• ปชป.บี้ กกต.จัดการพวกธนาธิปไตย |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 10 ส.ค. 50 เวลา 09:50:29 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ทางด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งในการสัมมนาหัวข้อ “บทบาทพรรคการเมืองกับการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติให้สุจริตเที่ยงธรรม” จัดโดย กกต.กรุงเทพมหานคร ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซว่า กกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติให้บริสุทธิ์ ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือข่าวการจ้างม็อบป่วนเมือง ข่าวการใช้เงินหัวละ 30 ล้านบาท ดูด ส.ส.กลับพรรค ข่าวการให้สินบนตุลาการคดียุบพรรค และข่าวการจ่ายค่าแรงคว่ำร่างรัฐธรรมนูญหัวละ 200 บาท สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ตอกย้ำว่าธนาธิปไตยยังอาละวาดอยู่ในการเมืองไทย และมีแนวโน้มจะหนักขึ้นเป็นลำดับ เพราะเดิมพันสูงและเกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ส่วนตนจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ดังนั้นบทบาท กกต.จึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าพรรคการเมืองที่ต้องช่วยกันป้องปรามและปราบปรามธนาธิปไตยให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้นพวกธนาธิปไตยจะลอยนวล และอาจนำประเทศไปสู่วิกฤติได้อีกในอนาคต “บัญญัติ” ตอกย้ำแรงจูงใจล้ม รธน. ส่วนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนบทความผ่านเว็บไซต์ของพรรคตอนหนึ่งระบุว่า การยอมทุ่มเงินว่าจ้างเพื่อคว่ำรัฐธรรมนูญ เพราะมีแรงจูงใจอย่างน้อย 3 ประการคือ 1. เป็นการชำระความแค้นและตบหน้า คมช. ซึ่งได้ยึดอำนาจการเมืองไปจากกลุ่มพวกตน เพราะแม้รัฐธรรมนูญใหม่จะผ่านการจัดทำประชามติไปได้ แต่หากมีการออกเสียงไม่รับเป็นจำนวนมาก อาจนำไปอ้างอิงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศ 2. เป็นการใช้โอกาสนี้สร้างแนวร่วมที่ไม่ยอมรับ คมช. 3. เป็นการตกเขียวทางการเมือง คือจ่ายเงินเพื่อตรวจสอบพลังประชาชนฝ่ายตนที่จ่ายเงินซื้อได้ และเพื่อจะจ่ายเงินซื้อเสียงอีกครั้งหนึ่งเมื่อถึงคราวเลือกตั้ง จึงเป็นโอกาสอันดีในการตรวจสอบเครือข่าย กกต. บางคน บางจังหวัด และในบางเขตพื้นที่ที่มีปัญหาการทุ่มเงินว่ายังมีศักยภาพดี และยังมีประเภทที่เกลือเป็นหนอนอยู่หรือไม่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขกันเสียก่อนและทั้งยังจะเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ก่อนที่จะเข้าสู่สงครามเลือกตั้งในคราวที่จะถึงนี้ ซึ่งดุเดือดแน่นอน ทรท.โหมคว่ำร่าง รธน.โค้งสุดท้าย สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆนั้น วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำการกลุ่มไทยรักไทย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.อนุญาตให้พรรคพลังประชาชนจัดประชุมใหญ่ได้ว่า คาดว่าประมาณปลายสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนว่าจะจัดที่ใด ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องได้ก่อนวันที่ 19 ส.ค. โดยในวันที่ 15 ส.ค. จะมีการปราศรัยใหญ่ที่ท้องสนามหลวง เพื่อรณรงค์ชี้แจงเหตุผลการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มไทยรักไทย แต่ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงประชามติ โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปก.แน่นอน เชื่อว่าจะได้รับอนุญาตจากทาง กทม. ทั้งนี้ หากรัฐบาลและ คมช. มีความจริงใจและอยากเห็นการลงประชามติที่โปร่งใส ไม่ใช่การลงประชามติแบบแอ๊บแบ๊วก็ควรสนับสนุนงานนี้ ทั้งนี้ เรายังจะมีการจัดขบวนรถแห่ไปตามท้องถนนในกรุงเทพฯในวันที่ 18 ส.ค. รวมทั้งแจกเอกสาร ใบปลิว ซีดี ชี้แจงเหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ขณะที่ต่างจังหวัดก็จะมีในวันที่ 16 ส.ค. เช่น ที่จังหวัดนครราชสีมา ฉะข่าวแจกเงินเกมป้ายสีดิสเครดิต เมื่อถามถึงกระแสข่าวการจ่ายเงินให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เป็นความพยายามใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มไทยรักไทย ต้องชี้แจงว่า การขอติดป้ายประชาสัมพันธ์นั้น จำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการขอใช้สถานที่ หรือเป็นค่าใช้จ่ายอาสาสมัครที่ไปเดินแจกใบปลิว กลุ่มไทยรักไทยมองว่าการประชาสัมพันธ์เนื้อหารัฐธรรมนูญวันนี้พูดกันน้อยมาก เวทีดีเบตหลายเวทีก็ต้องล้มเลิกไป ดังนั้น ในวันที่ 11 ส.ค. เวลา 10.00 น. นายจาตุรนต์จะทำการปาฐกถาเรื่องรัฐธรรมนูญที่สถาบันปรีดีพนมยงค์ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ชี้ชาวบ้านไล่อดีต ส.ส.กลับมา ทรท. เมื่อถามถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา ระบุว่า การให้อดีต ส.ส.ดื่มน้ำสาบานนั้นไม่ได้ผล เป็นการเข้ามารับเงินแล้วจะออกไป รวมทั้งมีการจ่ายเงิน 5 แสนให้กับอดีต ส.ส.ที่เคลื่อนไหวล้มร่างรัฐธรรมนูญ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า การดื่มน้ำนี้เป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เท่าที่ได้สำรวจพบว่าประชาชนเรียกร้องให้อดีต ส.ส.ที่ย้ายออกจากไทยรักไทยกลับมา มิฉะนั้นจะไม่ลงคะแนนให้ ตรงนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อดีต ส.ส.ตัดสินใจกลับมาอยู่กับไทยรักไทย โดยอดีต ส.ส.เล่าให้ฟังว่าประชาชนในพื้นที่รู้สึกที่อดีต ส.ส.ที่ออกไปอยู่กับกลุ่มอื่น เพราะสงสัยว่าจะเป็นแนวร่วมกับ คมช. ขอให้กลับมาอยู่กับไทยรักไทย ส่วนตัวคิดว่าถ้าใครที่อยู่ในวงการเลือกตั้งจะรู้ดีว่าเงิน 4 หรือ 5 แสนบาท นั้นไม่สามารถทำอะไรได้ ยอมรับว่าเรามีการแจกเอกสาร ซีดี แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวนเงินไม่ถึง 5 แสนบาท สำหรับกระแสข่าวการซื้อตัวอดีต ส.ส. 30 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่ากลุ่มไทยรักไทยไม่มี ปัดไม่รู้ พ.ต.อ.วิ่งเต้นคดียุบพรรค เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตำบลโพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พัวพันในคดีติดสินบนตุลาการในคดียุบพรรคไทยรักไทย นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ส่วนตัวไม่รูจักและไม่เคยเห็นมาก่อน รวมทั้งคิดว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทย ถ้าหากมีการเชื่อมโยงมาถึงเราก็ต้องใช้สิทธิ์ในการปกป้องตัวเอง ทรท.สอนเชิง ตื่นตูม ส.ส.ย้ายรัง ขณะที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. ระบุข่าวการซื้อตัว ส.ส. 30 ล้านบาท ว่า คิดว่านายมีชัยคงเอาข้อมูลสมัยก่อนมาพูด วันนี้ยังไม่เห็นมีเรื่องดังกล่าว และรับประกันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายของพรรคพลังประชาชนแน่นอน เรายังไม่ได้ตั้งพรรคเลย แต่ข่าวไปไกลถึงขนาดนั้นแล้ว ทั้งนี้ยอมรับว่าบางครั้งเราไม่รู้ว่าอดีต ส.ส.จะไปอยู่กับใคร หรือถูกใครให้ข้อเสนออย่างไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ แม้กระทั่งในกลุ่มเราเองจะถูกใครดูดไปก็ไม่รู้ เมื่อถามว่า การดื่มน้ำสาบานเป็นมาตรการล็อกตัวอดีต ส.ส.ไว้ให้ อยู่กับกลุ่มหรือไม่ นายสมพงษ์ตอบว่า เพื่อให้เกิดความสามัคคีกัน อยู่ด้วยความเคารพนับถือกันมากกว่า ยอมรับว่าผู้แทนทุกคนต้องพยายามพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่จะได้เป็น ส.ส. ถ้าเขาคิดว่าอยู่กับเราแล้วได้เป็น ส.ส. ก็ไม่ไปไหน วันนี้เราก็พยายามดำเนินการกันแบบพี่น้อง ประคับประคองทะนุถนอม เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะปักหลักร่วมต่อสู้ด้วยกัน ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1211 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 10 ส.ค. 50
เวลา 09:50:29
|