ต่อมาตำรวจคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักหมายเลขที่ 211 ภายในโรงบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา ซอยหนองใหญ่ 8 แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงกางเกงในสตรีวางอยู่ในกระจาดเป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม นายมนู จึงให้การยอมรับอย่างไม่อายว่า กางเกงในสตรีที่พบเป็นของตัวเองที่ซื้อมาใส่เอง และใส่มาตั้งแต่อายุ 15 ปีแล้ว เนื่องจากใส่กางเกงในผู้ชายแล้วรู้สึกคัน จากนั้นเจ้าตัวได้ลงทุนถอดกางเกงยีนส์ให้ตำรวจดูว่าตัวเองสวมใส่กางเกงในสตรีจริง พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้เป็นโรคจิตหรือไปขโมยกางเกงในคนอื่นมาแต่อย่างใด

นายมนู ให้การอีกว่า ปกติตนมีตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่คอยตรวจตราคนงานในโรงบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา โดยเมื่อปี 2547 มีชายคนหนึ่งซึ่งเช่ารถแท็กซี่ของตนไปขับ เกิดไปมีเรื่องกับคนขับรถเมล์ ขสมก. แล้วทุบกระจกรถเมล์จนแตกก่อนทิ้งรถแท็กซี่หลบหนีไป และมาทราบภายหลังว่าตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ขออำนาจศาลออกหมายจับตน จึงหลบหนีมาอยู่เมืองพัทยา กระทั่งมาถูกตำรวจตามจับกุมตัว ทั้งๆ ที่คดีเหลืออายุความเพียงแค่ 1 เดือนเศษเท่านั้น

ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวมาถ่ายรูปทำประวัติ ก่อนนำตัวไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ข่าวจาก อีสเทิร์นนิวส์