• "พระกดสิว" เป็นเรื่อง-หมอคลินิกดังแจงวุ่น สารภาพ"แม่ชี"ก็มี! |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 07 ก.ค. 50 เวลา 13:14:52 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตะลึง "หมอพระ" ใช้ตีนชี้หน้า-รักษาโรค สธ. รู้แจ้นตรวจสอบ ?
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ก.ค. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ รับแจ้งว่า พระสันติภาพ สันติคโร หรืออาจารย์รวย เจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่ง ถ.เพชรเกษม หมู่ 1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ อ้างว่าสามารถรักษาโรคทุกชนิดให้กับชาวบ้านได้ โดยมีชาวบ้านแห่ไปรับการรักษามากขึ้นทุกวัน จึงขอให้เข้าไปตรวจสอบด้วยจากนั้นนางเกศแก้ว เจ๊ะโส้ เภสัชกร 8 หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค นายพงษ์ศักดิ์ ปั้นเมือง สาธารณสุขอ.เมือง กระบี่ พร้อมด.ต.บุญเอื้อ เจริญพาณิชย์ หัวหน้าสายตรวจต.เขาคราม เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงทางเข้าวัด พบรถกระบะและรถเก๋ง จอดอยู่ข้างทางประมาณ 20-30 คัน ภายในวัดมีชาวบ้านประมาณ 2,000 คน มายืนรอรับการรักษา
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปพบเจ้าอาวาสที่กำลังรักษาชาวบ้านอยู่ในห้องโถงกลางวัด ระบุว่าจะมาขอตรวจสอบยาพร้อมขอเก็บตัวอย่างยาที่ใช้ในการรักษาไปตรวจสอบ โดยพระอาจารย์สันติภาพได้นำยาที่ใช้รักษามาให้ประกอบด้วย ยาลูกกลอน และแคปซูล จำนวนหนึ่ง ราคาชุดละประมาณ 1,200 บาทพระสันติภาพกล่าวว่า ตนได้รักษาโรคให้กับชาวบ้านมานาน 8 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงบัดนี้ โดยรักษาเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์ ความจริงตนไม่อยากรักษาอีกเพราะรู้สึกเหนื่อย แต่ชาวบ้านเดินทางมาตลอดเวลาจึงต้องมารักษา ส่วนวิธีการรักษานั้นพระครูสันติภาพจะตีไม้ พรมน้ำมนต์ไปที่ศีรษะของผู้ที่มารักษา 3 ครั้ง จากนั้นใช้เท้าจี้ไปที่หน้าผากครู่หนึ่งและให้ผู้ป่วยไปรับยาที่หน้าประตูพระสันติภาพกล่าวต่อว่า ชาวบ้านที่มารักษาส่วนใหญ่จะมาจากต่างจังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต โดยมีผู้ป่วยรายหนึ่งมารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งรักษามาหลายแห่งไม่หาย แต่เมื่อมารักษาที่นี่อาการกลับดีขึ้น บางคนจึงมาหลายครั้ง และบางรายชวนเพื่อนฝูงมาด้วย ขณะนี้มีคนมารักษาโดยเฉลี่ยวันละประมาณ 2,000 คน รายได้ประมาณวันละ 1-2 แสนบาทผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบอยู่นั้น พระบอกกับชาวบ้านว่าไม่สามารถรักษาได้แล้ว เพราะมีเจ้าหน้าที่ทางการเข้ามาตรวจยา ทำให้ตนเสียสมาธิ และจะหยุดรักษาทันที ไม่มีการรักษาต่อไปแล้ว ขอให้ชาวบ้านกลับไป
ทำให้ชาวบ้านที่นั่งรออยู่เกิดความไม่พอใจ พากันพูดต่อว่าต่างๆ นานา เนื่องจากเดินทางมาจากต่างจังหวัดแต่ไม่สามารถรับยาได้ จึงเกิดความไม่พอใจ แต่ไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเดินทางกลับทันทีด้านนางเกศแก้วกล่าวว่า หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่ายาที่ใช้ทำการรักษาโรคนั้น เป็นยาแคปซูล และยาเม็ดกลมทำเป็นลูกกลอนใส่ซอง อ้างว่าเป็นยารักษาโรคเบาหวาน ซึ่งทางการแพทย์แล้วโรคเบาหวานนั้นไม่สามารถรักษาได้ ผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคด้วย
ส่วนตัวอย่างยาที่นำมาทำการตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งคงต้องใช้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 2 สัปดาห์ จึงสามารถทราบผล และในวันที่ 10 ก.ค.นี้ จะเชิญเจ้าอาวาสและผู้ป่วยที่อ้างว่าหายจากโรค มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป สำหรับกรณีดังกล่าวที่น่าจะเข้าข่ายความผิด ตามพ.ร.บ.ยา 2510 และพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค โดยผลิตและจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งต้องทำการตรวจสอบกันอีกครั้ง
ที่มาจาก ข่าวจาก เอมไทยดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1449 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ก.ค. 50
เวลา 13:14:52
|