• 2 มือปืนแก๊งฆ่าตร. กลัวถูกวิฯ ลนลานชิงมอบตัว |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 19 มี.ค. 51 เวลา 10:03:23 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
คดีสะเทือนขวัญกรณีแก๊งยานรกกระหน่ำยิง ส.ต.อ.ศราวุธ จันทรคติ อายุ 34 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
เสียชีวิตบนสะพานข้ามคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ถนนเสมาฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ลำลูกกา ขณะที่ผู้ตายซ้อนแผนจับกุมโดยให้สายติดต่อล่อซื้อ แต่พลาดท่าคนร้ายไหวตัวทัน ล็อกตัวสายตำรวจไว้เป็นตัวประกันก่อนยิง ส.ต.อ.ศราวุธดับอนาถ หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมแก๊งทมิฬทันควัน 2 คน ประกอบด้วยนายวิษณุ แววนิล อายุ 20 ปี และนายธนวัฒน์ แพงราษฎร์ อายุ 26 ปี และยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายศรีชล หรือต้อง หรือแก่เป๋ ยศทัพ อายุ 33 ปี กับนายชาญยุทธ หรือปิง เฉลยภาพ อายุ 26 ปี สองหัวโจกแก๊งยาบ้า ซึ่งถูกตำรวจตามล่ากระชั้นชิดนั้น
ในที่สุดแก๊งทมิฬทนแรงกดดันของตำรวจไม่ไหวติดต่อขอมอบตัวทั้ง 2 คนแล้ว
โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 มี.ค. นายศรีชล หรือต้อง หรือแก่เป๋ ยศทัพ อายุ 33 ปี 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกตามล่าจับกุม ได้มอบหมายให้เพื่อนโทรศัพท์ติดต่อผู้สื่อข่าวทุกสังกัดใน จ.อ่างทอง แจ้งให้ทราบว่านายศรีชลมีความประสงค์ต้องการมอบตัวกับตำรวจ เพราะเกรงว่าจะถูกวิสามัญฯ แต่กลัวจะไม่ ปลอดภัย จึงขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยประสานตำรวจ และร่วมเดินทางไปรับตัว พร้อมแจ้งเบาะแสว่าขณะนี้นายศรีชล กบดานอยู่ที่เชิงเขาวง เขต อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
หลังทราบความประสงค์ กลุ่มผู้สื่อข่าว จ.อ่างทอง จึงประสานกับ พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง
ร่วมกับ พ.ต.ท.พีรพันธ์ จันทร์เทียน รอง ผกก.สส.บก.ภ.จ.อ่างทอง เดินทางไปรับตัวนายศรีชลยังจุดนัดหมายบริเวณเชิงเขาวง พอไปถึงพบว่านายศรีชลนั่งรอด้วยความหวาดระแวงเกรงจะไม่ปลอดภัยอย่างเห็นได้ชัด แถมมีบาดแผลถูกยิงที่ขาขวาได้รับบาดเจ็บ ตกเป็นเสือลำบาก พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้มาก่อนว่า ส.ต.อ. ศราวุธเป็นตำรวจ เพราะวันเกิดเหตุตนพร้อมด้วยนายชาญยุทธขับรถปิกอัพไปจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากนายวิษณุ แววนิล กับนายธนวัฒน์ แพงราษฎร์ ที่ถูกจับกุมตัวแล้ว นัดให้ไปรับเงินที่เป็นหนี้อยู่ 9,000 บาท ไม่รู้ว่ามีตำรวจล่อซื้อยาบ้าจากทั้ง 2 คนอยู่
|
|
|
มือปืนยิงตำรวจกล่าวอีกว่า ช่วงเกิดเหตุมีการชุลมุนกันจนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น
และกระสุนพุ่งเจาะขาขวาตนได้รับบาดเจ็บ และหันไปเห็นผู้ตายถือปืนอยู่ จึงได้ชักปืนออกมายิงสวนจนล้มฟุบ ก่อนขับรถออกมาแยกย้ายกันหลบหนี มาทราบภายหลังว่าผู้ตายเป็นตำรวจ จึงให้เพื่อนติดต่อผู้สื่อข่าวขอมอบตัวดังกล่าว หลังรับตัวแล้วตำรวจรีบนำนายศรีชลกลับไปที่ จ.อ่างทอง และทันทีที่เดินทางถึง พบว่า พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมารอรับตัวผู้ต้องหาที่ บก.ภ.จ.อ่างทอง อยู่ก่อนแล้ว พร้อมรีบนำตัวกลับไปที่สำนักงานตำรวจภาค 1 ทันที โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์
ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 นำโดย พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภาค 1
พ.ต.ท.จีรวัฒน์ แนวจำปา รอง ผกก.กก.สส.บก.ภ.จ.ปทุมธานี สืบทราบว่านายชาญยุทธ หรือปิง เฉลยภาพ ผู้ต้องหาอีกคน หนีไปกบดานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.เมืองกำแพงเพชร จึงนำกำลังตามล่าเต็มพิกัด กระทั่งผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหว อีกทั้งเกรงว่าจะถูกมือที่สามบุกอุ้มฆ่าทิ้ง จึงได้
นัดมอบตัวยังที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง เมื่อตอนค่ำของวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา
หลังรับมอบตัว ชุดสืบสวนภาค 1 นำไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร แล้วรีบนำกลับไปที่สำนักงานตำรวจภาค 1 เพื่อเค้นสอบปากคำเพิ่มเติมทั้งคืนจนยอมรับสารภาพสิ้น ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก. ภ.จ.ปทุมธานี นำตัวนายศรีชลกับนายชาญยุทธ 2 ผู้ต้องหาแถลงข่าวที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี โดยมีนายประวัติ จันทรคติ กับนางนวล กองเกิน พ่อแม่ผู้ตาย เดินทางมารับฟังการแถลงข่าวอย่างใกล้ชิดด้วย ทั้งนี้ พล.ต.ท.รชตกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตำรวจได้ ระดมกำลังเข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่เป็นหัวโจกเต็มที่จนตามจับกุมได้ทั้งคู่
ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบปากคำที่ผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นตำรวจ ก็ไม่เป็นผลต่อรูปคดี ถือว่าเป็นความผิดอยู่ดี
ซึ่งต้องขอขอบคุณตำรวจทุกนายที่ช่วยกันปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว และถือว่าเป็นความโชคดีของผู้ต้องหาที่ไม่คิดต่อสู้ยอมมอบตัวแต่โดยดี ในวันที่ 19 มี.ค.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และติดตามหาปืนของกลางเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป
ด้านนางนวล กองเกิน แม่ตำรวจเหยื่ออำมหิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอขอบคุณตำรวจทุกนายที่ช่วยกันคลี่คลายคดีจนติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊งอย่างรวดเร็ว ความจริงแล้วที่ผู้ต้องหามาขอขมานั้นไม่อยากให้อภัย แต่เมื่อรู้ถึงบาปบุญคุณโทษแล้วก็อโหสิให้ชดใช้กรรมตามที่ก่อไว้
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1192 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 19 มี.ค. 51
เวลา 10:03:23
|