พลิกแผ่นดินล่าคนร้ายลวง ด.ญ.ชั้นอนุบาล 2 เข้าป่าสวมวิญญาณอำมหิตจับหัวโขกก้อนหินเละทั้งใบหน้า ดีที่วิ่งหนีตายมาพบชาวบ้านเลยช่วยไว้ได้ ผวาจัดเพ้อชื่อผู้ต้องสงสัยเป็นรุ่นพี่ ป.4 วัย 11 ขวบ ที่พาไปเก็บดอกไม้ 2 ต่อ 2 แม่หวั่นลูกถูกลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ ด้านรุ่นพี่รับว่าพาน้องเข้าไปในป่าจริง แต่อ้างว่าถูกคนร้ายเข้ามาทำร้าย ทำเอา ตร.มึนตึ้บ อาศัยพยานแวดล้อม- นิติวิทยาศาสตร์คลี่คลายคดี เผยไม่พบร่องรอย ข่มขืน
 
สลดหนูน้อยอนุบาล 2 ถูกลวงเข้าป่าทำร้ายร่างกายสาหัสครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 17 มี.ค. นางบุญ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ชาวบ้าน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เดินสีหน้าอมทุกข์เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผกก. และ พ.ต.ท.สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผกก.สส. ว่า ด.ญ.เอ ลูกสาววัย 6 ขวบ นักเรียนอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ถูกล่อลวงเข้าป่าทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม โดยคนร้ายได้จับหัวน้องเอโขกกับก้อนหินในป่าจนแตกไปทั้งใบหน้า เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายอาจต้องการล่อลวงลูกสาวเข้าไปในป่าเพื่อข่มขืน แต่เด็กขัดขืนเลยถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส
 
นางบุญ เล่าทั้งน้ำตาคลอเบ้าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.30 น. เพื่อนบ้านได้พบน้องเอได้รับบาดเจ็บนั่งร้องไห้เลือดไหลอาบร่าง หวาดกลัวตัวสั่นอยู่ริมชายป่าละเมาะ จึงได้นำตัวส่งรักษาที่สถานีอนามัยบางเสร่ และเด็กได้บอกว่า “พี่จั๊บ” ทำร้ายหนูหลายครั้ง ต่อมาทางสถานีอนามัยได้ส่งตัวน้องเอไปรักษาตัวที่ รพ. สัตหีบ กิโล 10 ต.พลูตาหลวง ต่อมาได้พบ ด.ช.จั๊บ (นามสมมุติ) อายุ 11 ขวบ รุ่นพี่ชั้น ป.4 ซึ่งเป็นผู้พาน้องเอเข้าไปในป่าได้เข้ามา ตรวจรักษาด้วย โดยอ้างว่าถูกคนร้ายเตะเข้าที่ท้อง 2 ครั้ง โดย ด.ช.จั๊บ ได้พูดคุยยืนยันกับน้องเออ้างว่าตนไม่ได้เป็นคนทำร้าย แต่มีใครไม่รู้เข้ามาทำร้ายตนและฉุดน้องเอเข้าป่าไป ขณะที่น้องเอยืนยันว่าไม่มีคนอื่น ๆ เข้าไปในป่าด้วย นอกจาก ด.ช.จั๊บ เพียงคนเดียว แต่ไม่ยืนยันว่าด.ช.จั๊บ เป็นคนทำร้ายร่างกาย
 
ด้าน พ.ต.อ.สุภธีร์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการสอบสวนและหาพยานแวดล้อมให้มากที่สุด เพราะเป็นเยาวชนด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะ ด.ช.จั๊บ ที่มีคนยืนยันและเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนพาน้องเอเข้าไปในป่าละเมาะข้างหมู่บ้านเพื่อเก็บดอกไม้จริง แต่อ้างว่าถูกคนร้ายเข้ามาทำร้ายเตะเข้าที่ท้อง 2 ครั้ง และฉุดน้องเอเข้าในป่าลึก จึงได้วิ่งออกมาเรียกให้คนช่วย แต่น้องเอได้กระเสือกกระสนหนีเอาตัวรอดไปอยู่ริมป่าแล้ว เมื่อสอบถามตัวน้องเอได้ยืนยันว่าพี่จั๊บพาเข้าไปในป่าโดย ไม่มีผู้อื่น ขณะเดียวกัน ผู้ที่พบเด็กและพาส่งโรงพยาบาลได้ยินจากปากเด็กว่า “พี่จั๊บทำหนู” อย่างไรก็ตาม ผลตรวจร่างกายเด็กหญิงไม่พบร่องรอยข่มขืน เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนพยานแวดล้อมและพึ่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์คลี่คลายคดีต่อไป.