| • พระอาสาถึงใต้ 'จำพรรษา'3จว. |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 26 ก.ค. 50 เวลา 16:28:48 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 25 ก.ค. พ.อ.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ทพ.45 นำกำลังทหาร ฉก.31 กองร้อยทหารพรานที่ 45 หน่วยรบพิเศษ ทั้งชายและหญิง พร้อมอาวุธครบมือ 120 นาย ใช้กฎ อัยการศึกจู่โจมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 แห่ง ใน 2 ตำบล 2 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส คือ 1. บ้านโคกสะตอ ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี และบ้านปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง ผลการตรวจค้นนานว่า 7 ชั่วโมง สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกแนวร่วมได้ 14 คน พร้อมของกลาง 14 รายการ อาทิ เลื่อยยนต์ 2 เครื่อง ปืนลูกซองยาว 2 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง 25 นัด ปืน .38 ซุปเปอร์ พร้อมกระสุน 40 นัด เงินริงกิตประเทศมาเลเซีย เหล็กสำหรับใช้เจาะถนน 1 อัน ชุดสวมใส่สำหรับฝึกจู่โจมโรงเรียนทหารราบ ลูกเหล็กสำหรับประกอบระเบิดแสวงเครื่อง สายไฟฟ้า เป็นต้น จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนเบื้องต้นรวมทั้งตรวจสอบหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง หากไม่พบหลักฐานเกี่ยวข้องจะปล่อยตัวกลับ ส่วนผู้ที่มีหลักฐานมัดตัว ต้องคุมตัวไปส่งที่ศูนย์วิวิฒน์พลเมือง ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่ดังกล่าว พบว่าคนร้ายได้ขุดหลุมบริเวณคอสะพานวางระเบิดไว้ 5 จุด ที่บ้านปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง แต่กู้ไว้ได้ทัน คาดว่าคนร้ายหวังใช้ระเบิดเป็นกับดักสังหารเจ้าหน้าที่ ต่อมาเวลา 14.50 น. ร.ต.ต.วัชระพงษ์ จักรโนวัน ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ไปสอบสวนคนถูกยิงเสียชีวิต บนถนนบ้านดอเฮะ หมู่ 3 ต.ริโก๋ พบศพนายอะมะ หะยียูโซะ อายุ 46 ปี อยู่หมู่ 2 ต.ริโก๋ นอนจมกองเลือดคร่อมรถ จยย. มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุน .357 ที่ลำตัว และแขนขวา 5 นัด สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายขี่รถ จยย.บรรทุกข้าวสารกลับจากโรงสี ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คนซ้อนรถ จยย.ประกบยิง เชื่อฝีมือโจรสร้างสถานการณ์ ทางด้าน อ.รือเสาะ ขณะที่นายอาเซ็ง อาบู อายุ 27 ปี นักการภารโรงโรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน อยู่หมู่ 5 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ ขี่รถ จยย.จะกลับบ้าน ห่างจากโรงเรียนไม่ไกล ถูกคนร้าย 2 คน ซ้อนรถ จยย.ประกบยิงได้รับบาดเจ็บ อีกราย ขณะที่ ร.ต.ท.ทศวรรษ ทศพันธ์ รอง สวป. สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นำกำลังนั่งรถกระบะและรถ จยย.ออกคุ้มครองครู ผ่านถนนเลียบทางรถไฟเจาะไอร้อง ถูกคนร้ายกดชนวนระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรลที่ลอบวางไว้ในกอหญ้าริมถนน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีไม่มีได้รับบาดอันตราย จากนั้นเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุระเบิดริมเสาไฟฟ้า ริมถนนใกล้สะพานดุซงญอ หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส แต่ไม่มีใครได้รับอันตรายเช่นกัน ส่วนกรณีที่พระสงฆ์จากทั่วประเทศ 347 รูป อาสาลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปจำพรรษาตามโครงการ “พระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้” เนื่องจากวัดหลายแห่งกลายเป็นวัดร้างเพราะผวาภัยโจรนั้น ต่อมา เวลา 10.45 น. วันเดียวกัน พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในฐานะประธานโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ ได้นำพระสงฆ์ 126 รูป เดินทางโดยเครื่องบิน ซี. 130 ไปถึงท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อนกระจายไปจำพรรษาตามวัดต่างๆใน จ.นราธิวาส สำหรับโครงการนี้ เป็นพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นห่วงพสกนิกรชาวไทยพุทธ ขาดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในสภาวะที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ทรงมีพระราชประสงค์ ให้พระสงฆ์จากทั่วประเทศอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยพุทธมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และได้ทำบุญในช่วงเข้าพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือนรวมทั้งงานบุญทอดกฐิน ในการนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ประทานเทียนพรรษา 12 เล่ม เพื่อนำไปถวายยังวัดต่างๆที่ขาดแคลนเทียนพรรษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ทางด้าน จ.ยะลา พระสงฆ์ในโครงการเดียวกัน 96 รูป เดินทางไปถึงวัดคูหาภิมุข หรือวัดถ้ำ หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา ก่อนจะแยกย้ายกันไปจำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆใน จ.ยะลา โดยมีชาวบ้านและชุดอาสาสมัครป้องกันหมู่บ้าน (อรบ.) รอต้อนรับด้วยความปีติยินดี พร้อมกันนี้พระครูอดุลย์นิคมเขตเจ้าอาวาสวัดคูหาภิมุข ให้การต้อนรับคณะสงฆ์ และแจกพระเครื่องหลวงปูทวด รุ่น ฮ.ตก ให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ร่วมเดินทางมาด้วยทุกนาย ขณะที่พระตั้น จันทสาโร แห่งวัดหนองบัวกระจาย อ.คง จ.นครราชสีมา ที่ร่วมเดินทางมาด้วย กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้มีความเต็มใจและมีความประสงค์ที่จะมาเผยแผ่ธรรมให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้มีสามัคคีต่อกัน มีความเมตตาซึ่งกันและกัน อย่าได้ฆ่ากันเลย พระสงฆ์ทั้งหมดที่เดินทางมาต่างมีความตั้งใจจริงและไม่หวาดกลัว หากมีอะไรเกิดขึ้นก็ถือว่ามีมารมารบกวนบ้างเป็นบางครั้งถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์บนโลกนี้ สำหรับ จ.ปัตตานี ที่ศาลาอเนกประสงค์ ค่ายลูกเสือเดชานุชิต ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี และธนาคารเลือดโรงพยาบาลปัตตานี ออกรับบริจาคโลหิตจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 สังกัด จำนวน 213 นาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และนำไปเก็บสำรองไว้ที่ธนาคารเลือดโรงพยาบาลปัตตานี เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันตามโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องตกอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิต เพราะที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบเพิ่มขึ้น สำหรับความคืบหน้ากรณีมีกลุ่มนายทุนจากภาคใต้ ทั้ง จ.ปัตตานี และสงขลา เข้าไปกว้านซื้อที่ดินในเขตป่าและพื้นที่ สปก.ใน ลำปาง เชียงราย พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ เพื่อปลูกสวนยาง แต่มีพฤติกรรมพัวพันกับกลุ่มโจรในภาคใต้ โดยว่าจ้างชาวบ้านปลูกยางวันละ 150 บาท และจะส่งเสริมให้ลูกหลานและกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เรียนฟรีโดยส่งไปเรียนที่ปอเนาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายสามารถ ลอยฟ้า รอง ผวจ.ลำปาง ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า เรื่องนี้คนลำปางตื่นตัวมาก มีประชาชนจำนวนไม่น้อยแสดงความเป็นห่วงโดยได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงตลอด พร้อมกันนี้ได้รายงานให้นายอมรทัต นิรัติศยกุล ผวจ.ลำปาง รับทราบโดยตลอด และสั่งกำชับทุกหน่วยงานให้เฝ้าระวังติดตามความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ หรือขบวนการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และให้รายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะ ขณะเดียวกันทหาร มณฑลทหารบกที่ 32 จ.ลำปาง เข้าตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูล ได้รับแจ้งจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) กรมป่าไม้ โดยคำสั่งของอธิบดีกรมป่าไม้ให้ส่วนส่งเสริมการปลูกป่า กำลังจะดำเนินการนำโครงการปลูกป่าทดแทนด้วยเงินนอกงบประมาณปี 2550 ในพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่ฮวก แม่เถา เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เลียง พื้นที่หมู่ 4 ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง 3 แปลง แปลงละ 300 ไร่ รวม 900 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันกับที่ถูกกลุ่มนายทุนจากภาคใต้เข้าไปชี้จุดต้องการบริเวณดังกล่าว แล้วมอบหมายให้นักการเมืองท้องถิ่นว่าจ้างชาวบ้านเข้าไปแผ้วถางทำลายอ้างว่าเป็นพื้นที่ทำกินก่อน ก่อนที่จะเสนอขายต่อให้กลุ่มนายทุนจากภาคใต้อีกทีหนึ่ง รายงานข่าวแจ้งว่า การเข้าไปดำเนินการปลูกป่าทดแทนของส่วนส่งเสริมการปลูกป่าครั้งนี้ ปรากฏว่านายบัณฑิต ขีตตะสังคะ และนายจิรศักดิ์ ถือคำ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าโครงการปลูกป่าทดแทนป่าสงวน แห่งชาติแม่เลียง ถูกกลุ่มนายทุนจากภาคใต้โดยนักการ เมืองท้องถิ่นผู้ที่เข้าไปบุกรุกแผ้วถาง นำชาวบ้านออกมาคัดค้านและต่อต้านถึงขั้นทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยอ้างว่าเป็นโครงการปลูกป่าที่มิชอบด้วยกฎหมาย ไม่โปร่งใส และทับที่ทำกินของราษฎรขอให้กระทรวงทรัพยากรฯระงับโครงการดังกล่าวไว้ก่อนแต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เข้าไปพบผู้นำท้องถิ่น และทำความเข้าใจให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ที่รัฐสภา นายแวมาฮาดี แวดาโอะ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 แถลงว่า กมธ.ได้พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ที่ตั้งงบไว้ 14,432 ล้านบาท โดยในภาพรวมการพิจารณาในส่วนงบประมาณไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่เป็นการซักถามเรื่องรายละเอียดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเรื่องที่ดำเนินการผ่านมาและแนวทางต่อไป ซึ่ง กมธ.ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณรวม 1,931 ล้านบาท นายแวมาฮาดีกล่าวอีกว่า งบประมาณในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงบประมาณได้จัดไว้ประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงบประจำ 1.3 หมื่นล้านบาท และงบพิเศษอีก 1.6 หมื่นล้านบาท ในส่วนของงบพิเศษนี้ กองทัพได้ขอไป 6.7 พันล้านบาท ในขณะที่งบเพื่อพัฒนา 1.5 พันล้านบาท จากจำนวน 7.5 พันล้านบาท มอบให้ ศอ.บต.ไปรับโครงการจากหน่วยงานและภาคประชาชนในพื้นที่ดำเนินการ สำหรับงบพัฒนาของ ศอ.บต.ถือว่าน้อยมากจึงอยากให้เพิ่ม เพราะงบที่ ศอ.บต.ดูแลนั้น น่าจะเป็นงบที่สะท้อนความต้องการของประชาชนจริงๆข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1336 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 26 ก.ค. 50
เวลา 16:28:48
|
