• เสี่ยอู๊ดไม่รอด ถูกรวบคาสนามบิน |
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 23 ธ.ค. 50 เวลา 09:10:06 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เสี่ยอู๊ดไม่รอด ถูกรวบคาสนามบิน
ความคืบหน้าการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกินความจริง เข้าข่ายฐานความผิดขายของโดยหลอกลวงประชาชน ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า หลังจากเข้านมัสการพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารแล้ว ได้ตกลงกันว่าทุกฝ่ายจะไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนจนกว่าได้ข้อเท็จจริงในทุกเรื่อง ต้องรอประมวลข้อมูลทั้งหมด
เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความสับสนของประชาชน ทั้งผู้ที่เช่าพระสมเด็จเหนือหัวไปแล้ว ผู้ที่จองไว้ หรือผู้ที่มีความสนใจเช่าพระดังกล่าวว่า สุดท้ายแล้วต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ อย่างไรก็ตาม การรับเช่าพระสมเด็จเหนือหัว ธนาคารทุกแห่งได้หยุดรับจองรวมทั้งจะไม่โอนเงินไปยังบัญชีผู้จัดสร้าง ระหว่างรอคืนเงินให้แก่ผู้ที่สั่งจองพระ
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวต่อว่า หลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวทั้งหมด จะเชิญสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กรมการศาสนา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) วัดสุทัศน์ เข้าร่วมหารือกับดีเอสไอในสัปดาห์หน้า
เพื่อร่วมพิจารณาสรุปข้อเท็จจริงว่ามีข้อใดที่เปิดเผยต่อสาธารณชนได้โดยไม่กระทบต่อรูปคดี เพราะวันนี้ข้อมูลบางเรื่องยังไม่แน่ชัดต้องรอรวบรวมจากทุกฝ่าย ส่วนผู้จัดสร้างพระ สมเด็จเหนือหัวคงต้องเรียกมาสอบสวนเป็นลำดับถัดไป
ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรณีจัดสร้าง พระสมเด็จเหนือหัวเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวน สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนของสำนักคดีอาญาพิเศษ คงไม่ สามารถให้ข้อมูลได้ อาจกระทบต่อรูปคดีระหว่างการดำเนินการในทางลับ
ส่วนประชาชนที่เช่าพระสมเด็จฯ หากมีความประสงค์ขอคืนเงินให้ยื่นคำร้องต่อ สคบ.หรือประสานกับสถานที่รับจองพระสมเด็จฯ ทั้งธนาคาร ไปรษณีย์ และร้านทอง ส่วนการโฆษณารับเช่าพระสมเด็จเหนือหัวตามที่สาธารณะ สคบ.กำลังพิจารณาถึงแนวทางในการระงับการโฆษณา คงต้องสอบถามรายละเอียดจากหน่วยงานดังกล่าวโดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้บริหารดีเอสไอเข้านมัสการพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ในฐานะประธานมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ เพื่อสอบถามประเด็นเกี่ยวกับการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวทำให้ได้ข้อมูลว่า การจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวในครั้งนี้พระวิสุทธาธิบดี อนุญาตให้จัดสร้างในฐานะประธานมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ไม่เกี่ยวข้องกับวัดสุทัศน์แต่อย่างใด
หลังจากกลุ่มผู้จัดสร้างเสนอว่าจะนำรายได้ส่วนหนึ่งทำบุญเข้ามูลนิธิ ขณะเดียวกันการสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดสัญลักษณ์ที่อยู่หลังองค์พระสมเด็จเหนือหัวว่าเป็นตรามงกุฎหรือมหามงกุฎหรือไม่ ถ้าเป็นตราดังกล่าวหากไม่ได้ขอพระบรมราชานุญาตก่อนนำไปใช้ หรือขั้นตอนวิธีการขอพระบรมราชานุญาตไม่ถูกต้อง ถือว่ามีความผิด
แต่หากการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นตราของมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ หรือตราชฎาที่สามารถใช้ได้ทั่วไปส่วนนี้จะไม่มีความผิด ส่วนการตรวจสอบกรณีผู้จัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ระบุว่าได้รับพระราชทานดอกไม้เป็นมวลสารในการสร้างพระ ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่า ผู้จัดสร้างนำดอกไม้พระราชทานจากเบื้องสูงที่ประทานให้พระราชาคณะไปเป็นมวลสารโดยไม่ได้ขออนุญาตจากสำนักพระราชวัง แต่อย่างใด
เมื่อเวลา 17.30 น. วันเดียวกันที่ตึกช้าง อาคารซี ชั้น 7 เอ็ม กทม. นายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด ประธานบริษัทไดมอนฮิลล์ จำกัด ผู้ดำเนินการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว เปิดแถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ว่า ทางบริษัทได้รับอนุญาตให้ ดำเนินการจัดสร้างจากมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์อย่างถูกต้อง มีลายเซ็นของพระวิสุทธาธิบดี ประธานมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ยืนยัน
สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อต้องการนำเงินรายได้ไปสร้างอุโบสถวัดโสดาประดิษฐาราม จ.ราชบุรี ตามแบบที่พระวิสุทธาธิบดีขอความอนุเคราะห์มา ขณะเดียวกันพระวิสุทธาธิบดี ยังอนุญาตให้บริษัทนำพระจำนวนหนึ่งมาเปิดให้ประชาชนเช่าบูชาผ่านทางบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนำรายได้ มาหักค่าใช้จ่ายด้วย
เนื่องจากในการดำเนินการจัดสร้างนั้น ตนจะออกค่าใช้จ่ายไปก่อน ส่วนที่เปิดจองผ่านธนาคาร จะเป็นการนำรายได้ไปสร้างอุโบสถโดยตรง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนทราบมาก่อนแล้วว่ามีกลุ่มบุคคลที่พยายามจะทำให้เกิดความเสียหาย ยอมรับว่าการสร้างพระสมเด็จเหนือหัวมีการโฆษณาเยอะมาก เพราะต้องการเงินจำนวนมากนำไปสร้างอุโบสถและนำไปเป็นกองทุนในการดูแลรักษาอุโบสถต่อไปไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
นายสิทธิกรกล่าวต่อว่า เรื่องมวลสารที่ใช้จัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว นั้น เป็นดอกไม้ที่อยู่ในเครื่องบูชากัณฑ์เทศน์ที่พระวิสุทธาธิบดีได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งที่ได้รับการนิมนต์ ให้ไปเทศน์ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2549 มีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ทุกช่องด้วย
และพระวิสุทธาธิบดีได้นำเครื่องบูชากัณฑ์เทศน์ดังกล่าวมาเก็บไว้ที่กุฏิ เมื่อดอกไม้ เหี่ยวก็ไม่กล้านำไปทิ้ง เพราะเป็นของที่ได้รับพระราชทานมา จึงมอบให้ตนมาใช้เป็นมวลสารในการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ส่วนตราพระมงกุฎที่อยู่ด้านหลังพระสมเด็จเหนือหัว นั้น แล้วแต่คนจะตีความ เพราะพระวิสุทธาธิบดีท่านเห็นว่าตราดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของตราสัญลักษณ์ของมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ จึงเห็นว่าสามารถนำมาใช้ได้
“สิ่งที่ผมวิตกคือ การที่มีบุคคลมาให้ข่าวว่าการสร้างพระครั้งนี้ เข้าข่ายฉ้อโกงทำให้คนที่เช่าบูชานำพระมาคืน ผมอยากตั้งข้อสังเกตว่า หากกระบวนการยุติธรรมชี้ว่าไม่ผิด ใครจะรับผิดชอบ แต่หากตัดสินมาว่าผิดจริง ผมก็พร้อมยอมรับผิด และผมยินดีให้ตรวจสอบ การฉ้อโกงต้องดูว่าใครได้ผลประโยชน์
ผมและพระวิสุทธาธิบดีไม่มีใครได้ประโยชน์เลย ส่วนจะมีการดำเนินการกับผู้ที่มาให้ข่าวทำให้โครงการนี้เสียหายหรือไม่ ผมไม่อยากทะเลาะกับใคร และไม่อยากฟ้องร้องกับใคร เพราะผมมั่นใจว่าทำในสิ่งที่ดีที่สุด และผมไม่ติดขัดหากจะมีการรับคืนพระ เพราะเท่าที่ทราบคนติดต่อขอคืนมาน้อยมาก” นายสิทธิกรกล่าว
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมหมายจับศาลอาญา ในความผิดตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค มาตรา 47 ข้อหาโฆษณาหรือใช้ฉลากหรือข้อความอันเป็นเท็จ
อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ควบคุมตัวนายสิทธิกร หรือเสี่ยอู๊ด พระเครื่อง ประธานบริษัทไดมอนด์ฮิลล์ ผู้ดำเนินการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ที่อาคารผู้โดยสารขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะเช็กอินเพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ด้วยเครื่องการบินไทย เที่ยวบินทีจี 640 กรุงเทพฯ-โตเกียว ทางเวลา 22.35 น.
จากนั้นนำตัวนายสิทธิกรขึ้นรถตู้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ บางซื่อ กทม. เพื่อสอบปากอย่างละเอียดต่อไป สำหรับความผิดตาม มาตรา 47 กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1389 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 23 ธ.ค. 50
เวลา 09:10:06
|