ชาวเน็ตวิจารณ์! "น้องแชมป์" หารผ่านศึก ถูก พ.ท.หญิง ไล่ที่ ไม่ให้ขายลอตเตอรี่หน้าตึก ร.พ.พระมงกุฎฯ พ่อบอกโดนไล่หลายครั้ง ร.พ.ยันไม่รู้ไม่เกี่ยว
ในสังคมออนไลน์ขณะนี้ ข้อความการถูกไล่ที่ของ "
น้องแชมป์" หรือ
นายมังกรทอง ลิ้มประเสริฐสกุล อดีตพลทหารชุดคุ้มครองครูเหยื่อไฟใต้อีกรายหนึ่ง ที่ปัจจุบันผันตัวเองมาขายลอตเตอรี่ ที่โรงพยบาลพระมงกุฎเกล้า ถูกไล่ที่โดย พ.ท.หญิง รายหนึ่ง โดยข้อความที่โพสต์ในโลกโซเซียลนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ซึ่ง
นายนพรัตน์ ลิ้มประเสริฐสกุล พ่อของน้องแชมป์ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เหตุการณ์ที่ถูกโพสต์ในโซเซียล และกำลังแชร์อย่างมากมายในขณะนี้เป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น โดยเมื่อช่วงบ่ายอาสาสมัครชาวฮอลแลนด์ ที่เดินทางมาช่วยเหลือทหารที่ได้รับผลกระทบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางมาเยี่ยม น้องแชมป์ และอยู่ในระหว่างการพูดคุยเพื่อจะลากลับประเทศ ในระหว่างนั้นมี พ.ท.หญิงท่านหนึ่ง เดินมาพบ และพูดจาขับไล่ให้ไปพูดคุยที่อื่น พร้อมทั้งยังไล่ให้ น้องแชมป์ ไปขายลอตเตอรี่ที่อื่นด้วย
"ผมไม่เข้าใจว่า พ.ท.หญิง ท่านนี้ ท่านทำไมถึงไม่ชอบน้องแชมป์ การขับไล่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งนี้ แต่มีมาตลอด ซึ่งตนและ น้องแชมป์ ก็ย้ายที่ขายมาตลอดเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เรามีหนังสืออนุญาตจากเจ้ากรมการแพทย์ วันนี้ พ.ท.หญิงโสภา มาต่อว่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ใช้อำนาจ จนน้องที่ติดตามอาสาสมัครชาวฮอลแลนด์ ทนไม่ได้ จึงโพสต์ข้อความนั้นขึ้นเฟซบุ๊ก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ที่ทหารที่มียศสูงไปรังแกคนที่ด้อยกว่า ที่สำคัญน้องแชมป์ เป็นทหารกล้าที่ได้รับการยกย่องเพราะผ่านสมรภูมิที่ภาคใต้มา จนทำให้เขากลายเป็นคนพิการอย่างที่เห็น ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรมากไปกว่าการขอความเมตตาและความเข้าใจจากคนที่มียศสูง กว่าก็เท่านั้น" นายนพรัตน์ กล่าว
ขณะที่ทางด้าน
พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ได้เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยพลการ
พล.ต.ชุมพร เปี่ยมสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ไม่รู้เห็น และไม่มีนโยบายไล่ที่พลทหารมังกรทอง ซึ่งที่ผ่านมาพลทหารมังกรทองได้ขออนุญาตขายล็อตเตอร์รี่ในเขตโรงพยาบาล และโรงพยาบาลได้อนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษมานานแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลไม่รู้เห็น ถือว่าเป็นเรื่องระหว่างบุคคล อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการเรียกตัวพันโทหญิงคนดังกล่าวมาตักเตือน
"พันโทหญิงคนดังกล่าวคงไม่รู้ว่า พลทหารมังกรทองได้ขออนุญาตโรงพยาบาลแล้ว และคงปรารถนาดี แต่ไม่ถูกคิว ยืนยันว่าโรงพยาบาลไม่มีนโยบายไล่ที่พลทหารมังกรทอง" นพ.พีรพล กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก สำนักข่าวไทย และ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น
ครอบครัว “พ.ต.หญิง โสภา” แจ้งความเอาผิดมือโพสต์รูป
กทม. 20 ก.ค.- ครอบครัว “พ.ต.หญิง โสภา” แจ้งความเอาผิดมือโพสต์รูป หลังถูกกล่าวหาไล่ที่ “พลทหารมังกรทอง” ทั้งที่ไม่รู้เห็น พร้อมเตรียมยื่นเรื่องต่อ DSI เดินหน้าหาผู้โพสต์รูป ระบุ ต้องการให้ออกมารับผิดชอบต่อกรณีลงรูปผิดคน ทำให้เกิดความเสียหาย
หลังมีการส่งต่อภาพ และข้อความกล่าวหาทหารหญิงยศ “พันโท” รพ.พระมงกุฎ ไล่ที่ขายล็อตเตอร์รี่ พลทหารมังกรทอง ลิ้มประเสริฐสกุล ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา จนทำให้ร่างกายทุพลภาพ โดยมีการระบุชื่อพันโทหญิงคนดังกล่าวว่าชื่อ “โสภา” จนเกิดกระแสโจมตีอย่างรุนแรงในโซเชียลมีเดียต่อนายทหารหญิงที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น
“สำนักข่าวไทย” ได้ตรวจสอบพบว่านายทหารหญิงที่ถูกนำภาพมาโพสต์ คือ “พ.ต.หญิงโสภา บุญชุม” หัวหน้าวอร์ดห้องฉุกเฉิน รพ.ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายพิรส บุญชุม อยู่บ้านเลขที่ 99/44 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สามีของ พ.ต.หญิงโสภา ยืนยันกับสำนักข่าวไทยว่าภรรยาไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากทำงานที่ จ.เชียงใหม่ มาตั้งแต่ปี 2541 คาดว่า มีการนำภาพในฐานข้อมูลของนักเรียนชั้นนายพัน ในช่วงที่ภรรยาลงเรียนที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ไปเผยแพร่ เนื่องจากมีชื่อเหมือนกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าไล่ที่พลทหารมังกรทอง
นายพิรส กล่าวว่า หลังมีการส่งต่อข้อความและภาพทางอินเทอร์เน็ต ครอบครัวก็ได้รับผลกระทบ มีคนรู้จักโทรมาสอบถามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อตรวจสอบจึงพบว่ามีข้อความต่อว่าภรรยาอย่างรุนแรง ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทำให้ตัดสินใจไปแจ้งความลงบันทึกประจำไว้ที่ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เวลาประมาณ 19.30 น. เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) ขณะที่วันนี้จะเดินทางไปที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเร่งหาตัวผู้ที่โพสต์รูปมาแสดงความรับผิดชอบ
“ผมไม่ทราบเนื้อหาเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่อยากยุ่ง ขอเพียงให้คนโพสต์รูปมารับผิดชอบกรณีใส่รูปผิดเท่านั้น คาดน่าจะชื่อเหมือนกัน แต่คนละนามสกุล” นายพิรส กล่าว.-สำนักข่าวไทย
http://www.mcot.net/site/content?id=51ea09f9150ba005390001c6#.UepGedIwfIb