี้ว่า ในปีหน้า 2552 เป็นปีที่เปลี่ยนแปลงแรง เพราะว่าดาวพฤหัสที่เป็นดาวประจำประเทศไทยจะย้ายเข้าราศีมังกร ไปร่วมกับดาวราหู ดาวพฤหัสจึงเสื่อมไปไม่มีกำลัง เพราะดาวราหูถือเป็นดาวทำลาย ทำให้ทุกคนเห็นสิ่งผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว และจะมีภัยธรรมชาติรุนแรงมาก มีแผ่นดินไหวหลายจุดทั่วโลก ทั้งนี้ ด้านการเมืองต้องรอผลการตัดสินคดียุบพรรคจึงจะเห็นภาพ ส่วนกองทัพยังแข็งแรงเป็นตัวหลัก แต่ดวงในปีนี้ไม่ควรจะปฏิวัติ แต่ปีหน้าไม่แน่ เพราะจะมีเหตุการณ์เหมือน 14 ต.ค. ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.จึงต้องระวัง เพราะจะรุนแรงมากอาจถึงขั้นนองเลือด และห่วงว่ามีการนำระเบิดมาโยนใส่กัน ขณะนี้ทหารไม่ควรออกมา เพราะดวงยังเป็นมฤตยู รอให้เขาล่อกันให้เละแล้วค่อยมาเคลียร์ และเก็บศพ เหตุการณ์จึงจะสงบ ทั้งนี้ หากมีการปฏิวัติจะมีความวุ่นวายตามมาแน่นอน
“อนุพงษ์” มีดวงขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ
นายเก่งกาจกล่าวว่า ดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาประเทศไทยยาก เพราะดวงในปลายปีหน้า ดาวเสาร์จะไปทับลักษณ์ และจะไม่ดีไปจนถึง 60 ปี โดยเฉพาะอายุ 60 ปี รวมถึงดวงของคุณหญิงพจมาน ภริยา หากจะแก้ต้องแก้หลายอย่าง แต่ท่านคงไม่เชื่อ ส่วนรัฐบาลชุดนี้คงร่อแร่ไปเรื่อย และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี คงอยู่ไม่ถึงสิ้นปี ส่วนดวงผู้นำคนต่อไปต้องรอว่าจะเสนอใครแล้วนำดวงมาผูกกับดวงเมืองว่าจะไปกัน ได้หรือไม่ ส่วนดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน พอได้ แต่ถือว่าเร็วเกินไป ส่วนบุคคลที่เหมาะสมจะมาเป็นผู้นำตอนนี้ ควรจะเป็นทหารที่เข้าเป็นผู้ดูแลปัญหาต่างๆจึงจะเรียบร้อย เพราะต้องมาหยุดปัญหาตอนนี้และมาปรับกันใหม่จะเอาอย่างไร ช่วงนี้ดวงของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.น่าจะเหมาะสมที่จะมารักษาการ ซึ่งเหตุการณ์จะคล้ายกับสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ปี พ.ศ. 2522 ในยุคข้าวยากหมากแพง แต่ตอนนี้คงยังมาไม่ได้เพราะเหตุการณ์ยังไม่สุกงอม ต้องรอให้ถึงที่สุดก่อน ส่วนดวงของรัฐบาล ตราบใดที่รัฐบาลยังอยู่ดอนเมือง รัฐบาลจะยิ่งใหญ่ไม่ได้ เพราะดอนเมืองเป็นดาวมฤตยู เป็นเขตทหารอากาศธาตุลม ผู้นำเมื่อไปอยู่ที่นั่นต้องหมดกำลัง เหมือนงูเหลือมเจอเชือกกล้วย รัฐบาลต้องอยู่ที่ทำเนียบ ซึ่งถือเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมือง แต่ตอนนี้รัฐบาลต้องหาที่อยู่ที่เป็นธาตุไฟและมีสัญลักษณ์ครุฑอยู่จึงจะอยู่ รอดในช่วงนี้
หยัน “สนธิ” เริ่มเพี้ยนเป็นผีบุญ
นายเก่งกาจยังกล่าวถึงดวงของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะการเริ่มใช้ไสยศาสตร์ว่า ปัญหาบ้านเมืองจะมาใช้ไสยเวทแก้ปัญหาไม่ได้ โดยเฉพาะไสยศาสตร์ด้านมืด ยิ่งจะทำให้เกิดความเสื่อมมากกว่า ตอนนี้นายสนธิเริ่มเพี้ยนใกล้จะกลายเป็นผีบุญทุกวัน กำลังจะกลายเป็นศาสดา การใช้ผ้าอนามัยมาวางไว้ที่พระบรมรูป ร.5 ยิ่งทำให้เสื่อม ส่วนที่พันธมิตรฯหันมาเล่นไสยศาสตร์ เพราะต้องการสร้างกระแส บิดเบือน เนื่องจากคนไทยชื่อไสยศาสตร์ จึงนำเรื่องนี้มาจับ และยิ่งไม่เปิดเส้นทางเสด็จฯยิ่งทำให้เสื่อม พันธมิตรฯเป็นดวงของดาวพฤหัสฯซึ่งเป็นสีเหลือง โดยดาวพฤหัสจะเริ่มเสื่อมลงหลังจากเดือน ธ.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้แรงมาก แต่เมื่อเข้าใกล้เดือนธันวาคม ดาวพฤหัสฯจะอ่อนแรงลง เพราะจะเริ่มเข้าใกล้ดาวมังกรที่จะแรงขึ้นในปีหน้า ซึ่งสีของดาวมังกรคือสีแดง ดังนั้นปีหน้าสีแดงจะมีกำลังแรงเสริมเพิ่มมากขึ้น โดยดาวพฤหัสฯกับดาวมังกรจะโคจรมาเจอกันช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ซึ่งจะทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ทางแก้ประชาชนควรอยู่เฉยๆหรือเดินสายกลาง จากนั้นจะมีพลังบางอย่างเข้ามาช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย สรุปคือปีหน้าเป็นปีถอนรากถอนโคนว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งหลังปี 2553 จะดีขึ้นเรื่อยๆยาวนาน 20 ปี เรียกว่า ปีที่แล้วเผาหลอก ปีนี้เผาจริง ปีหน้าเก็บกระดูกไปลอยอังคาร
พิภพเรียกร้องรัฐบาลแสดงท่าทีชัดเจน
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ เวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวรายวันที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ กรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธเรื่องความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล นายพิภพกล่าวว่า นายสมชายจะปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลจำคุก 2 ปี รัฐบาลจะต้องแสดงท่าทีออกมาให้ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างไรที่จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาลงโทษตามคำพิพากษา แต่รัฐบาลไม่ทำ และจะมาปัดความรับผิดชอบไม่ได้
โบ้ยการ์ด พธม.ที่พกระเบิดเป็นอดีตการ์ด
พล.ต.จำลองกล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดเมื่อกลางดึกวันที่ 10 พ.ย. ว่า ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ เพราะจุดเกิดเหตุ นอกพื้นที่ชุมนุม ส่วนกรณีที่การ์ดพันธมิตรฯ 2 คน ถูกตำรวจตรวจพบว่าพกระเบิดนั้น เป็นการ์ดของพันธมิตรฯ ที่ชอบใช้ความรุนแรงและถูกให้ออกไปแล้ว แต่การ์ดคนดังกล่าวได้กลับมาใหม่พร้อมกับนำอาวุธเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุจน ถูกตำรวจจับตัวไป ส่วนที่มีบัตรแสดงตัวเป็นการ์ดพันธมิตรฯนั้น คนที่มาเป็นการ์ดสามารถมีบัตรได้ โดยในระยะแรกพันธมิตรฯอาจไม่รัดกุมกับเรื่องนี้ ทำให้ผู้ที่เคยมีบัตรแล้วถูกให้ออก นำบัตรติดตัวไปด้วย อีกทั้งบัตรดังกล่าวปลอมแปลงได้ ส่วนกิจกรรมในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า พันธมิตรฯจะทำกิจกรรมภายในที่ชุมนุม โดยเฉพาะวันที่ 14-16 พ.ย. ได้ชักชวนให้ผู้ชุมนุมใส่ชุดสีดำและสีขาว เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัย แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ
ยันสนธิไปจีนแต่ไม่ได้พบทักษิณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีประกาศจะเดินทางไปจีน นายพิภพ กล่าวว่า นายสนธิบอกว่าจะไปเพื่อเล่าข้อมูลเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้คนรู้จักฟัง แต่ไม่รู้ว่าจะไปวันไหน ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อเจรจาข้อตกลงบางอย่างหรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะการต่อสู้ของพันธมิตรฯ อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย อีกทั้งคดีความต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปเจรจาหรือตกลงอะไรกัน ส่วนเรื่องไสยศาสตร์ที่นายสนธิมักนำมาปราศรัยบนเวที เป็นเหตุให้แรงสนับสนุนลดลง นายพิภพกล่าวว่า เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟัง หลายเรื่องที่นำมากล่าวบนเวทีก็ไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นความรู้ทางวิชาการ ส่วนไสยศาสตร์คิดว่าเป็นเรื่องวัฒนธรรม ยืนยันว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯไม่ได้นำเรื่องไสยศาสตร์มาโยงกับการต่อสู้
ล่ารายชื่อขอนิรโทษกรรมให้ 3 ฝ่าย
ต่อมาเวลา 11.00 น. กลุ่มเยาวชนร่วมจิตสำนึกประชาธิปไตย นำโดยนายวีรภัทร คันธะ สมาชิกสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสุดชาย บุญไชย ผู้ประสานงานกลุ่มฯ และผู้ติดตามอีกหนึ่งคน มาตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่หน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม นายวีรภัทรกล่าวว่า หลังจากที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ จึงต้องการเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงและเรียกร้องให้ชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมลงชื่อ 1 แสนรายชื่อ ขอนิรโทษกรรมแก่แกนนำพันธมิตรฯ กลุ่ม นปช. รวมไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น ปรากฏว่ามีอาจารย์ของโรงเรียนราชวินิตมัธยม ได้เข้ามาต่อว่ากลุ่มดังกล่าวว่า ใครอนุญาตให้มาใช้สถานที่แห่งนี้ และไล่ให้ไปแถลงข่าวที่อื่น
รุมจวกสนธิทำศาสนาเสื่อม
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯนุ่งขาวห่มขาว ประกอบพิธีประพรมน้ำมนต์ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยอ้างว่าเป็นการทำพิธีเพื่อ ขจัดสิ่งชั่วร้ายว่า การประพรมน้ำมนต์นั้น นอกจากพระสงฆ์แล้ว ผู้ที่จะทำได้ต้องเป็นผู้ที่ถือศีล มีความบริสุทธิ์ น่านับถือ และน่าเลื่อมใสเท่านั้น ถึงจะมีความเหมาะสมที่จะทำได้
ด้านพระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า กรณีนายสนธิไม่ทราบข้อเท็จจริงในรายละเอียดถึงการประกอบพิธีประพรมน้ำมนต์ แต่อย่างใด อาจเพื่อ สร้างขวัญหรือกำลังใจให้กลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น ทั้งนี้ ในสังคมไทยเราส่วนใหญ่ ผู้ที่จะประกอบพิธีประพรมน้ำมนต์ ควรจะเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชน ส่วนเรื่องความเหมาะสมที่นายสนธิประกอบพิธีประพรมน้ำมนต์นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
พธม.ยอมเปิดถนนแค่ตอนกลางวัน
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ช่วงกลางคืน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงว่า แม้จะทราบชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางเสด็จฯ ไปใช้ เส้นทางอื่น แต่ที่ประชุมแกนนำมีมติให้เปิดถนนราช�ดำเนิน ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. เพื่อแสดงความจงรักภักดีและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีเจตนาอย่างที่ ตำรวจ พยายามบิดเบือนสร้างข่าวให้เสียหาย โดยจะเปิดถนนในช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนยังปิดเหมือนเดิม ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ที่จะเดินทางไปร่วมงานพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพฯ ส่วนการขนย้ายข้าวของจะเริ่มย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากผิวการจราจรทุกช่องทาง ยกเว้นบริเวณริมกำแพงทำเนียบฯ จะยังต้องคงไว้เพื่อเป็นจุดป้องกัน ในช่วงดึกคืนวันที่ 10 พ.ย. เป็นวันแรก ส่วนร้านค้าต่างๆ ก็จะขยับออกไปตั้งบริเวณถนนเลียบคลองข้างคุรุสภา และหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฯ วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร
ท้าทักษิณแฉใครอยู่เบื้องหลังการขับไล่
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินแฉว่า ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการขับไล่ ถือว่าเป็น เรื่องดีที่จะได้รู้ว่ามีใครเป็นศัตรูบ้าง จะได้ไม่ต้องไปพูดอ้างว่าเป็นผู้มีบารมีบ้าง หรือเป็นชนชั้นสูงบ้าง แต่เชื่อว่ารายชื่อศัตรูคงมีมากจนอ่านไม่ไหว เพราะไม่มีใครชอบที่ไปหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ และถ้าจะให้เรื่องการเอาคนผิดมาลงโทษได้ข้อยุติ กระทรวงการต่างประเทศและอัยการสูงสุด ต้องกลับมานับหนึ่งว่าใครเป็นเจ้าภาพกันแน่ และมีแผนในการเอาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารับผิดอย่างไร ทุกวันนี้มีแต่ข้ออ้างว่าติดขัดเรื่องนั้นเรื่องนี้แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า คนผิดจึงมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สำหรับพันธมิตรฯ ไม่กลัวที่จะมีการออกมาแฉเบื้องหลังการเมือง พร้อมที่จะสู้ ขอเพียงอย่าเล่นไต้ดินไม่เคารพกฎกติกาและอย่าเอาคนไทยเป็นตัวประกันเพื่อ ความอยู่รอดของตัวเอง ทางที่ดีควรยอมรับผิดกลับมารับโทษ ถ้าจะขออภัยโทษภายหลังก็ยังดูสมเหตุสมผล
อ้าง ตร.พยายามซื้อตัวการ์ดเป็นสายข่าว
ด้านนายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ กล่าวถึงเรื่องตำรวจจับกุมการ์ดพกพาอาวุธ ว่า ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า ถ้าตรวจพบการ์ดที่ทำผิดกฎหมายให้จับกุมได้ทันที จะไม่มีการไปประกันตัว เพราะไม่สนับสนุนให้พกพาอาวุธหรือใช้ความรุนแรง ตำรวจกับกลุ่มอันธพาลพยายามที่จะเล่นงานพันธมิตรฯ มีความพยายามซื้อตัวการ์ดเพื่อเป็นสายข่าว มีการปลอมแปลงบัตรประจำตัวการ์ดจนต้องมีการเปลี่ยนบัตรใหม่เป็นระยะ ทราบว่าตำรวจเองก็มีรายชื่อของคนที่ทราบว่า มีการพกพาอาวุธก็สามารถตรวจสอบได้ ทุกคนที่มาสมัครจะมีชื่อและบัตรประชาชนเป็นหลักฐาน เมื่อก่อนมีการ์ดมากถึง 1 พันคน แต่ตอนนี้เหลืออยู่ 5 ร้อยคน และมีการตรวจค้นอาวุธอยู่ ตลอดเวลา เชื่อว่าอาจมีการเล็ดลอดเข้าไปในทำเนียบฯ บ้าง
“จำลอง” หัก “ยะใส” แถลงเปิดถนน
เวลา 20.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 14/2551 เรื่อง เปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอกถึงวันที่ 5 ธ.ค. โดยระบุว่า พันธมิตรฯมีความพร้อมที่จะเปิดเส้นทางบนถนนราชดำเนินนอกทั้ง 6 ช่องทาง ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. แม้ว่าจะได้รับแจ้งว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางเสด็จฯแล้ว การชุมนุมจะยังถูกข่มขู่คุกคาม และทำร้ายด้วยอาวุธสงคราม โดยปราศจากการดูแลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เพื่อยืนหยัดเจตนารมณ์ในการถวายความจงรักภักดี วันนี้แกนนำได้ประชุมกันและมีมติให้รื้อสิ่งกีดขวางออกจากถนนราชดำเนินนอก ออกจาก 10 ช่องการจราจรและทางเดินเท้าทั้งหมด จะไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆทั้งสิ้น ในระหว่างวันที่ 14 พ.ย.-5 ธ.ค. โดยให้เริ่มทำการรื้อสิ่งกีดขวางทั้งหมดทันที พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันรื้อสิ่งกีดขวาง และทำความสะอาดเส้นทางอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่มา ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1519 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 พ.ย. 51
เวลา 10:23:57
|
