นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งถอดถอนออกจากตำแหน่ง จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และให้สัมภาษณ์หลังจาก เข้าหารือกับนายทาโร่ อาโสะ นายกฯญี่ปุ่นว่า ญี่ปุ่นอนุมัติเงินกู้ 63,000 ล้านเยน เพื่อใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง นายอภิสิทธิ์ลืมไปว่ากำลังกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เพราะการดำเนินการดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมนั้น จะต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน แม้ว่าจะเป็นแค่การเจรจา ยังไม่ได้ทำสัญญา เข้าข่ายลักษณะเดียวกับนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กรณีปราสาทพระวิหารเมื่อดูวรรค 2 และวรรค 3 ของมาตรา 190 แล้วมันชัดเจน จะมาอ้างว่าไปเจรจาก่อนแล้วมาดำเนินการภายหลังไม่ได้เลย เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับงบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ จะเรียกว่ารัฐบาลนี้ตายน้ำตื้นจากกับดักของกฎหมายก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยถอดถอนรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ โดยใช้มาตรา 190 วันนี้กฎหมายดังกล่าวได้ย้อนกลับมาสังหารรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติเอกฉันท์ให้อภิปรายนายกฯ และรัฐมนตรีอีกหลายท่าน รวมถึงกรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ในประเด็นปลากระป๋องเน่า แม้ลาออกไปที่ดูเป็นการตัดตอนและส่อทุจริต แต่นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมฯ คนใหม่ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย คาดว่าหลังยื่นญัตติจะได้อภิปรายในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค.นี้ เมื่อถามว่าจะยื่นอภิปรายนายกฯประเด็นอะไร นายพร้อมพงศ์ตอบว่า ประเด็นการทุจริตที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ขอยืนยันมีข้อมูลและครบ 100% ถ้าปล่อยไว้ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้เงินหลายแสนล้านบาท รวมถึงการกู้เงินสร้างหนี้ให้แก่ประเทศ รวมถึงการที่จะกู้เงินจากประเทศญี่ปุ่นด้วย หากปล่อยไว้จะยิ่งทำให้ประเทศเสียหาย จึงจำเป็นต้องยื่นญัตติอภิปรายนายกฯและรัฐมนตรี