ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กรมการศาสนา-พระพยอม จวกพระสร้างจตุคามฯ ลูกกรอกประพฤติไม่เหมาะสม ถือเป็นอุตริพิเรนทร์ เชื่อวัด-ประชาชนไม่นำไปเลียนแบบ แจ้งหน่วยเกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว ด้านไวยาวัจกรวัดทวีการะอนันต์เผย หลังข่าวแพร่ มีโรงพยาบาลติดต่อมอบศพทารกให้อีกนับสิบราย แต่เจ้าอาวาสระบุไม่ทำจตุคามฯ ลูกกรอกอีก จากกรณีที่ พระสมศักดิ์ สีลสาโร เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ใช้เถ้ากระดูกทารกที่เสียชีวิต 28 คน มาบดเป็นมวลสารวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ที่วัดจัดสร้างในรุ่น "พรเทพเทวา เมตตามหามงคล" และรุ่น "รวยทวีคูณ" ซึ่งผู้รักษากฎหมายระบุว่า หากพ่อแม่ยกศพให้อย่างถูกต้อง ไม่ได้เป็นการขโมยมา ก็ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ แต่กระแสข่าวที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการวิจารณ์ในวงกว้างว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น ล่าสุด วันที่ 31 สิงหาคม หลังจากมีข่าวเผยแพร่ทาง นสพ."คม ชัด ลึก" ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาที่วัดทวีการะอนันต์ จนทำให้วัดที่มีพื้นที่กว่า 6 ไร่ ไม่เพียงพอจอดรถ การจราจรติดขัดยาวกว่า 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์ของพระสมศักดิ์ส่วนหนึ่งไปเฝ้าหน้ากุฏิ เพราะเกรงว่าหลวงพ่อจะถูกจับกุมดำเนินคดี พระสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียต่อศาสนา แต่ได้ศึกษาจากผู้รู้แล้วว่าไม่ผิดทั้งกฎหมายและธรรมวินัย สาเหตุที่ต้องสร้างจตุคามฯ เพราะวัดเป็นหนี้ค่าที่ดินอีกกว่า 7 ล้านบาท ส่วนการที่ผสมผงลูกกรอกลงไปจะทำเป็นรุ่นสุดท้าย ต่อไปจะไม่มีการสร้างวัตถุมงคลผสมผงลูกกรอกอีก แต่จะมีการบำเพ็ญกุศลให้บรรดาศพทารกที่เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร และจะสร้างเจดีย์เพื่อเอาผงกระดูกมาบรรจุไว้แทน ด้านนายสถิตย์ นิลวรรณ ไวยาวัจกรวัดทวีการะอนันต์ กล่าวว่า หลังจากมีข่าวได้มีประชาชนสนใจมาขอเช่าบูชาจตุคามฯ จำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนหลายแห่ง แจ้งความประสงค์จะนำศพทารกที่ผู้ปกครองยกให้โรงพยาบาลมามอบให้วัด เพื่อให้ทำประโยชน์ รวมกว่า 10 ราย แต่ยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธไป ต่อมาช่วงสายวันเดียวกัน พระราชปริยัตยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการให้ พระครูสิริพัฒนาภรณ์ (เจ้าอาวาสวัดบางขัน) เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมคณะ เดินทางมาที่วัด เพื่อสอบสวนข้อมูลว่ามีการกระทำที่ผิดธรรมวินัยหรือไม่ จากการตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ได้นำหลักฐานทางราชการและโรงพยาบาลมาชี้แจงอย่างละเอียด พระครูสิริพัฒนาภรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่า ศพของทารกหรือลูกกรอกนั้น มีการดำเนินการที่ถูกต้อง ไม่ผิดธรรมวินัยแต่อย่างใด ซึ่งจะรวบรวมหลักฐานและการให้ปากคำเสนอเจ้าคณะจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการสอบสวนเจตนาการสร้าง ก็พบว่ามีเจตนาที่ดีไม่ได้โอ้อวดแต่อย่างใด ด้าน พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น วัดไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เนื่องจากมีเอกสารชี้แจงที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ไม่ได้ไปขุดหรือลักขโมยศพทารก อีกทั้งพิธีเผาก็ทำตามหลักทางพระพุทธศาสนา ไม่ได้ทำอะไรให้น่าสังเวช และที่ผ่านมาวัดนี้ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือถูกร้องเรียนอะไร จึงไม่สามารถเอาผิดได้ ด้านความคิดเห็นของกรมการศาสนา นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เพิ่งรับทราบข่าวการสร้างจตุคามฯ แบบพิเรนทร์ทางสื่อมวลชน ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยสาเหตุจูงใจไม่รู้ว่าเป็นความเชื่อส่วนตัวของพระสงฆ์วัดดังกล่าว หรือเป็นการสร้างตามกระแสการสร้างวัตถุมงคลใหม่ๆ เพราะโดยปกติแล้วการสร้างวัตถุมงคลไม่นิยมนำศพทารกหรือผงศพทารก ลูกกรอก มาทำวัตถุมงคล จะมีแต่ส่วนผสมที่เป็นมงคลเท่านั้น เช่น ว่าน ดอกไม้ ธูปเทียน ทองที่ขูดมาจากองค์พระ ฯลฯ “การนำผงลูกกรอกมาทำวัตถุมงคล ถือเป็นการกระทำผิดหลักพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญเรื่องไสยศาสตร์ พระสงฆ์เองไม่ควรประพฤติปฏิบัติ ถือว่าผิดอาจาระ ไม่เหมาะสม แต่ถามว่าผิดวินัยหรือไม่ ไม่มีระบุไว้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การนำเอาศพลูกกรอกมาเผาเอาผงมาทำวัตถุมงคล ก่อนจะนำศพทารกมาทำพิธีกรรม ได้รับอนุญาตจากญาติของศพหรือไม่ หากไม่ได้รับอนุญาตถือว่ามีความผิดในฐานลักทรัพย์ อาบัติร้ายแรง” โฆษก พศ.กล่าว โฆษก พศ.กล่าวต่อว่า การนำเถ้ากระดูกลูกกรอกมาทำวัตถุมงคลไม่มีประกาศคณะสงฆ์ หรือในระเบียบชัดเจน ซึ่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ระบุไว้กว้างๆ ว่า ห้ามพระภิกษุสามเณรเป็นหมอทำเสน่ห์ยาแฝดอาถรรพณ์ เรียกเงินค่าเวทมนตร์ และห้ามทดลองของขลัง แต่ถ้าหยุดการกระทำได้ก็จะเป็นการดี อยากจะเตือนวัดและประชาชนทุกคน อย่าไปหลงเชื่อ ไม่ควรนำไปเลียนแบบ อย่างกรณีเณรแอนำศพเด็กมาย่างทำเสน่ห์ มีความผิดตามวินัยสงฆ์ ผิดกฎหมายในข้อหาทำลายซากศพต้องถูกลงโทษไป ดังนั้น พระสงฆ์ควรจัดพิธีแผ่เมตตาให้เด็กไปผุดไปเกิดดีกว่า ในกรณีพระสงฆ์วัดทวีการะอนันต์นั้น จะแจ้งให้สำนักคุ้มครองพระพุทธศาสนาตรวจสอบก่อน หากพบมีความผิดตามวินัยสงฆ์ จะส่งเรื่องให้เจ้าคณะผู้ปกครองลงโทษต่อไป ด้านนายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การนำเถ้าทารกมาทำวัตถุมงคลเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ยกตัวอย่าง กระดูกคนตายบางคนยังต้องนำไปลอยน้ำ แต่หากนำมาคล้องคอถือว่าเป็นมวลสารไม่ดี มีความพิเรนทร์ อุตริ อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นความผิดทางวินัยสงฆ์ เพราะพระท่านทำของท่านเอง คนเช่าก็รู้ว่าพระนำสิ่งอัปมงคลมาใส่ เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณพอที่จะคิดว่าอันไหนดี ไม่ดี วัดอื่นคงไม่นำไปเลียนแบบ “ตอนนี้กระแสองค์จตุคามฯ ซบเซาและถึงจุดอิ่มตัว ทุกวัดมีการสร้างกันหมด บางวัดสร้างไม่มีคนเช่าบูชา ให้ฟรีก็มี เพราะขายไม่ออก ดังนั้น การนำเถ้าผงทารกมาสร้างมวลสารเป็นการสร้างข่าว สร้างกระแส เพื่อดึงความสนใจ ต่อไปอาจจะมีรุ่นที่สร้างบนดวงจันทร์ก็ได้ เป็นการหาจุดขาย เป็นเรื่องอุตรินำสิ่งอัปมงคลมาสร้างวัตถุมงคล" นายปรีชา กล่าว ด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า จะไปศักดิ์สิทธิ์อะไรได้ เพราะในเมื่อตัวเด็กที่ตายนั้นเกิดมาก็มีกรรมและตายทันที แล้วจะไปมีอิทธิฤทธิ์บารมีอะไรมาช่วยคุ้มครองคนได้ เพราะขนาดตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ยังต้องใช้กรรมตั้งแต่เกิดมา ถามหน่อยเถอะว่า หากเราเป็นคนที่มีสติปัญญาแล้ว เราจะเอากระดูกของคนตายมาแขวนคอเราหรือเปล่า สังคมยุคนี้กำลังเข้าสู่สภาวะสรณะถดถอย ทำให้คนเราหันไปเชื่ออะไรแปลกๆ แต่กลับลืมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นแก่นแท้ กลับไม่นับถือนำไปปฏิบัติกัน ส่วนที่อ้างว่าเป็นการช่วยให้เด็กได้ไปเกิดใหม่ไวๆ นั้น หลักคำสั่งสอนนี้ไม่มีอยู่ในหลักศาสนาพุทธ
ข้อมูลจาก ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|