| • แค้นเมียมีกิ๊กจับได้ขอหย่าฟิวส์ขาดหน้าสามกระหน่ำตีบีบคอจนตาย |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 22 ส.ค. 50 เวลา 10:14:19 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แค้นเมียฟิวส์ขาดใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีก่อนจับบีบคอจนขาดใจตายคามือ
ผัวแค้นเมียแอบมีกิ๊กพอจับได้กลับขอหย่า พยายามเจรจาอ้อนวอนขอให้เห็นแก่ลูก กลับถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ฟิวส์ขาดใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีก่อนจับบีบคอจนขาดใจตายคามือ แล้วนำศพฝังดินโบกปูนทับ สุดท้ายสำนึกผิดเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อรับโทษคดีผัวฆ่าเมียฝังดินโบกปูนทับระบายแค้น หลังจากจับได้ว่าภรรยาแอบคบหากับชายอื่นครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม นายสันต์ สร้างเหม อายุ 31 ปี นำนายสายชล ขลุ่ยประเสริฐ อายุ 41 ปี เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ทรัพย์สุจริต รอง ผกก.สส.สภ.อ.สรรพยา โดยนายสายชล รับสารภาพว่า ได้ลงมือสังหารนางสายพิณ ขลุ่ยประเสริฐ อายุ 31 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วนำศพไปฝังดินไว้ที่หลังบ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
|
| |
| |
| นายสายชล ให้การว่า แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยากับนางสายพิณจนมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุได้ 15 ปี
ต่อมาครอบครัวมีปัญหาทางด้านการเงิน นางสายพิณ จึงไปทำงานอยู่ที่โรงงานตาข่ายมุ้ง ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นานๆ จึงจะมีโอกาสได้เจอกันสักครั้ง ตนก็ไว้เนื้อเชื่อใจมาโดยตลอด กระทั่งระยะหลังนางสายพิณมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทำให้ตนสงสัยจึงเดินทางไปที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อหาความจริง กระทั่งทราบว่า นางสายพิณ แอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนชายที่ทำงานอยู่โรงงานเดียวกัน
นายสายชล ให้การต่อว่า หลังจากทราบเรื่อง ก็ได้ขอร้องให้นางสายพิณเลิกยุ่งเกี่ยวกับชายคนดังกล่าวเสีย
แต่นางสายพิณ ไม่ยอมทำตาม และยังได้ขอให้ตนจดทะเบียนหย่าให้ โดยนัดหมายว่าวันที่ 14 สิงหาคม นางสายพิณ จะเดินทางกลับบ้านเพื่อให้ตนจดทะเบียนหย่าให้ "ในวันเกิดเหตุผมได้ขอร้องไม่ให้เขาหย่าจากผม เนื่องจากสงสารบุตรชายวัย 15 ปี ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ และให้นึกถึงความหลังครั้งเก่าที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ภรรยาผมกลับด่าว่าผมอย่างรุนแรง ด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนผมทนไม่ไหวใช้ไม้หน้าสามตีผู้ตายหลายครั้ง และจับบีบคอจนเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงนำศพไปใส่ในถุงกระสอบแล้วนำไปฝังดินไว้ที่ก่อไผ่หลังบ้าน โดยใช้ปูนโบกทับไว้เพื่อกันไม่ให้ศพส่งกลิ่นเหม็น หลังจากนั้นก็ทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปจึงสำนึกผิด จึงติดต่อให้นายสันต์ นำเข้ามอบตัวเพื่อรับโทษ" นายสายชล กล่าว
|
|
| ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวจาก ที่นี่ดอทคอม
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1874 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 22 ส.ค. 50
เวลา 10:14:19
|
