นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าววันนี้ (15 ม.ค.) ในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 อสมท กรณีผู้ชม และ พนักงานทีไอทีวี แจ้งความฟ้องร้อง ประเด็นอาศัยอำนาจให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามคำสั่งประกาศกรมประชาสัมพันธ์ ฉบับที่ 25/2551 ลงนามโดยนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้ปิดสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ตั้งแต่เวลา 24.00 น.วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า
ตนเข้ใจว่าทุกฝ่ายเข้าใจเรื่องกฎหมายสื่อสารธารณะดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลมีนโยบายจัดการให้สถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟเข้ามาสู่ระบบสื่อสาธารณะ ที่ผ่านมา ตนได้แจ้งสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ตลอดเวลาว่า การดำเนินการทั้งหมดต้องสิ้นสุดลงทันที ที่พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อกฎหมายประกาศมา ณ วันที่ 14 ม.ค. ในบทเฉพาะกาล มาตรา 57 กำหนดไว้ชัดเจนว่า ทรัพย์สินหรือการดำเนินการใดๆ ให้เปลี่ยนไปสู่ระบบการบริหารจัดการสื่อสาธารณะโดยทันที
"เมื่อกฎหมายมีผล ณ วันประกาศใช้ในพระราชกิจจานุเบกษา ผมในฐานะผู้ส่งมอบ ก็ต้องหมดอำนาจที่มีอยู่เดิม อำนาจการจัดการสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีใหม่ทั้งหมด ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร ทั้ง เรื่องคน เรื่องรายการ เรื่องการจัดการทั้งหมด ผมจึงจำเป็นต้องดำเนินงานในการทำให้สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีสิ้นสุดเป็นการชั่วคราว และมาเริ่มสถานะสถานีสื่อสาธารณะในเวลา 00.00 น.วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา โดยไม่มีโฆษณา" อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าว
อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากอำนาจการบริหารจัดการดังกล่าวมาในรูปแบบคณะกรรมการบริหาร โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีมติในเช้าวันเดียวกันนี้ แต่งตั้งกรรมการทั้ง 5 คน ก่อนส่งกิจกรรรมทั้งหมดให้ กรรมการทั้ง 5 คนดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดไม่รอ ให้กรรมการ ทั้ง 5 คน มาตัดสินใจเรื่องการหยุดการออกอากาศชั่วคราว อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กฎหมายระบุว่าให้มีผลบังคับใช้ทันที เรื่องไม่ให้มีโฆษณา ดังนั้น หากมีการออกอากาศต่อไป ก็จะมีโฆษณา ซึ่งจะขัดต่อกฎหมาย ดังนั้น หากตนไม่ออกคำสั่งเช่นนี้ ก็จะทำให้มีปัญหา และตนจะถูกเล่นงานเช่นกัน ส่วนตั้งแต่วันนี้ คณะกรรมการทั้ง 5 คน จะมีคำสั่งให้ทำอย่างไร ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ขณะนี้ตนมีข้อเสนอทั้งหมดแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปิด TITV คืนนี้! เชื่อมสัญญาณช่อง11
ข้อมูลและภาพประกอบจาก