กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
| | | ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนต |
|
| |
| สลด!ครึ่งปี 50 สังเวยไป 608 ศพเซ่นไฟใต้
เหยื่อเป็น ปชช. 519 ราย ทหาร 53 ตำรวจ 30 และครูอีก 6 ผงะ! ตั้งแต่ปี 47 ไฟใต้ลุกโชนคดีเพียบ 4,560 คดี แต่มีเบาะแสแค่ 504 คดี ล็อกมือป่วนใต้ทมิฬ ฆ่าครู-ผู้ใหญ่บ้าน-ตร.ในพื้นที่รือเสาะ ได้เบาะแสจากชาวบ้าน ยกพลปิดล้อมมัสยิดรวบตัวทันควัน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) สรุปข้อมูลเกี่ยวกับคดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 50 ถึงปัจจุบัน
มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 1,292 คดี มีผู้เสียชีวิตรวม 608 ศพ
แยกเป็นข้าราชการพลเรือนและประชาชน 519 ศพ ทหาร 53 นาย ตำรวจ 30 นาย และข้าราชการครู 6 ศพ บาดเจ็บ 1,202 คน ส่วนภาพรวมการสอบสวนคดีความมั่นคงตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน มีการสอบสวนคดีไปทั้งสิ้น 4,560 คดี รู้ตัวผู้กระทำผิด 504 คดี ไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด 4,056 คดี สามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มขบวนการได้ทั้งสิ้น 8,145 คน แยกเป็นระดับแกนนำและชุดปฏิบัติการ 883 คน และกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่อีก 7,262 คน
ส่วนผลสรุปภาพรวมคำพิพากษาคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้
ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน มี 66 คดี โดยศาลพิพากษา ลงโทษจำเลย 46 คดี แยกเป็นสั่งประหารชีวิต 10 ราย จำคุกตลอดชีวิต 15 ราย จำคุกตั้งแต่ 50 ปีลงมา 21 ราย และพิพากษายกฟ้องจำเลยอีก 20 คดี จากผลคำพิพากษาข้างต้น มีผลเป็นรูปธรรมและพิสูจน์ได้ว่า กระบวนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ สามารถนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่ขั้นตอนของ กระบวนการยุติธรรม นำไปสู่การพิพากษาลงโทษ ผู้กระทำผิดได้จำนวนมากดังกล่าว
เหตุร้ายในหลายพื้นที่ยังเกิดต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ ผกก. สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีแกนนำกลุ่มอาร์เคเคที่ก่อเหตุลอบยิงชาวบ้าน มีหมายจับของ สภ.อ.รือเสาะ และศรีสาคร มาแอบกบดานหลบซ่อนตัวอยู่ในมัสยิดพื้นที่บ้านดาฮง หมู่ 4 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จึงประสาน พ.ต.อ.จิรารัตน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.อ.ศรีสาคร นำกำลังตำรวจกว่า 60 นาย บุกจู่โจมเข้าปิดล้อมมัสยิดในหมู่บ้านดังกล่าว
พบชายวัยรุ่นจำนวนหลายคนนั่งพักผ่อนอยู่ภายใน
และเมื่อเห็น จนท.กำลังเข้ามาปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ชายฉกรรจ์ประมาณ 3-4 คน เปิดหน้าต่างมัสยิดพากันกระโดดวิ่งหลบหนีเข้าป่าทันที ติดตามจับกุมได้ 1 ราย ทราบชื่อนายอับดุลรอฮิม กูโน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ มีหมายจับเลขที่ จ.376/2547 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2547 และ หมายจับเลขที่ 23/2547 คดีที่ 33/2547 พร้อมยึดของกลางอาวุธปืนพกสั้นตราโล่ ขนาด .38 เครื่องกระสุน 12 นัด นำตัวมาสอบสวนขยายผลยัง สภ.อ.รือเสาะ ทันที
จากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหารับสารภาพ
ว่า ที่ผ่านมาเคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนลอบยิงชาวบ้านไทยพุทธและผู้บริสุทธิ์มาแล้วอย่างน้อย 2 ราย ยิงผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตในพื้นที่บ้านบาเละ หมู่ 10 ต.รือเสาะ และยังยิงตำรวจในพื้นที่รือเสาะอีก 1 นาย พร้อมทั้งยังให้การซัดทอดไปยังเพื่อนร่วมกลุ่มที่สามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ไปได้อีก 2 ราย (ขอสงวนนาม) จึงมอบผู้ต้องหา และของกลางให้กับ ร.ต.ต.วรพงษ์ กล่อมสกุล ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จับกุมตัวดำเนินคดีก่อนที่จะถูกส่งตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.บรรลือ ผกก.สภ.อ.รือเสาะ กล่าวว่า
ผู้ต้องหารายนี้เป็นระดับแกนนำหัวหน้ากลุ่มอาร์เคเค ในพื้นที่ อ.รือเสาะ ที่ทางการต้องการตัวมานาน และยังร่วมกับพวกก่อเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ครู ตำรวจ และก่อเหตุลอบวางระเบิดป่วนใต้ใน อ.รือเสาะ และศรีสาคร มาไม่น้อยกว่า 11 คดี และหลบหนีกบดานไปหลบซ่อนตัวอยู่ ในหลายท้องที่ กระทั่งได้เบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ช่วยแจ้งเบาะแสมา นำไปสู่การจับกุมดังกล่าว
ต้องขอขอบคุณประชาชนในพื้นที่ด้วย
ที่ให้ความร่วมมืออย่างดีกับ จนท. เสมอมา และหากประชาชนให้ความร่วมมือดีเช่นนี้ต่อไป เชื่อว่าสถานการณ์ใต้ก็จะดีขึ้นตามลำดับในไม่ช้า
ที่ จ.ปัตตานี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกับกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 22 พัน ร.302 บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ มีพล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 และหน่วยกองกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าร่วมรับฟังนโยบาย ภายหลัง
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า
การปฏิบัติขณะนี้ให้พยายามดึงเอาผู้นำเป็นพวกและประสานงานร่วมกันทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ นำศัตรูมาเป็นมิตรแล้วทุกอย่างจะเป็นพวกเราหมด ในส่วนของประชาชนพยายามดึงเข้ามาให้ทำงานแทนเรา อย่างเช่นการจัดตั้ง อรบ. และ ชรบ. ถือเป็นผลสำเร็จทำให้เกิดชุมชนเข้มแข็งขึ้น แล้วเราจะทำงานน้อยลง โดยเฉพาะเส้นทางแต่ละจุด หากประชาชนร่วมมือก็สามารถลดการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายได้ "กลุ่มศัตรูก็จะโดดเดี่ยว และงานข่าวก็จะได้ผล นอกจากนั้นการ ทำงานต้องใช้แผนการจรยุทธจำกัดเสรีฝ่ายตรงข้าม จะทำอย่างไรให้ศัตรูทำงานยากขึ้น ดังนั้นการทำงานต้องประสานร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต้องรู้เขารู้เรา การทำงานถึงจะสำเร็จตามเป้าหมาย"
ที่วัดเมืองยะลา อ.เมืองยะลา เวลา 10.00 น.
นายกฤษฎา บุญราช รอง ผวจ.ยะลา เป็นผู้อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มาวางที่หน้าหีบศพของ ด.ต.สุบิน พฤทธิ์มงคล ตร.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดหน้าบริษัทยะลาบุญศรี จำกัด เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวพฤทธิ์มงคลเป็นอย่างมาก
ด้านนาง นิตยา ภรรยาของ ด.ต.สุบิน เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระกรุณาต่อครอบครัวของตน โดยเฉพาะสามีซึ่งรับใช้ประเทศชาติด้วยความจงรักภักดี และเสียสละช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มา โดยตลอด
ด้านนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วน กุศลให้ผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบใน จ.ยะลา โดยศาสนาพุทธจัดขึ้นที่วัดยุปาราม ต.ยุโป อ.เมืองยะลา ส่วนศาสนาอิสลาม จัดที่มัสยิดบ้านทุ่งคา ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา
วันเดียวกัน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ชี้แจงกรณีสั่งปิด รร.สอนศาสนาอิสลามบูรพาว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบ ว่า รร.อิสลามบูรพาเป็น 1 ใน 9 โรงเรียนของ จังหวัดนราธิวาส มีครูสอนศาสนาที่มีพฤติกรรม เชื่อมโยงกับขบวนการบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะปลูกฝังอุดมการณ์และเป็นแหล่งหลบซ่อนฝึกฝนกลุ่มแนวร่วม ถือเป็นเครือข่ายเดียวกับ รร.สัมพันธ์วิทยาที่มีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นแกนนำ
|
|
| ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ข่าวจาก ที่นี่ดอทคอม
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
