• "องค์บาก" อินเตอร์โปสเตอร์หมิ่นเหยียบเศียรพระ |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 21 ส.ค. 50 เวลา 10:39:21 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ชาวพุทธทนไม่ได้โร่ร้องโปสเตอร์หนัง
"องค์บาก" ภาคภาษาอังกฤษ ย่ำยีหัวใจชาวพุทธ เหตุมีภาพเหยียบเศียรพระ
จี้สืบหาข้อเท็จจริง วธ.แจงเคยได้รับร้องเรียนมาก่อน
ประสานสหมงคลฟิล์มระบุแก้ไขไปแล้ว ยันไม่มีการนำภาพออกเผยแพร่
รุกหาต้นตอเผยแพร่ซ้ำ สำนักพุทธฯ
เร่งประสานกระทรวงการต่างประเทศหาแหล่งแพร่
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 20 สิงหาคม
มีพุทธศาสนิกชนรายหนึ่งโทรศัพท์แจ้งมายังหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก"
กรณีที่มีการจัดพิมพ์โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" ภาคภาษาอังกฤษ
เผยแพร่ไปยังต่างประเทศ
รูปแบบโปสเตอร์เป็นภาพของนักแสดงนำในเรื่องหันหลังคุกเข่ามือวางบนหน้าขา
ส่วนปลายเท้าวางอยู่เหนือและแนบติดเศียรพระพุทธรูป
พร้อมมีชื่อภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ คำว่า "ONGBAK" ขนาบเศียรพระพุทธรูปเอาไว้
พุทธศาสนิกชนรายเดิม กล่าวว่า
การออกแบบโปสเตอร์โดยมีรูปของ จา พนม เอาปลายเท้าเหยียบเศียรพระพุทธรูป
เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก
เนื่องจากเป็นการทำร้ายและย่ำยีหัวใจชาวพุทธ
จึงอยากให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงและวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมของโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวว่า
โปสเตอร์ผลิตโดยผู้ผลิตในไทย หรือต่างประเทศ
ผลิตโปสเตอร์ลักษณะนี้ออกมาได้อย่างไร หากเป็นโปสเตอร์ที่ผลิตในไทย
ทางบริษัทผู้ผลิต กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ปล่อยให้โปสเตอร์นี้ถูกเผยแพร่ไปยังต่างประเทศได้อย่างไร
น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
(วธ.) กล่าวว่า
เรื่องประชาชนร้องเรียนการนำเสนอภาพในโปสเตอร์ที่ไม่เหมาะสม
ซึ่งเป็นภาพเศียรพระพุทธรูปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนักแสดงนั้น
เรื่องนี้มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนมายังศูนย์เฝ้าระวังฯ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนนานมาแล้ว
โดยมีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงโปสเตอร์เรื่อง "องค์บาก"
ออกมาโฆษณาใหม่ๆ และสหมงคลฟิล์มก็รับไปปรับปรุงแก้ไขแล้ว
"ศูนย์เฝ้าระวังฯ เคยประสานไปยังบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด และทราบว่า
บริษัทได้แก้ไข ไม่มีการนำภาพนี้มาเผยแพร่อีกแล้ว
เนื่องจากคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.)
ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเนื้อหาของภาพยนตร์
ได้ห้ามไม่ให้เผยแพร่ภาพดังกล่าวอีกด้วย" น.ส.ลัดดา กล่าว
ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังฯ กล่าวอีกว่า
กรณีนี้จะต้องประสานงานไปยังเจ้าพนักงานตำรวจ กองทะเบียนตรวจภาพยนตร์
สำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลเรื่องการนำภาพยนตร์
หรือภาพโปสเตอร์โฆษณาภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ พ.ศ.2473 ระบุว่า
จะต้องไม่มีการเผยแพร่ภาพที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี และไม่กระทบต่อสถาบันชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วย
ซึ่งการนำภาพโปสเตอร์ที่ห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่นำออกมาเผยแพร่ซ้ำอีกครั้ง
ก็จะมีความผิดด้วย
“ต้องกลับไปดูต้นตอว่าใครเป็นผู้นำโปสเตอร์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายมาเผยแพร่ซ้ำในแหล่งใด
เพราะจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ พ.ศ.2473 กรณีนี้
วธ.ยังไม่ได้รับโอนงานกองทะเบียนตรวจภาพยนตร์จาก สตช.
จึงไม่มีอำนาจดำเนินการกับผู้ที่นำภาพนี้มาเผยแพร่ซ้ำ” ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังฯ
กล่าว
นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า
ยังไม่เห็นภาพโปสเตอร์ดังกล่าว
แต่จะให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร่งด่วน
หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจะประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อทักท้วง
ร้องเรียนไปยังประเทศที่มีการเผยแพร่โปสเตอร์
หรือเอาพระพุทธรูปไปติดในที่ไม่เหมาะสม
ซึ่งเจ้าของประเทศส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามพระพุทธศาสนาของไทย
นายกนก แสนประเสริฐ ผอ.ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา
สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม และรักษาการ
ผอ.สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า
ยังไม่ทราบเรื่อง จึงต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าโปสเตอร์อยู่ในลักษณะใด
ประเทศ หรือบริษัทไหนเป็นผู้ผลิต ซึ่งหลังดูรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว
จะแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานไปยังประเทศนั้นว่าเป็นการสมควรหรือไม่ที่จะมีโปสเตอร์แบบนั้น
"ในเรื่องของภาพยนตร์ มี สตช.ดูแลความถูกต้อง เหมาะสมของการจัดฉาย
หรือโปสเตอร์ที่ใช้เผยแพร่อยู่แล้ว และสถานทูตในประเทศต่างๆ
ก็ให้ความร่วมมือในการดูแล ถ้าไทยแจ้งให้ปรับปรุง หรือระงับการฉาย เผยแพร่
ประเทศต่างๆ ก็ยินดีทำตาม" นายกนก กล่าว
นายกนก กล่าวอีกว่า
ที่ผ่านมาประเทศที่ได้นำพระพุทธรูปไปกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ไม่ทราบว่าพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ชาวพุทธเลื่อมใสศรัทธา
ส่วนบทลงโทษนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศที่จะดำเนินการ
แต่ไทยไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
โดยไทยทำได้แค่ร้องเรียน หรือทักท้วงไปเท่านั้น
ที่มาจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1408 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 21 ส.ค. 50
เวลา 10:39:21
|