โจรชุมยิ่งกว่ายุง ! ก่อเหตุสุดอหังการ บุกปล้นเป็ดยกฝูง 1,500 ตัว รองนายก อบต. เจ้าของเป็นถึงกุมขมับ ก่อนเกิดเหตุ คนร้าย 6 คน บุกจู่โจมจับคนเฝ้าเป็ด มัดมือและเท้า รุมยำเละคางแตกเย็บ 15 เข็ม ก่อนเรียกพวกให้ขับรถ 6 ล้อมาต้อนเป็ดหนีลอยนวล “ผู้การจังหวัด” สั่งล่าคนร้ายด่วน เชื่อเป็นคนในวงการเดียวกัน

รุมปล้นเป็ดสุดอหังการครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 มี.ค.

ร.ต.ท.ธีรภัทร อู่นาค ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์ที่กลางทุ่งนา หมู่ที่ 2 ต.ย่านซื่อ จึงรีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ นายเรืองศักดิ์ เครือแก้ว อายุ 44 ปี ยืนเนื้อตัวสั่น ตามร่างกายบอบช้ำหลายแห่ง บริเวณใต้คางมีบาดแผลถูกตีเย็บ 15 เข็ม ให้การเสียงยังไม่หายตกใจว่า ตนรับจ้างเลี้ยงเป็ดอยู่ที่ อ.โพธิ์ทอง และเพิ่งย้ายมารับจ้างเลี้ยงเป็ดให้นายสำลี น้อยหนองวุ้ง รองนายก อบต.บางพลับ ที่ ต.ย่านซื่อ ได้เพียง 3 วัน ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ต้อนเป็ดเข้าเล้าและเข้านอน จากนั้นเวลาประมาณ 03.00 น. ได้มีวัยรุ่น 6 คน ขับขี่ จยย. 4 คัน มาจอดอยู่ที่หน้าโรงนอน ต่อมาทั้งหมดได้ลงจากรถ ปรี่เข้ามาใช้เชือกมัดมือมัดเท้าตนและรุมตี รุมกระทืบตนอย่างเหี้ยมโหด ตนต้องแกล้งสลบเพื่อเอาชีวิตรอด จนกลุ่มคนร้ายตายใจช่วยกันอุ้มตนไปทิ้งในป่า ระหว่างนั้นคนร้ายได้โทรศัพท์ไปบอกพวกที่รออยู่ว่า “เอารถมาใส่ได้เลยมันเสร็จ ไปแล้ว”

เหยื่อคดีปล้นเป็ด เล่าต่อไปว่า สักพักหนึ่งตนได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งเข้ามา และได้ยินเสียงคนร้ายไล่ต้อนเป็ดขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล

จากนั้นตนพยายามดิ้นจนหลุดจากพันธนาการ จึงเดินโซซัดโซเซไปในหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่เจอชาวนาจึงนำส่ง โรงพยาบาล ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ ขณะที่ นายสำลี เจ้าของเป็ด กล่าวอย่างหัวเสียว่า ตนมีเป็ดทั้งสิ้น 1,500 ตัว หลังเกิดเหตุ ตนได้สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว จนทราบว่าช่วงเกิดเหตุ เห็นรถกระบะกับรถหกล้อวิ่งเข้าไปที่กลางทุ่งนา จากนั้นรถกระบะได้วิ่งนำหน้ากลับมา ส่วนรถหกล้อวิ่งบรรทุกเป็ดเต็มคันวิ่งตามหลังออกมาติด ๆ จึงวอนขอให้ตำรวจจับแก๊งดังกล่าวให้ได้ เพราะสร้างความเสียหายทั้งร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้

ด้าน พล.ต.ต.ธนิศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าวว่า

คนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มผู้เลี้ยงเป็ดเหมือนกัน เนื่องจากรู้วิธีการขนย้ายเป็ดและรู้จุดที่นายสำลีนำเป็ดมาปล่อยเป็นอย่างดี ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดที่เปลี่ยวและปลอดคนจึงทำการบุกปล้นอย่างอุกอาจ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เรียกพยานที่เห็นรถวิ่งผ่านในช่วงเกิดเหตุมาสอบสวนหาเบาะแสคนร้ายอย่างเร่งด่วน โดยกำชับให้ชุดสืบสวนจับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้ สำหรับสาเหตุนั้น ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเพิ่มเติมว่านายสำลีเคยมีความขัดแย้งกับใครบ้าง เพื่อเร่งคลี่คลายคดีต่อไป.